1. SistaCafe
  2. วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น How to อยู่กับฝุ่นตัวร้ายยังไงให้รอด ?

อย่างที่เพื่อนๆ รู้กันเนอะ ว่าช่วงนี้ฝุ่นพิษเยอะมาก มากซะจนไม่อยากจะหายใจเข้า เพราะกลัวว่ามันจะไปทำร้ายสุขภาพ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องอยู่กับเจ้าฝุ่น pm 2.5 ให้ได้! และวันนี้เรามี 15 วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น มาฝาก เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกๆ คนสามารถทำตามกันได้แน่นอนนอกจากการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นแล้วเนี่ย ยังมีวิธีอะไรอีกบ้าง วันนี้เราจะได้รู้ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ จะมีวิธีป้องกันแบบไหนบ้าง เอาเป็นว่าไปดูวิธีป้องกันทั้งหมดที่เราหยิบมาฝากกันในวันนี้เลยดีกว่าค่ะ!


🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳


ฝุ่น PM 2.5



เรามาทำความรู้จักเจ้าฝุ่นพิษชนิดนี้กันอีกสักรอบ รู้แล้ว รู้อีกก็ไม่ผิด ฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งมันเล็กมากๆ สามารถเข้าไปทำร้ายอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายของเราได้แบบสบายๆ เลยค่ะ แล้วรู้มั้ยว่ายิ่งฝุ่นละอองมีขนาดเล็กลงมากเท่าใด มันก็จะยิ่งเป็นภัยอันตรายต่อสุขภาพมากเท่านั้น! ยิ่งถ้าใครที่มีโรคประจำตัวด้วยแล้ว เช่น โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ โรคปอด ก็ยิ่งอันตรายมากๆ และแน่นอนว่า

PM2.5 มาจากไหน

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า เจ้าฝุ่นพิษ หรือที่เราเรียกๆ กันว่า PM 2.5 มันเกิดมาจากอะไร คำถามนี้ มีคำตอบ ฝุ่น PM 2.5 เกิดมาจาการเผาไหม้ และการใช้พลังานต่างๆ อาทิ ยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม ควันบุหรี่ การเผาเศษพืชและขยะ ปฎิกิริยาเคมีในอากาศ ซึ่งฝุ่นที่เกิดขึ้นนี้ จะแตกต่างจากฝุ่นทั่วๆ ไป แต่เอาจริงๆ แค่ฝุ่นทั่วๆ ไปก็ว่าแย่แล้วนะ เจอฝุ่นพิษเข้าไป ยิ่งแย่มากขึ้นเป็นหลายเท่า เพราะฝุ่น PM 2.5 มันเป็นอันตรายที่สุดถึงที่สุด

ผลกระทบต่อสุขภาพ

ที่เกิดจากฝุ่นพิษ ขอบอกเลยว่า อันตรายต่อทุกสิ่งจริงๆ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต สุขภาพผิว ไม่ว่าจะ ไอ จาม แสบจมูก หายใจติดขัด แน่นจมูก รวมไปถึงแสบผิว คันผิว เป็นสิว ผิวอักเสบ ยิ่งคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่าง เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษสูง เพราะมันอันตรายมากจริงๆ ค่ะ


(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : bangkokpattayahospital)


🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳


15 วิธีดูแลตัวเองจากฝุ่น

เรามีวิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษเหล่านี้ค่ะซึ่งวันนี้เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำเพื่อนๆ ด้วยเหนือสิ่งอื่นใด เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมากเวอร์ ฉะนั้นอะไรที่ป้องกันได้ ก็ควรทำซะจะมีวิธีแบบไหนบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลย


สวมหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้

วิธีที่ง่ายมากๆ สำหรับคนที่มีความจำเป็นที่จะต้องออกไปเผชิญฝุ่นในทุกๆ วัน ก็คือการสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่ด้วยความที่ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากๆ ฉะนั้นหน้ากากที่แพทย์หรือพยาบาลใส่ในห้องผ่าตัดนั้น ไม่สามารถป้องกันฝุ่นพิษนี้ได้นะ ฉะนั้น หน้ากากที่เหมาะสมและสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้นั้น จะต้องเป็นหน้ากาก N95 (กรองฝุ่นได้ 95%)และหน้ากาก N99 (กรองฝุ่นได้ 99%) ซึ่งราคาก็อาจจะสูงกว่าหน้ากากอนามัยทั่วๆ ไป แต่เพื่อการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราแนะนำให้ใช้แบบนี้แทนจะดีกว่าเนอะ


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


อยู่บ้านก็อย่าชะล่าใจ ปิดประตู - หน้าต่างกันฝุ่นพิษซะ!

อยู่ข้างนอก เราควบคุมปริมาณของฝุ่นไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือการป้องกันเบื้องต้นเท่านั้น แต่อยู่ในบ้าน เราสามารถควบคุมปริมาณของฝุ่นได้ฉะนั้นวิธีแรกที่จะขอแนะนำเพื่อนๆ เลยก็คือ ให้ปิดหน้าต่าง - ประตูให้สนิท เพราะว่าในช่วงที่บ้านเมืองกำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤติฝุ่นพิษแบบนี้ มันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ตามท้องถนนหรอกนะ แต่มันเกิดขึ้นทั่วทุกมุมของประเทศ แน่นอนว่าฝุ่นพวกนี้สามารถลอยเข้ามาภายในอาคารบ้านเรือนของเราได้ การปิดประตูและหน้าต่างให้สนิทนั้น ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองพัดเข้ามาในบ้าน เพราะบางครั้งถ้าเกิดฝุ่นพิษพวกนี้พัดเข้ามาในบ้าน คนที่อยู่ในบ้านอาจจะได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษเหล่านี้ได้ฉะนั้นป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่านะจ๊ะ




หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยค่ะ เราไม่ขอเถียง แต่ในภาวะวิกฤตแบบนี้ ท่ามกลางฝุ่นพิษ บางครั้งการออกกำลังกายนอกบ้าน ก็อาจจะนำพาซึ่งความไม่ปลอดภัยมาสู่ตัวของเราได้เช่นกันนะ ดังนั้นสำหรับคนที่ชอบไปออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้าน ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ช่วงนี้ขอให้ลดๆ ลงหน่อยได้มั้ย อาจจะเปลี่ยนมาออกกำลังกายในบ้านแทนก่อนก็ได้นะ รอให้ฝุ่นมันเบาบางลงกว่านี้ แล้วค่อยกลับไปออกกำลังกายข้างนอกตามปกติ ไม่งั้นเจ้าฝุ่น PM 2.5 อาจจะส่งผลให้สุขภาพของคุณมีปัญหาได้นะคะ แต่สมมติว่าถ้ามันจำเป็นจริงๆ ไม่ได้ ฉันต้องไปออกบูธ ต้องไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ก็ควรป้องกันด้วยการใส่หน้ากาก N95 หรือ N99 ด้วยนะคะ


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


กลั้วคอด้วยน้ำสะอาด

อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ สำหรับคนที่มักจะต้องเผชิญกับฝุ่นบ่อยๆ แนะนำว่าให้หมั่นกลั้วคอด้วยน้ำสะอาด อาจจะดูง่าย แต่นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีนะ วิธีนี้จะช่วยล้างฝุ่นในช่องปากของเราได้ แนะนำว่าให้กลั้วคอด้วยน้ำสะอาดวันละ 3 – 4 ครั้ง จะช่วยลดปริมาณฝุ่นที่ร่างกายได้รับลงไปได้และควรดื่มน้ำให้บ่อยขึ้นด้วย ที่สำคัญถ้าเป็นไปได้ ควรดูแลรักษาระบบท่อประปา ถังพักน้ำ และภาชนะบรรจุน้ำทุกชนิดภายในบ้านให้ดีและสะอาดอยู่เสมอ ปิดฝาให้มิดชิด เพื่อให้น้ำประปาไร้การปนเปื้อนและคงคุณภาพ แต่ถ้ารู้สึกว่า ฉันไม่มั่นใจเลย ช่วงนี้ก็ซื้อน้ำขวดที่เป็นแพ็กๆ มาดื่มแทนไปก่อนก็ได้ เท่านี้ก็พอจะช่วยป้องกันและลดปริมาณฝุ่นที่ร่างกายได้รับเข้าไปได้แล้ว




หมั่นทำความสะอาดบ้าน

เรื่องของการทำความสะอาดบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันฝุ่นได้ดีเลยนะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ อาจจะไม่ต้องทุกวันก็ได้ แต่อย่างน้อยๆ อาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง ก็ยังดี โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดตามชั้นวางของ ตามตู้ต่างๆ และอย่าลืมทำความสะอาดพื้นด้วยการถูด้วยนะจ๊ะ เท่านี้ก็จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองภายในบ้านได้แล้วค่ะ แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือไม้กวาดในการปัดฝุ่นนะ เพราะมันอาจจะทำให้ฝุ่นละอองกระจายตัวมากขึ้น


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


เครื่องฟอกอากาศช่วยได้

อีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน และช่วยป้องกันตัวเองจากฝุ่นได้คือ การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ถือว่าเป็นอะไรที่เหมาะมากๆ กับสภาวะแบบนี้มาก! เพราะจะช่วยกรองฝุ่นละอองภายในบ้านให้น้อยลงได้ ซึ่งก่อนการติดตั้งนั้น เพื่อนๆ จะต้องมั่นใจก่อนว่า เครื่องฟอกอากาศนั้น มีขนาดเหมาะสมกับห้องภายในบ้านด้วย แนะนำให้ติดเครื่องฟอกอากาศประเภทที่ใช้แผ่นกรองแบบ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) เพราะเขาจะช่วยลดปริมาณฝุ่นควันได้มากกว่า เร็วกว่า และดีกว่า ซึ่งสามารถ ลดปริมาณฝุ่นจนได้ระดับสภาพอากาศที่ปลอดภัยแก่เรา ถือว่าเป็นตัวช่วยชีวิตที่ดีต่อใจอย่างแรง!




ปลูกต้นไม้ไว้ในบ้าน ก็ช่วยได้เหมือนกัน!

แต่สำหรับคนที่ ไม่มีกำลังพอที่จะซื้อเครื่องฟอกอากาศ ไม่เป็นไรค่ะ เรามีอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ มาแนะนำ ต้นทุนต่ำ แถมดีไม่แพ้กัน ซึ่งนั่นก็คือ การปลูกต้นไม่ฟอกอากาศ นั่นเอง คือจะบอกว่า ต้นไม้บางชนิดสามารถปลูกในบ้านได้นะคะ แถมต้นไม้บางต้น ก็มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศได้ด้วย ซึ่งเหมาะมากๆ กับภาวะฝุ่นพิษแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น ลิ้นมังกร เยอบีร่า จั๋ง บอสตันเฟิร์น เดหลี ปาล์มไผ่ สาวน้อยประแป้ง ว่านหางจระเข้ เบญจมาศ และพลูด่าง ยังไงก็ลองไปหามาปลูกกันดูนะ นาทีนี้ ธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับมนุษย์อย่างเราเช่นกันค่ะ


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


เช็กและติดตามข่าวสาร

อีกเรื่องนึงที่อยากให้เพื่อนๆ ติดตาม คือข่าวสารเกี่ยวกับฝุ่น โดยเฉพาะใครที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน หรือชอบไปทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยๆ ต้องตามติดเจ้าฝุ่นให้ดีๆ ถ้าไม่ใช่คนที่ดูข่าว แนะนำอีกวิธีที่ง่ายมากๆ เลยคือ ติดตั้งแอปพลิเคชันเช็กค่าฝุ่น PM 2.5 เลยค่ะ เป็นแอปที่ต้องมีติดเครื่องไว้มากๆ แอปเหล่านี้ จะค่อยอัปเดตค่าฝุ่น สภาพอากาศต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นมีติดโทรศัพท์ไว้ ดีที่สุด!



แนะนำ 2 แอป เช็กค่าฝุ่นยอดฮิต ใช้งานง่าย

IQAir AirVisual | Air Quality : แอปพลิเคชันที่รวบรวมข้อมูลคุณภาพอากาศทั้งหมด โดยเฉพาะข้อมูลมลพิษทางอากาศที่สามารถเช็กคข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ในตำแหน่งพื้นที่ที่อาศัย รวมถึงสามารถเช็กข้อมูลสภาพอากาศได้มากถึง 10,000 เมืองทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ ว่ากันว่าแม่นยำมากๆ นอกจากดูสภาพอากาศได้แล้ว ยังสามารถตรวจสอบค่าฝุ่นละอองที่สำคัญได้ถึง 6 ชนิด คือ ติดตามความเข้มข้นของเวลาจริงของ PM 2.5, PM 10, โอโซน, ไนโตรเจนไดออกไซด์, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ เริ่ดเวอร์!

Air4Thai : อันนี้ใช้งานง่ายเวอร์ เพราะเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยค่ะ เป็นแอปพลิเคชันรายงานดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทย โดยรายงานข้อมูลรายชั่วโมง ข้อมูลรายวัน กราฟคุณภาพอากาศย้อนหลัง 7 วัน โดยเป็นข้อมูลจากที่ตรวจวัดจากกรมควบคุมมลพิษครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นข้อมูลเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นสถานการณ์วิกฤตหมอกควันในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


Anti-pollution Skincare

สมัยนี้นอกจากแสงแดดที่เราต้องป้องกันแล้ว ยังจะต้องมาป้องกันฝุ่นอีก! ฝุ่นไม่ได้มีผลต่อแค่กับสุขภาพกายเท่านั้น แต่กับผิว ก็มีผลเช่นกัน เพราะงั้นแนะนำให้เลือกใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางที่เป็น Anti-pollution ดีที่สุดค่ะ เป็นการดูแลผิวที่เน้นการปกป้องและฟื้นฟูผิวจากผลกระทบของมลภาวะ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่องผลเสียของมลภาวะสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อผิวหนังนั่นเอง ซึ่งหลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า แล้วสกินแคร์ หรือเครื่องสำอางต้องมีส่วนผสมอะไร ถึงจะเข้าข่าย Anti-pollution ได้ ไม่ยากเลย ส่วนผสมที่เพื่อนๆ จะต้องมองหาในผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้คือ

  • สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants): สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, และสารสกัดจากชาเขียว ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากมลภาวะ
  • สารสกัดจากพืชธรรมชาติ: สารสกัดจากพืช เช่น สารสกัดจากทับทิม, เมล็ดองุ่น, และอาร์ติโช้ค ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใส
  • สารเคลือบผิว (Film-forming Agents): ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด และไกลโคลิกแอซิด

ซึ่งประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ Anti-pollution นั้น จะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ โดยการสร้างเกราะป้องกันผิวจากสารพิษและฝุ่นละออง ทั้งยังช่วยลดการอักเสบและการระคายเคือง และยังช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหาย พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวของเราดูมีชีวืตชีวาอีกด้วย ทั้งนี้การเลือกใช้สกินแคร์ หรือเครื่องสำอาง Anti-pollution ควรทำควบคู่ไปกับงการดูแลผิวอย่างถูกวิธีด้วยนะ ไม่ใช่แค่บำรุง แต่ต้องทำความสะอาดผิวให้สะอาดและหมดจดด้วยนะจ๊ะ




อุปกรณ์ป้องกันฝุ่น ที่ควรมี

นอกจากหน้ากาก N95 และเครื่องฟอกอากาศแล้ว จริงๆ มันจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันฝุ่นจำหน่ายอีกหลายอย่าง เช่น เครื่องแพ็คเสื้อผ้าป้องกันฝุ่น อุปกรณ์ถุงแพ็คสำหรับเสื้อผ้า พลาสติกป้องกันฝุ่น ถุงป้องกันฝุ่น ถุงคลุมฝุ่น และอีกมากมาย เพียงเลือกใช้ให้เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเก็บรักษาสิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องยนต์ ให้พ้นจากฝุ่นละอองได้ มีจำหน่ายทั่วไป ลองไปหามาใช้กันดูได้เลยค่ะ


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ



สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ เราแนะนำว่า การล้างจมูก เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ หรือใครที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านทุกวัน การล้างจมูกก็เป็นอีกหนึ่งรูทีนที่ต้องทำเช่นกันนะคะ การล้างจมูก คือ การสวนล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อชำระล้างน้ำมูก และสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ทำให้โพรงจมูกชุ่มชื้น ช่วยลดอาการน้ำมูกไหลลงคอ และอาการคัดจมูกช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้นอีกด้วย การล้างจมูกไม่ได้จำเป็นสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เท่านั้น แต่คนที่มีสุขภาพแข็งแรงก็สามารถล้างจมูกได้เช่นกัน


อุปกรณ์ที่ใช้ในการล้างจมูก

  • น้ำเกลือปราศจากเชื้อ Sodium Chloride 0.9%
  • ไซริงค์ (Syringe) ขนาด 5-10 cc (สำหรับเด็ก) ขนาด 10-20 cc (สำหรับผู้ใหญ่)
  • ภาชนะที่สะอาด สำหรับใส่น้ำเกลือในการล้างจมูก
  • อื่นๆ เช่น ภาชนะรองน้ำ กระดาษทิชชู แก้วสะอาด

ขั้นตอนการล้างจมูก

  • ล้างมือและไซริงค์ให้สะอาด
  • เทน้ำเกลือใส่ในภาชนะที่สะอาด
  • ใช้ไซริงค์ดูดน้ำเกลือจากภาชนะที่สะอาดประมาณ 10-20 มิลลิลิตร ตามขนาดของไซริงค์ และโน้มตัวเหนือภาชนะรองน้ำ
  • ดันไซริงค์ให้แนบสนิทกับรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง แล้ว “กลั้นหายใจ ก้มหน้า อ้าปาก” หรือร้อง อา—
  • ค่อยๆ ฉีดน้ำเกลือเข้ารูจมูก น้ำเกลือจะไหลเข้าไปในโพรงจมูก และไหลออกทางรูจมูกอีกด้านหนึ่ง
  • สั่งน้ำมูกที่ค้างอยู่ออกเบาๆ บางคนอาจมีน้ำเกลือบางส่วนไหลออกทางปากให้บ้วนทิ้งไป
  • ล้างจมูกอีกข้างหนึ่ง ด้วยขั้นตอนแบบเดียวกัน
  • ทำซ้ำโดยล้างจมูกสลับกันไปมา หรือล้างจนกว่าจะรู้สึกหายใจโล่ง ไม่มีน้ำมูก

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก : sikarin)


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


ลดการใช้รถยนต์

รู้มั้ยว่า การใช้รถยนต์ 1 คันจะทำให้เกิดก๊าซพิษและฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น ใครที่ที่ทำงานอยู่ไม่ไกลบ้าน แนะนำให้เปลี่ยนวิธีการเดินทางเป็นเดิน หรือปั่นจักรยานแทน หรือใช้เป็นรถโดยสารประจำทางแทนดีกว่าค่ะ อาจจะลำบากสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าคิดที่จะทำ ไม่ต้องพยายามตั้งคำถามว่า แล้วคนอื่นเขาไม่เห็นทำบ้างเลย ทำไมเราต้องทำด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนค่ะ แค่เรารู้ว่า ทำแล้วมันดี เท่านี้ก็พอแล้ว อีกอย่างการทำแบบนี้ มันไม่ใช่แค่ช่วยลดฝุ่นและก๊าซพิษนะ แต่ยังประหยัดน้ำมันด้วย


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


งดสูบบุหรี่

ใครที่เป็นสายสูบ แนะนำให้ลดละเลิกจะดีที่สุดค่ะ คือสภาพอากาศโดยรวมก็แย่อยู่แล้ว ยังจะสูบบุหรี่อีก ยิ่งแย่เข้าไปอีกหลายเท่านะ! ในสภาวะที่ฝุ่นเยอะ ระบบทางเดินหายใจก็ไม่สะดวก การการสูบบุหรี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมมาก เพราะจะยิ่งทำให้อากาศที่ใช้หายใจลดลง ส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ แล้วไม่ได้มีผลกระทบต่อแค่ตัวเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อคนรอบข้างด้วย ดังนั้นทางที่ดีควรงดหรือลดการสูบบุหรี่ไปเลยดีกว่า ดีต่อทั้งสภาพแวดล้อม คนรอบข้าง และตัวเราเองด้วยนะคะ




ลดการเผาไหม้  

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นคือ การเผาไหม้ ใครที่ชอบเผาใบไม้ เผาขยะ แนะนำให้ลดลงหน่อย เพราะการเผาขยะจะทำให้เกิดการเผาไหม้ซึ่งจะเป็นการเพิ่มควัน และฝุ่นพิษให้อากาศ แล้วไม่ใช่แค่การเผา แม้แต่การจุดธูปที่มีควัน ก็มีผลต่อการเกิดฝุ่นและเพิ่มควันด้วยเช่นกัน เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้หันมาใช้ธูปและเทียนแบบไฟฟ้า ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณควัน และลดอัตราการเกิดอัคคีภัยในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้งได้ด้วยนะ


◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌ ◌


สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

พอพูดถึงฝุ่นพิษ ผลที่เกิดขึ้นคือ สุขภาพกายมีปัญหา และไม่ใช่แค่นั้น สุขภาพผิวก็มีปัญหาเช่นกัน นอกจากป้องกันตัวเองจากฝุ่นแล้ว สิ่งนึงที่ต้องให้ความสำคัญคือ การสังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ว่าเรามีอาการของการแพ้ฝุ่นเกิดขึ้นหรือไม่

สังเกตอาการ สัญญาณเตือนจากการแพ้ฝุ่น PM 2.5

  • ผิวหนัง เกิดเป็นตุ่มผื่น นูนแดงกระจายบนผิวหนัง
  • ดวงตา ตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำมีสีคล้ำขึ้น
  • ทางเดินหายใจ คัน แน่นในโพรงจมูก แน่นหน้าอก ไอ จาม มีน้ำมูกแบบใสๆ

เมื่อเราพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น อย่าละเลยที่จะไม่สนใจ และปล่อยเอาไว้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการตรวจรักษานะคะ เรื่องบางเรื่องแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่อย่าลืมว่า มันก็สามารถบานปลายใหญ่โตได้เช่นกับ ฝุ่น PM 2.5 มันอันตรายกว่าที่เราคิด เพราะงั้นอย่ามองข้ามไปเด็ดขาด




และนี่ก็คือ วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น ทั้งหมดที่เราหยิบมาแนะนำนะคะ คือแน่นอนอยู่แล้วแหละว่าเวลาออกไปข้างนอกเราควบคุมปริมาณของฝุ่นไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือป้องกัน แต่ภายในบ้าน เราสามารถทำได้นะ ฉะนั้นอะไรที่ทำแล้วช่วยให้ปริมาณฝุ่นมันลดลงและปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา ทำได้ก็ทำเถอะสำหรับวันนี้ก็หวังว่าเรื่องนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆ คนเลยนะ ลองไปทำตามกันดูส่วนตอนนี้ ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบาย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : 15 วิธีดูแลสุขภาพ ให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Anti-pollution Skincare: เคล็ดลับการดูแลผิวจากมลภาวะเพื่อผิวสุขภาพผิวที่ดี

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ : nocnoc.com, thaich.net/news, taskaji.jp, health.eonet.jp, th.pngtree.com, shiseido.co.jp


🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳


บทความแนะนำเพิ่มเติม

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้