1. SistaCafe
  2. Survival Mode เช็กด่วน ร่างกายเปิดโหมดเอาตัวรอดอยู่รึเปล่า ?

สวัสดีค่าชาวซิส เคยได้ยินเรื่องของ "Survival Mode" กันไหมคะ อันนี้ไม่ได้หมายถึงการเอาตัวรอดในการใช้ชีวิตนะคะ แต่ Survival Mode ที่ว่าเป็นในเรื่องของสุขภาพร่างกายค่ะ ซึ่งบางคนก็อาจจะเรียกมันว่า "โหมดการเอาตัวรอด" นั่นเอง ถ้าใครไม่รู้จักก็ไม่เป็นไรน้า เพราะบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับมันให้มากยิ่งขึ้นกันค่ะว่ามันคืออะไร เกิดจากอะไร อาการเป็นแบบไหน รักษาได้ไหม ถ้าพร้อมจะทำความเข้าใจกับมันแล้วก็มาอ่านกันเล้ยยย~


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


Survival Modeคืออะไร ?

จริง ๆ Survival Mode หรือโหมดการเอาตัวรอดก็คือ "อาการเครียดเรื้อรัง" นั่นเองค่ะ มักจะเริ่มจากภาวะเครียดทั่ว ๆ ไป รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเศร้า ทุกข์ใจเมื่อเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบกับจิตใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่าก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ที่มันเรื้อรังเนื่องจากมันเกิดขึ้นเป็นเวลานานจนไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีเบื้องต้นได้หรืออาจจะแก้ด้วยวิธีเบื้องต้นได้น้อยมาก ๆ


• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


Survival Mode เกิดจากอะไร ?

Survival Mode มักจะเกิดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบกับจิตใจจนเกิดความรู้สึกในด้านลบค่ะ อย่างที่บอกเลยว่าแต่ละคนก็จะมีเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะเศร้าโศกเสียใจกับเรื่องบางเรื่อง อาจจะอกหัก สูญเสียสิ่งที่รักไป เป็นเวลานานก็ทำให้เกิดความรู้สึกเครียดจนเรื้อรังได้ หรือบางคนอาจจะได้รับคำด่า คำวิจารณ์บ่อย ๆ จนรู้สึกแย่และก่อให้เกิดเป็นเครียดเรื้อรังก็เป็นได้


• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


อยู่ในโหมดแบบ Survival ไม่ดียังไง ?

อย่างที่บอกเลยว่า Survival Mode มันก็คือการเครียดเรื้อรัง ซึ่งเจ้าความเครียดถ้ามันมากเกินพอดียังไงมันก็ไม่ดีต่อแน่นอน ทั้งในด้าน...

  1. สุขภาพจิต : ความเครียดทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่ลง อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ รู้สึกไม่สบายใจ ทำอะไรก็ไม่มีความสุข บางคนอาจจะเป็นหนักจนส่งผลให้เป็นโรคด้านจิตเวชได้เลย
  2. สุขภาพร่างกาย : ความเครียดทำให้ร่างกายแย่ลงให้ทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะด้านความจำที่น้อยลง ภูมิคุ้มกันตกจนป่วยง่าย หรืออาจจะส่งผลทำให้เป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะ โรคไมเกรน โรคสะเก็ดเงิน ฯลฯ
  3. สังคมรอบข้าง : เครียดก็จะอมทุกข์ หน้าตาไม่สดใส ไม่สนุกสนานเอนจอย สังคมอย่างเพื่อน ๆ หรือครอบครัวเมื่ออยู่กับคนที่เปิดโหมดเอาตัวรอดก็จะพลอยไม่มีความสุขไปด้วย บางคนอาจจะเริ่มตีตัวออกหากได้เลย

• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


เช็กอาการSurvival Mode แบบนี้ใช่เราไหม ?


อารมณ์แปรปรวน

รู้สึกหงุดหงิดได้ง่าย ๆ โกรธได้ง่าย ๆ ฉุนเฉียวมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังหงุดหงิดเกินพอดี หรือพูดภาษาแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือวีนเกินเหตุ ดูโมโหกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง บางคนอาจจะร้องไห้ได้ง่าย ๆ เพราะรู้สึกหงุดหงิดจนไม่รู้จะทำยังไง


รู้สึกเหนื่อยล้าแม้จะพักผ่อนเพียงพอ

ไม่ว่าจะนอนหลับพักผ่อนจนเพียงพอแล้วหรือจะไปเที่ยว ไปพักผ่อนหย่อนใจด้วยกิจกรรมที่ชอบเป็นเวลานาน ๆ แต่ร่างกายก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ดี เป็นความรู้สึกแบบไม่มีแรง รู้สึกไม่อยากทำอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่ปกติการได้พักผ่อนไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตามมักจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นมากขึ้น กะปรี้กะเปร่ามากขึ้น มีแรงฮึดพร้อมจะไปเผชิญปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา แต่ถ้าใครเจอร่างกายเปิดโหมดนี้ โอกาสที่จะให้ผลตรงกันข้ามก็อาจจะเกิดขึ้นได้


เมื่อโดนตำหนิจะรู้สึกเหมือนโดนคุกคาม

ในการทำงานหรือแม้กระทั่งการเรียนหนังสือก็หลีกหนีไม่พ้นการโดนบ่น โดนตำหนิ โดนวิจารณ์ทั้งนั้นนะคะ ซึ่งถ้าใครโดนมาแล้วเสียใจบ้างก็ยังถือว่าปกติ มันมีเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าเหมือนโดนขู่ โดนคุกคาม รู้สึกว่ามันมีผลกับจิตใจมากจนเกิดความรู้สึกที่แย่จนเอามันออกไปจากหัวไม่ได้ อันนี้ก็เป็นสัญญาณนึงที่บอกว่าร่างกายเริ่มเปิดโหมดเอาตัวรอดแล้วนะคะ


รู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ได้พักผ่อน ช่วงเวลาได้ไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ชอบก็ตาม แต่ถ้าร่างกายเริ่มเปิดโหมดเอาตัวรอดเมื่อไหร่ ก็จะไม่สามารถรู้สึกผ่อนคลายได้เลย จะรู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา รู้สึกไม่เอนจอยกับการทำสิ่งต่าง ๆ เลย พลังงานต่ำเหมือนร่างกายไม่มีแบตเตอร์รี ถ้าพูดกันแบบภาษาชาวเน็ตเลยก็คือรู้สึกอ่อมอะไรแบบนั้นเลยนะคะ


มีปัญหากับการตัดสินใจ

เมื่อต้องเผชิญกับการตัดสินใจ ใครที่อยู่ในโหมดเอาตัวรอดนี้จะมีปัญหาทันทีค่ะ เนื่องจากว่าความเครียดที่มีมากเกินไปมันส่งผลกับสมองทำให้ความคิดความอ่านต่าง ๆ ช้าลง เรื่องของการตัดสินใจต่าง ๆ ก็เลยพลอยมีปัญหาตามไปด้วย ซึ่งเป็นตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ เลย


ไม่สามารถรับมือกับปัญหาที่ต้องเจอได้

ไม่ว่าจะปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือปัญหาที่หนักหน่วง ทุกคนก็ต่างจะต้องเจอกับมันมาบ้างใช่ไหมละคะ แต่กับคนที่ร่างกายเริ่มเปิดโหมดเอาตัวรอดเนี่ยกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องเจอก็จะไม่สามารถรับมือกับมันได้เลย รู้สึกว่าไม่รู้จะจัดการกับมันยังไง ไม่รู้จะต้องเริ่มจัดการจากตรงไหนก่อน รู้สึกหลงทาง รู้สึกมืดแปดด้าน


ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งนึงได้นาน

เชื่อว่าในยุคสมัยนี้หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกว่าตัวเองสมาธิสั้นลงมาก ๆ จดจ่อกับอะไรนาน ๆ มากไม่ได้ ซึ่งมันอาจจะฟังดูคล้ายกับคนที่ร่างกายกำลังเปิด Survival Mode เลยนะคะ เพราะคนที่ร่างกายเริ่มเปิดโหมดเอาตัวรอดมักจะไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนาน ๆ ได้ รวมไปถึงไม่มีสมาธิด้วยนะคะ ทำให้การทำงาน การเรียนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพต่ำลง อาจจะทำงานพลาดบ่อยหรือเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง สอบตกได้เลย


มีปัญหาในด้านความจำ

ในด้านความจำที่หมายถึงก็คือลืมง่ายขึ้นมาก ๆ อะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ลืมไปหมด เนื่องจากความเครียดที่บางคนมีมันส่งผลกับการทำงานของสมอง โดยเฉพาะในด้านความจำและการเรียนรู้ เลยทำให้หลาย ๆ คนก็เรียนไม่รู้เรื่อง ทำข้อสอบไม่ได้ ทำงานผิดพลาดบ่อย ๆ จำรายละเอียดงานได้ไม่ดี บางรายเมื่อร่างกายเข้าสู่โหมดนี้อาจจะส่งผลให้ความจำเสื่อมได้ด้วยนะคะ


มีอาการติดแอลกอฮอล์

บางคนเชื่อว่าการดื่มแอลกอฮอล์รวมไปถึงการสูบบุหรี่จะทำให้อาการเครียดต่าง ๆ หายไป แม้จะแค่ชั่วคราวเขาก็โอเค และเมื่อทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทำบ่อย ๆ ก็จะเกิดการเสพติดหรือที่มักจะเรียกกันว่าพิษสุราเรื้อรัง (Alcoholism) ซึ่งบางรายเมื่อพึ่งพาแอลกอฮอล์แล้วไม่เป็นผล อาจจะเริ่มหันไปพึ่งพาพวกสารเสพติด ซึ่งสิ่งต่าง ๆ พวกนี้ล้วนส่งผลทำให้ร่างกายย่ำแย่ลงและฟื้นตัวช้าลงมากขึ้นด้วย


• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


Survival Modeเหมือนหรือต่างกับภาวะเครียดยังไง ?

ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า "ภาวะเครียด" คืออะไร ภาวะเครียดก็คือความรู้สึกไม่สบายใจ ความทุกข์ใจ ความรู้สึกแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติเพื่อทำให้มนุษย์เรียนรู้และหลีกเลี่ยงการเจอเหตุการณ์นั้น ๆ ถ้ามันอยู่ในระดับที่พอดี ไม่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็จะไม่เกิดอันตรายใด ๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเกิดเป็นเวลานานก็จะส่งผลให้เกิด "ความเครียดเรื้อรัง" หรือก็คือ Survival Mode นั่นเองค่ะ

และความแตกต่างของมันเลยก็คือถ้าภาวะเครียดธทั่ว ๆ ไปมันยังพอจะหาทางออกด้วยการไปทำกิจกรรมผ่อนคลาย ไปเที่ยว ไปกินอาหารที่ชอบ นอนหลับพักผ่อนได้ แต่ถ้าเครียดเรื้อรังเมื่อไหร่ การแก้ปัญหาด้วยวิธีพวกนี้ก็อาจจะส่งผลน้อยมาก ๆ หรืออาจจะไม่ส่งผลเลย ดังนั้นมันจะเหมือนกันในด้านความรู้สึกแย่ ความทุกข์ใจที่เกิดขึ้น แต่แตกต่างกันในด้าน Survival Mode จะหนักกว่า เกิดขึ้นเป็นระยะเวลาที่นานกว่า แก้ปัญหาได้ยากกว่าและอาจจะส่งผลกระทบกับจิตใจและคนรอบข้างมากกว่านั่นเอง


• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •


How To ปิดโหมดเอาตัวรอดของร่างกาย !

ถ้ายังอยู่ในระดับที่รู้สึกว่ายังแก้ไขได้ ไม่ได้รบกวนการใช้ชีวิตหรือรบกวนคนรอบข้างก็ลองทำตามวิธีด้านล่างกันได้เลยค่ะ

  • ออกกำลังกาย : การออกกำลังกายจะช่วยทำให้เราอารมณ์ดีมากขึ้น เนื่องจากมันจะไปกระตุ้นสมองทำให้หลั่งสารที่เกี่ยวข้องกับด้านอารมณ์ออกมานั่นเอง
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ : เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงไปเลยนะคะ หันมาดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอกันดีกว่า รวมไปถึงไม่สูบบุหรี่หรือเสพสารเสพติดอื่น ๆ ด้วยนะคะ
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ : อาหารที่มีประโยชน์ทำให้สุขภาพดีมากขึ้น ซึ่งอาหารบางชนิดก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ พวกดาร์กช็อกโกแลต ชาเขียว ปลา กล้วย ผักใบเขียวต่าง ๆ ถั่ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ธัญพืชไม่ขัดสี โยเกิร์ต ฯลฯ หรือจะเป็นอาหารที่เราชอบมาก ๆ ก็ได้นะคะ การได้ทานอาหารโปรดก็ทำให้มีความสุขได้เหมือนกัน
  • ทำเวลาพักให้เป็นเวลาพักจริง ๆ: บางคนชอบเอาเรื่องงาน เรื่องเรียนมาคิดหลังกลับบ้านแล้ว ทำให้สมองทำงานหนักตลอดเวลาจนทำให้เกิดความเครียดขึ้น ดังนั้นเมื่อช่วงไหนพักต้องรู้ว่าพัก อย่าไปคิดถึงเรื่องงานหรือเรื่องเรียนให้ปวดหัว ปล่อยใจจอย ๆ บ้างจะทำให้ความเครียดลดลงได้
  • ลดความเป็น Perfectionist ในตัวลงบ้าง : บางคนเครียดเพราะอยากทำให้ทุกอย่างออกมาดี ติดกังวลไปหมด รวมไปถึงเมื่อทำไม่ดีก็เก็บมากดดันตัวเองมากเกินไป ดังนั้นก็ควรจะลดความทุกอย่างต้องเป๊ะ ห้ามพลาดออกไปให้ได้ ยอมรับว่าเราก็เป็นมนุษย์คนนึงมีผิดพลาดบ้างก็ไม่แปลก แล้วก็หาทางแก้ไขมันให้ดีขึ้น อย่าตึงจนเกินไป
  • อย่าเก็บทุกเรื่องมาคิด : บางคนเป็นคนคิดมาก คิดเรื่องตัวเองไม่เท่าไหร่ ดันเผลอไปคิดเรื่องคนอื่นจนเครียดมากเกินไป ซึ่งเราไม่ควรจะเก็บทุกอย่างในชีวิตมาคิดและไม่ควรจะคิดมากจนเกิดความเครียดที่ส่งผลกระทบกับร่างกาย
  • หัดปฏิเสธให้เป็น รักษาใจตัวเองก่อน : บางคนเป็น People Pleaser หรือก็คือเป็นคนที่พยายามทำให้คนอื่นพอใจ ไม่อยากขัดใจคนอื่น แต่กลายเป็นว่าตัวเองต้องมาเครียด มาเดือดร้อนแทน เราจึงต้องเป็นคนที่ปฏิเสธคนให้เป็น อะไรที่ทำไม่ไหว อะไรที่เกินตัว ถ้าปฏิเสธได้ก็พูดไปบ้างไม่อย่างนั้นเราจะต้องทำทุกอย่างจนไม่มีเวลาพักและสุดท้ายก็จะเกิดความเครียดมากขึ้นได้

สุดท้ายถ้าพยายามแก้ไขเพื่อปิด Survival Mode ตามวิธีการคร่าว ๆ นี้แล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาโดยเฉพาะนะคะ เพราะปัญหาสุขภาพจิตมันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนและยังสามารถส่งผลกับสุขภาพร่างกายได้ด้วย อย่าทิ้งไว้นานน้า


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ได้รู้จัก Survival Mode หรือโหมดเอาตัวรอด กันมากขึ้นแล้ว ใครที่รู้สึกว่าเข้าข่ายอาการนี้ก็ลองเอาวิธีแก้ไขไปปรับใช้กันได้นะคะ แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็อย่างที่บอกเลยค่ะว่าไปพบคุณหมอเลยจะดีที่สุด ยิ่งทิ้งไว้นานจะยิ่งส่งผลร้ายไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่กับด้านจิตใจแต่ด้านร่างกายก็จะเริ่มมีผลอื่น ๆ ตามมาเรื่อย ๆ ทั้งป่วยง่ายขึ้น อาจจะเป็นโรคสุขภาพกายอื่น ๆ หรืออาจจะไปทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนเนื่องจากสุขภาพจิตไม่ค่อยคงที่นัก ดังนั้นก็หมั่นสังเกตตัวเองกันด้วยนะคะ ส่วนตอนนี้ทางเราต้องขอตัวลาไปก่อน ยังไงชาวซิสและนักอ่านทุกท่านก็รักษาสุขภาพกันด้วยน้า บ๊ายบาย


ขอบคุณภาพปกจากเว็บไซต์ soompi.com ภาพประกอบบทความจากเว็บไซต์ soompi.com / Music Video : SUZY - SObeR และขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ acceleratedresolutiontherapy.com, charliehealth.com, medparkhospital.com


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1