ทำมาแล้วทุกทาง ลองมาแล้วทุกอย่างแต่ทำไมไม่สวยขึ้นซักที ? ที่เกิดเป็นคำถามแบบนี้ขึ้นมา ก็อาจจะเป็นเพราะวิธีที่เราได้ลองทำไม่ถูกต้องน่ะสิคะซิส หลายๆ คนพอเจอว่าตัวเองมีปัญหาผิวก็พยายามที่จะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อย่างเช่น มีสิวก็บีบ มีรอยก็ใช้รองพื้นกลบ ถามว่าช่วยได้ไหม ก็ช่วยได้ แต่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง พอเราลบเครื่องสำอางออกไปรอยก็ยังอยู่ สิวก็ยังมีอยู่อย่างนั้น ไหนมาลองอะไรใหม่ๆ กับ Inside out Beauty วิธีที่สุดแสนจะเบสิคเพียงแค่ 5 ขั้นตอนที่เราอาจจะชอบมองข้ามไป แต่บอกเลยว่าทำแล้วสวยขึ้นจริง ผิวจึ้งสุดๆ แบบที่เราไม่คาดคิดมาก่อนแน่นอน แต่ละวิธีจะมีอะไรกันบ้าง ไว้มาดูไปด้วยกันและอย่าลืมพกสมุดพกปากกามาจดตามด้วยน้า เพราะได้ใช้จริงแน่ !
Inside out Beautyคืออะไร ?
คือแนวคิดที่ว่า การบำรุงร่างกายจากภายในให้เป็นอย่างดี ก็จะมีผลทำให้ผิวพรรณภายนอกสวยงามตามไปด้วย หรือที่เรามักจะคุ้นเคยกันในประโยค สวยจากภายในสู่ภายนอก ถ้าเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็เป็น Glow up tips หรือเทคนิคที่ทำให้เปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง
5 Glow up tips สวยจากในสู่นอก มีอะไรบ้าง
1. ใส่ใจกับการกิน : แค่เปลี่ยนวิธีกิน โลกก็เปลี่ยน
“You are what you eat คุณกินอะไรเข้าไปคุณก็จะเป็นอย่างนั้น” ไหนมีใครเคยได้ยินคำพูดแบบนั้นบ้างเอ่ย? ซึ่งประโยคนี้ไม่ได้หมายความว่ากินเป็ดเราก็จะเหมือนเป็ดแบบนั้นนะ! แต่หมายความว่าถ้าเรากินของดีๆ สุขภาพเราก็จะดี แต่ถ้าเลือกหยิบแต่ของไม่ดี อาหารฟาสต์ฟู้ด น้ำอัดลมน้ำหวานเข้าปาก สุขภาพเราก็จะแย่ตามไปด้วยเท่านั้น ร่างกายของเรามีแค่ร่างกายเดียวน้าทุกคน รักคนอื่นเยอะแล้วก็อย่าลืมรักตัวเองให้มากๆ ๆ ๆ ๆ กันด้วย ลองมาเริ่มต้นรักตัวเองกันด้วยเรื่องเบสิคง่ายๆ ที่แค่เปลี่ยนวิธีกิน โลกของเราก็จะเปลี่ยน!
- งดน้ำตาลลดสิว การที่เรากินน้ำหวาน ของหวานต่างๆ ส่งผลให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เมื่อน้ำตาลในเลือดไปจับตัวกับโปรตีนที่อยู่ในร่างกาย จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า AGEs (advanced glycation end products) ซึ่งเค้าจะเป็นตัวทําลายคอลลาเจนในผิวหนัง ซึ่งปกติแล้วคอลลาเจนจะมีหน้าที่รักษาความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหนัง พอถูกทำลายไปเลยทำให้เกิดริ้วรอยและมีจุดด่างดําตามมา แต่ถึงแม้ว่าน้ำตาลจะก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ มากมายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ห้ามกินน้ำตาลหรือของหวานตลอดชีวิตนะคะ เพียงแต่ควรจะจำกัดปริมาณการทานต่อวันให้พอดี มาลดหวานร้อยให้เหลือหวานน้อยกัน
- ลดของทอดของมันกันหน้าแก่ เพราะอาหารที่ผ่านกระบวนการทอดส่วนใหญ่จะมีแคลอรี่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับอาหารที่ผ่านการปรุงด้วยกรรมวิธีอื่นๆ และส่วนประกอบหลักของอาหารจำพวกนี้ก็คือ น้ำมัน ที่มีไขมันทรานส์สูงนั่นเอง นอกจากจะทำให้เกิดไขมันสะสม ไขมันส่วนเกินแล้วเค้าก็ยังทำให้ร่างกายสร้างสารก่ออนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น ถ้าเราเป็นคนผิวมีแนวโน้มจะเป็นสิวง่ายอยู่แล้ว ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะสิวเห่อหากกินของทอดเข้าไป และเค้าก็ยังทำให้ผิวหนังของเราไวต่อรังสียูวีมากยิ่งขึ้น เสี่ยงหน้าแก่เร็วตามไปด้วย
- อาหารหมักดองทำให้หน้าบวม ผิวแห้งกร้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์แดดเดียว ผลไม้แช่อิ่ม ผักดอง รวมไปถึงอาหารต่างๆ ที่มีรสชาติเค็มจัดๆ มักมีปริมาณโซเดียมสูง เลยเป็นสาเหตุทำให้ตัวบวม หน้าบวมยามเช้า แถมโซเดียมยังเป็นตัวดูดซับน้ำออกจากร่างกายและผิว ทำให้ผิวแห้งกร้าน เป็นสาเหตุทำให้ผิวเหี่ยวไวอีกด้วย
- เครื่องดื่มคาเฟอีนต้นเหตุผิวแห้ง เหี่ยวไว ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ น้ำอัดลม ก็ไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เพราะจะส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผิวแห้งและเสี่ยงเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้คาเฟอีนยังดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อการบำรุงผิวพรรณออกไปจากร่างกายอีกด้วย
- ผลไม้ที่มีวิตามินซีเยอะช่วยคืนผิวใสสุขภาพดี เช่น ฝรั่ง แอปเปิล เพราะอาหารที่มีวิตามินซีนอกจากจะช่วยให้ผิวผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้แล้ว ยังส่งเสริมให้โครงสร้างของผิวมีความแข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วยทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใสจากภายใน ผิวจะกระชับยืดหยุ่นและเต่งตึงขึ้น
- ดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว เติมผิวให้ฉ่ำ ถ้าอยากมีผิวสวยสุขภาพดีเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก การดื่มน้ำสะอาดนี่แหละค่ะที่จะช่วยได้เป็นอย่างมาก เพราะน้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่งสดใส พอผิวไม่แห้งกร้านก็ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้เช่นกัน
- *สูตรการคำนวณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ควรดื่ม (ลิตร) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) X 0.03
2. พักผ่อนให้เพียงพอ : นอนพอ สมองพร้อม
อย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่ามนุษย์เราใช้เวลาถึง 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอนหลับ ซึ่งในเวลา 24 ชั่วโมงของ 1 วัน สุขภาพคนเราจะดีได้จะต้องมีการนอนหลับให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 7-8 ชั่วโมง ก็จะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง พร้อมสำหรับการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนั้นในช่วงหลับลึกเซลล์ในร่างกายเราเค้าก็จะช่วยซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากความเครียดและปัจจัยแวดล้อม ซึ่งถ้าหากเราอดนอนก็จะไปทำให้กระบวนการนี้ช้าลง ทำให้ผิวของเราดูหมองคล้ำและไม่มีชีวิตชีวา ผิวจะไม่สามารถปรับสมดุลความชุ่มชื้นได้อย่างเหมาะสม เลยทำให้ผิวแห้งและขาดความสดใส นำไปสู่อาการผิวแก่ก่อนวัย เกิดเป็นเส้นริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นต่างๆ ของผิวได้ง่ายตามมานั่นเองจ้า
เพราะฉะนั้นอยากผิวใสผิวสวยก็ต้องเริ่มจากการพักผ่อนให้เพียงพอกันก่อน! ขนาดเราเหนื่อยมาก็อยากพัก ผิวเองก็ต้องการพักเผื่อเตรียมพร้อมสำหรับความสวยในวันพรุ่งนี้ด้วยเหมือนกัน นอนให้พอ นอนให้อิ่ม รับรองแต่งหน้าติด ไม่มีหลุดระหว่างวัน แถมไม่มีปัญหาใต้ตาคล้ำมากวนใจ ไม่ต้องกลบด้วยคอนซีลเลอร์หนาๆ แล้ว
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : กายเฮลตี้ ใจแฮปปี้
การออกกำลังกายยิ่งกว่ายาวิเศษ! เพราะนอกจากร่างกายแข็งแรงได้รูปร่างที่สวยงามแข็งแรงแล้วยังช่วยให้ออกซิเจนในร่างกายหมุนเวียนดี ทำให้ผิวเราเปล่งปลั่งขึ้น แต่ซิสก็เข้าใจว่าการออกกำลังกายมันยาก!!! กว่าจะขุดตัวให้ออกจากเตียงมาออกกำลังกายได้ แต่ถ้าอยากให้หุ่นฟิต ผิวปั๊วะ ก็อาจจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการวิ่งสลับเดิน เริ่มจากวอร์มอัพ 5 นาที จากนั้นลองเดินหรือวิ่งสลับหนักเบาเป็นช่วงๆ เช่น วิ่งค่อนข้างเร็วสัก 30 นาที สลับกับเดินช้า 3-4 นาที ทำวันละ 45-60 นาที อย่างน้อย 5-6 สัปดาห์ไปก่อน สิ่งสำคัญคือการออกกำลังกายเราควรทำแต่พอดีและสม่ำเสมอ อย่าหักโหมเกินไป เพราะจากที่จะดูแข็งแรงจะกลายเป็นว่าดูโทรมแทนเอาได้น้า
- จัดการกับความเครียดให้เป็น : ปล่อยใจจอยๆ อย่าไปซี
ด้วยสภาพเศรษฐกิจสภาพสังคมแบบนี้ ไม่แปลกว่าเราจะเกิดการเปรียบเทียบ เกิดการอยากมีอยากได้แบบคนอื่น หรือต้องพยายามกล้ำกลืนฝืนใจให้พ้นไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะจากการใช้ชีวิต การทำงาน หรือการเรียนก็ตาม จนกลายเป็นเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทีนี้พอเราเกิดความเครียดสะสมก็จะมีปัญหาในการนอนหลับต่ออีกที พอนอนไม่พอก็เกิดความรู้สึกหดหู่ ส่งผลกระทบต่อผิว บางรายก็มีอาการคัน บางรายก็มีรอยแดงและรอยดำ หรือมีใบหน้าที่หมองคล้ำ ไม่สดใส ไหนจะร่างกายก็ไปผลิตฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งมีผลต่อการทำงานของต่อมไขมันจนไปกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นมาอีก ทีนี้ล่ะ พังหมดทั้งหน้า ทั้งหมองทั้งสิวจุกๆ แบบนี้ต้องรีบหาวิธีมาจัดการกับความเครียดกันด่วนๆ
- มองโลกในแง่บวก ใช้ชีวิตด้วยมายเซต Lucky Vicky ไม่ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นยังไงแต่เราก็มองเห็นถึงข้อดีอยู่ในนั้น เช่น ถ้าหากเราต้องการซื้อโดนัท แต่คนด้านหน้าได้ซื้อชิ้นที่เราเล็งไว้ไปแล้ว เราก็บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็จะได้โดนัทที่ทำสดใหม่ในชิ้นถัดไปแทน ซึ่งเป็นแนวคิดการมองโลกในแง่ดี คิดในแง่บวก Lucky girl syndrome เข้าไว้ จะช่วยให้ใจเราสบายขึ้นมากๆ
- ชื่นชมกับทุก Small success คือการที่เรารู้จักชื่นชมตัวเองหรือมีความสุข ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ทำงานบ้านเสร็จ ทานข้าวหมดจาน ทำงานเสร็จก่อนเดดไลน์ ก็ให้เราชื่มชมว่าตัวเราเองเก่งมาก ซึ่งการสำเร็จในสิ่งเล็กๆ เหล่านี้นี่แหละที่จะสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อกระตุ้นให้เรากล้าที่จะทำงานต่อไปโดยไม่กลัวว่าสิ่งที่รออยู่ปลายทางจะเป็นความสำเร็จหรือความล้มเหลวก็ตาม
- ทำงานอดิเรก ช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งที่ชื่นชอบแทนที่จะจมอยู่กับความเครียด งานอดิเรกไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือต้องมีเป็นประโยชน์อะไรมากมาย อาจเป็นแค่การดูหนัง ฟังเพลง ทำอาหาร ทำงานฝีมือ งานประดิษฐ์ เล่นเกม บางครั้งการหันไปทำอย่างอื่นอาจช่วยให้เราสมองปลอดโปร่ง แถมยังได้ไอเดียในการแก้ปัญหาเพิ่มขึ้นด้วย
- ฝึกการหายใจ ไม่ว่าจะเป็นจาการฝึกโยคะหรือการทำสมาธิ เป็นการฝึกจิตให้จดจ่อกับเรื่องลมหายใจเข้าออก โดยการหายใจเข้าออกลึกๆ ร่างกายก็สามารถรับออกซิเจนเข้ามาได้มากขึ้น พอออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือด พร้อมกับสื่อสารไปที่สมองก็จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนั้นยังช่วยในการจัดการกับฮอร์โมนคอร์ติซอล ฮอร์โมนความเครียดที่สมองจะปล่อยออกมาเมื่อรู้สึกเครียดและกังวลด้วยนะ
5.ดูแลผิวพรรณ : ทาสกินแคร์ 1 ครั้ง รบชนะ 100 ครั้ง
เพราะผิวที่จะแต่งหน้าออกมาสวยเป๊ะ เพอร์เฟ็คได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็คือผิวต้องมีสุขภาพดีก่อน ซึ่งกว่าเราจะได้ผิวที่แข็งแรงแบบนั้นก็ต้องมาจากการบำรุงผิวอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นเรื่องเบสิคอย่างการทาสกินแคร์เลยขาดไปไม่ได้เลย เราอาจจะไม่ต้องทาแบบจัดเต็มทุกออปชั่น ทุกขั้นตอนขนาดนั้นก็ได้ อย่างน้อยเพียงแค่ทำตาม 3 ขั้นตอนนี้ แค่นี้ก็ถือเป็นขั้นตอนที่เพียงพอสำหรับการบำรุงผิวแล้ว
- ทำความสะอาดผิวให้เกลี้ยง
- คอยทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้น เพราะไม่ว่าจะเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวประเภทไหนยังไงก็ยังต้องคงความชุ่มชื้นในผิวไว้
- ทากันแดด ป้องกันรังสียูวีต้นเหตุของผิวเหี่ยว แห้ง แก่ไว และสารพัดปัญหา
ประโยชน์ของทริค Inside out Beauty
- ช่วยให้ผิวเราดูกระจ่างใสขึ้น ไม่หมองคล้ำ หรือดูซูบโทรมจากการดูแลตัวเองอย่างดี
- ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
- ช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานดีขึ้น ระบบไม่รวน เกิดความสมดุล
- ความเครียดลดลง ฮอร์โมนความเครียดหลั่งน้อย ผิวไม่เป็นสิว
แจกทริคสูตรสุขภาพดี กินอิ่มแต่ไม่อ้วน
อย่างที่ซิสบอกไปว่าการทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญมากๆ นอกจากเราจะรู้ว่าควรทาน ควรลดอะไร ไปแล้ว สัดส่วนการทานอาหารเองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรโฟกัสเหมือนกันนะ เพราะโภชนาการอาหารที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญของความสวยจากภายในสู่ภายนอก อาหารที่เรากินเนี่ยมีผลต่อผิวหนัง เส้นผม และสุขภาพมากๆ เราเลยต้องรู้จักการเลือกอาหารที่สัดส่วนสมดุลและมีคุณภาพ จะได้เสริมทั้งด้านสุขภาพทางกายและความสวยภายนอกได้อย่างเต็มที่ ซิสเลยเอาสูตรการทานสุขภาพดีจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มาให้ทุกคนเอาไว้เป็นไอเดียกัน
คุมหวานมันเค็ม 6:6:1
เป็นการจำกัดปริมาณส่วนผสมที่ควรทานในแต่ละวัน เพื่อช่วยรักษาสมดุลในการบริโภค โดยควบคุมปริมาณน้ำตาล น้ำมัน และโซเดียมให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยจะแบ่งสัดส่วนออกเป็น
- น้ำตาล 6 ช้อนชา เพราะการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น กระดูกและฟันไม่แข็งแรง เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และความหวานก็ยังทำให้เซลล์ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
- น้ำมัน 6 ช้อนชา ถึงแม้ว่าไขมันบางชนิดจะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่การกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ สร้างผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้น นำไปสู่โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้
- เกลือ 1 ช้อนชา การกินอาหารเค็มมาก ทำให้เสี่ยงความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยการเกิดโรคหัวใจ โรคไต และอื่นๆ ตามมา
คุมปริมาณอาหาร 2:1:1
เป็นการกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสม โดยการแบ่งสัดส่วนของจาน (เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 9 นิ้ว ) ออกเป็น 4 ส่วน เท่าๆ กัน และแบ่งประเภทอาหารที่จะใส่ลงไปในจานเป็นผัก 2 ส่วน ข้าวหรือ แป้ง 1 ส่วน และเนื้อสัตว์ 1 ส่วน
- ผัก 2 ส่วน : ผักสด ผักสุก เน้นความหลากหลาย
- คาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน : *ไม่เกิน 2 ทัพพี เน้นเป็นข้าวไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท ธัญพืช
- โปรตีน 1 ส่วน : เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ปลา ไข่ ถั่วเหลือง เต้าหู้ โปรตีนเกษตร
ส่วนเสริมของจาน
หลังมื้ออาหารสามารถกินผลไม้เพิ่มอีกสักหน่อย โดยเลือกผลไม้ที่มีรสชาติหวานน้อย เช่น ฝรั่ง ส้มโอ ชมพู่ แก้วมังกร แอปเปิล ฯลฯ ปริมาณไม่เกินหนึ่งกำมือ หรืออาจดื่มนมพร่องมันเนย หรือนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมสักหน่อยเวลารู้สึกหิวก็ได้เช่นกัน
รวม 5 วิตามินเสริมสุดฮิต กินแล้วผิวดี
การกินอาหารเสริมไม่ใช่เรื่องน่าต่อต้านเสมอไป เพราะถือเป็นอีกทริค Inside out Beauty ได้เหมือนกัน ซึ่่งวิตามินเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยปกติการรับประทานอาหารหลากหลายก็เป็นวิธีที่จะทำให้ร่างกายเราได้รับวิตามินและแร่ธาตุมากพียงพออยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นที่จะต้องทานเพิ่มเพื่อเสริมอะไร แต่วิตามินเสริมเค้าจะเหมาะกับการเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ จึงได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนและเพียงพอ หรือคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก คนที่มีอาการป่วย รวมไปถึงคนที่มีอาการแพ้อาหารบางประเภทมากกว่า วิตามินเสริมก็มีหลากหลายชนิดมากๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราขาดอะไรไป และในฝั่งของการดูแลผิวเองก็แน่นอนว่าวิตามินที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้เช่นกัน ซิสยกตัวอย่างมาให้ดู 5 ชนิดวิตามินเสริมที่ดีต่อผิวและมาแรงมากๆ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอะรไบ้าง
- นมผึ้ง (ROYAL JELLY) : นมผึ้งมีสรรพคุณในการช่วยซ่อมแซมและสมานแผลผิวหนัง โดยจะลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวเต่งตึง นุ่มลื่น
- แอสตาแซนทิน (ASTAXANTHIN) : มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ และกระบวนการออกซิเดชั่นที่มีผลทำให้เกิดริ้วรอยและการเสื่อมของเซลล์ก่อนวัยอันควร
- ซิงค์ (ZINC) : ช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน และลดการอักเสบของผิวหนัง นอกจากนี้ ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- โพรไบโอติก (PROBIOTIC) สามารถช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์บริเวณผิวหนัง หรือที่เรียกว่าไมโครไบโอม ทำให้ผิวเราสมดุล เกราะป้องกันผิวแข็งแรง
- โคเอ็นไซม์คิวเทน (COENZYME Q10) ช่วยเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงานแก่เซลล์ผิว ทำให้การทำงานต่างๆในผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมผิว
อย่าลืมว่าต้องสำรวจตัวเองก่อนว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานวิตามินเสริมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าเราอยู่ในภาวะที่ต้องใช้วิตามินเสริมหรือไม่ ก็ควรที่จะลองปรึกษากับโภชนากร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนจะได้รู้ว่าเราจำเป็นที่จะต้องเสริมวิตามินต่างๆ หรือไม่เพราะถึงแม้ว่าการกินวิตามินจะช่วยเข้าไปเสริมสร้างส่วนที่ขาดหายไป แต่การรับประทานวิตามินโดยขาดความรู้หรือรับเข้าไปในปริมาณที่มากเกินความต้องการ นอกจากจะทำให้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็นแล้ว ยังอาจจะกลายเป็นผลเสียต่อร่ายกายแทนน้า
- - - - - - - - - - - - - - -
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเทรนด์ Inside out Beauty ที่แค่ทำตามวิธีสุดเบสิคผิวก็สวยขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ก็อย่างที่ซิสย้ำแล้วย้ำอีกว่าการที่ผิวจะสวยได้ ด้านในผิวมันก็ต้องแข็งแรงก่อน เหมือนกับการที่เราจะสร้างบ้านซักหลัง โครงสร้างบ้านก็ต้องแข็งแรงมากพอที่จะพยุงไม่ให้บ้านถล่มนั่นเอง อยากให้ทุกคนเก็บเอาวิธีเหล่านี้ไว้ไปใช้จริงๆ น้า จะได้ไม่ต้องมาคอยตามแก้ปัญหาผิวที่ปลายเหตุแบบเมื่อก่อนแล้ว ท่องเอาไว้ว่าผิวสุขภาพร่างกายแข็งแรง จิตใจก็แข็งแรง เดี๋ยวสุขภาพผิวก็จะแข็งแรงตามไปด้วยเองนั่นแหละ!
Designer : tt.
Writer : Babypeachy
ขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก สสส., สภากาชาดไทย, คณะแพทย์ฯมหิดล, beverleygolden, health
บทความแนะนำเพิ่มเติม
เทรนด์เมคอัพ “ Chok Chok ” ดิวอี้ ฉ่ำโกลว์ แบบพส.เกาหลี | บทความของ SIS GURU | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/chok-chok-makeup-trend-204592
เทรนด์ใหม่ Skin Streaming ใช้สกินแคร์แค่ 4 ตัว ผิวก็ปั๊วะได้! | บทความของ SIS GURU | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/skin-streaming-trend-202441
Lucky Girl Syndrome ทฤษฎีสาวผู้โชคดีคนนั้นคือฉันเอง เสกตัวเองให้ทำอะไรก็ลักกี้ | บทความของ Allaboutthebass | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/lucky-girl-syndrome-94951
ลืมหายใจ กันอยู่รึเปล่า ? จับสัญญาณความเครียด เช็กด่วนเราอาจเครียดแบบไม่รู้ตัว! | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/how-to-breathe-correctly-202845
วิธีเลือกกินลดน้ำหนัก 8 เคล็ดลับลดหุ่นแบบไม่ต้องอดอาหาร แถมสุขภาพดี | บทความของ chollychon | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/96651