1. SistaCafe
  2. น้ำอุ่น VS น้ำแข็ง มีข้อดี ข้อเสียต่อผิวที่หลายคนไม่รู้ และมักเข้าใจผิด !

หนึ่งในคำถามโลกแตกที่ยังคาใจใครหลายคนมาจนถึงตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดีต่อผิวมากกว่ากัน?!นี่แหละค่ะ เพราะการอาบน้ำและล้างหน้าเป็นรูทีนที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อทำความสะอาดผิว และขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ให้ตกค้างอยู่บนผิว แล้วทางเราขอบอกเลยว่าอุณหภูมิของน้ำก็ส่งผลต่อผิวพรรณด้วยเหมือนกันนะ บางตำราก็แนะนำว่าน้ำอุ่นดีต่อผิว บางตำราก็เตือนว่าอาบน้ำอุ่นแล้วผิวแห้ง หรือบางตำราก็บอกว่าน้ำเย็น / น้ำแข็งช่วยแก้ปัญหาผิวยอดฮิตได้ วันนี้เราจึงแอบไปสืบหาคำตอบมาคลายข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆ ชาวซิส พร้อมกับตอบคำถามยอดฮิต น้ำอุ่น VS น้ำแข็ง ที่หลายคนอาจกำลังเข้าใจผิดอยู่ด้วยค่าา

┈┈┈┈┈


ข้อดีของน้ำอุ่น

ถึงแม้ว่าเมืองไทยจะอากาศร้อนอบอ้าวจนทำให้เหงื่อไหลท่วมตัวขนาดไหน ก็ยังมีบางคนที่ชอบอาบน้ำอุ่นอยู่ดี โดยเฉพาะคนขี้หนาวที่กลัวการอาบน้ำเย็นเจี๊ยบค่ะ ซึ่งการอาบน้ำอุ่นไม่ได้มีดีแค่เรื่องการช่วยคลายความหนาวเย็นเท่านั้นหรอกนะ แต่ยังมีข้อดีต่อร่างกายและผิวพรรณหลายอย่าง ดังนี้

  1. ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. หากใครที่เป็นหวัดบ่อยๆ และมักจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก การอาบน้ำอุ่นก็จะช่วยเสริมให้ระบบทางเดินหายใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะช่วยละลายน้ำมูกและเสมหะ ทำให้หายใจโล่งและสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
  3. ช่วยทำความสะอาดผิวไม่ให้มีสิ่งตกค้าง
  4. ชาวซิสอาจเคยได้ยินมาแล้วว่าการอาบ หรือแช่น้ำอุ่นจะช่วยเปิดรูขุมขนให้สามารถขจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และคราบเมคอัพ ไม่ให้ตกค้างหรืออุดตันรูขุมขน จึงทำให้ผิวสะอาดใสไร้สิ่งตกค้างด้วยนั่นเอง
  5. ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  6. การอาบน้ำอุ่นเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ โดยการอาบน้ำอุ่นจะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการปวดหรือเกร็งกล้ามเนื้อ แล้วยังช่วยลดระดับความเครียดได้อีกต่างหาก หลังอาบน้ำอุ่นแล้วก็จะรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และนอนหลับง่ายขึ้นค่ะ
  7. ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  8. และข้อดีของน้ำอุ่นอย่างสุดท้ายก็คือการช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดค่ะ โดยการอาบน้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้อย่างปกติและเต็มประสิทธิภาพด้วยค่ะ

ข้อเสียของน้ำอุ่น

อย่างที่คนชอบพูดกันว่า‘ เหรียญมีสองด้าน ’เจ้าน้ำอุ่นที่หลายคนชอบอาบกันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อผิวพรรณและร่างกายด้วยเหมือนกันค่ะ เพราะหากอาบน้ำอุ่นที่อุณหภูมิสูงจนเกินไป ก็อาจเป็นการทำร้ายผิวแบบไม่รู้ตัว แถมการอาบน้ำอุ่นยังไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวบางอย่างด้วยนะคะ ทางเราจึงลิสต์ข้อเสียของน้ำอุ่นมาให้คุณสาวๆ ได้ลองส่องและเช็กกันค่ะ

  1. ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองผิว
  2. การอาบน้ำอุ่นอาจกระตุ้นให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองผิวได้ง่ายขึ้น เพราะความร้อนอาจทำลายน้ำมันที่เคลือบปกป้องผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้านและอ่อนแอลง ค่ะ
  3. ทำให้โรคผิวหนังอักเสบแย่ลง
  4. สำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบก็ไม่ควรอาบน้ำอุ่นนะคะ เพราะน้ำอุณหภูมิสูงอาจยิ่งทำให้ผิวแห้งเสีย และกระตุ้นอาการผิวหนังอักเสบให้แย่ลงกว่าเดิม ได้นั่นเอง
  5. ทำให้ผมแห้งเสีย เกิดรังแค
  6. นอกจากการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งขาดน้ำได้แล้ว การสระผมด้วยน้ำอุ่นก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งเสียได้ด้วยค่ะ เพราะน้ำอุ่นอาจทำลายน้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะแห้ง คัน ลอก และเสี่ยงเกิดปัญหารังแคกวนใจอีกต่างหาก
  7. ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคหัวใจ / ความดันโลหิตสูง
  8. การอาบน้ำอุ่นไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูงค่ะ เพราะน้ำอุณหภูมิสูงจะทำให้ความดันเลือดเพิ่มขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายถึงชีวิต ได้ด้วยนะคะ

ข้อดีของน้ำแข็ง

หลังจากที่ได้เช็กข้อดีและข้อเสียของน้ำอุ่นไปแล้ว ก็แวะมาดูข้อดีของน้ำแข็งกันบ้างดีกว่าค่ะ โดยมีตำราความงามและกูรูบิวตี้หลายคนที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำแข็งช่วยกระชับรูขุมขน เพิ่มพลังความสวยเนียนใสให้แก่ผิวหน้าได้ ทางเราจึงรวบรวมข้อดีของน้ำแข็งต่อผิวพรรณมาให้ได้ลองส่องกันค่ะ

  1. ช่วยลดอาการบวม
  2. บางคนเวลาที่ได้รับบาดเจ็บก็มักจะประคบน้ำแข็งตรงจุดนั้นเพื่อบรรเทาอาการบวม แล้วน้ำแข็งก็ยังช่วยลดอาการบวมของผิวได้ด้วยเหมือนกันนะ เพราะความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยระบายของเหลวออกจากระบบน้ำเหลือง จึงช่วยลดอาการหน้าบวมไปได้นั่นเอง
  3. ช่วยลดถุงใต้ตา
  4. เพื่อนๆ ที่ชอบตื่นนอนตอนเช้ามาพร้อมกับถุงใต้ตาบวมๆ ปูดๆ เหมือนคนร้องไห้ การประคบน้ำแข็งก็จะช่วยระบายของเหลวที่สะสมอยู่บริเวณใต้ตา ทำให้อาการบวมของถุงใต้ตาลดลงเร็วขึ้นค่ะ
  5. ช่วยปลอบประโลมผิวไหม้แดด
  6. สำหรับคนที่โดนแสงแดดแผดเผาผิวจนผิวไหม้แดด และมีอาการแสบๆ ร้อนๆ บนผิว การประคบผิวด้วยน้ำแข็งก็จะช่วยปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นลง ปลอบประโลมผิว และช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิวได้ค่ะ
  7. ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส
  8. ใครที่เจอปัญหาผิวหน้าดูโทรมและหมองคล้ำขั้นสุด ความเย็นจากน้ำแข็งก็จะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัวลง ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ดูมีชีวิตชีวา ทำให้ผิวหน้าดูเนียนใสสม่ำเสมอกันมากขึ้นค่ะ

ข้อเสียของน้ำแข็ง

อ๊ะๆ ไม่ใช่ว่าพอเห็นข้อดีของน้ำแข็งแล้วก็เกิดอาการตาลุกวาว รีบวิ่งไปหยิบน้ำแข็งออกจากช่องฟรีซแล้วนำมาถูๆ ขัดๆ ผิวหน้าแบบด่วนจี๋นะคะ เพราะน้ำแข็งก็ไม่ต่างอะไรจากน้ำอุ่นที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อผิวพรรณ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าการใช้น้ำแข็งบำรุงผิวอาจไม่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวหรือปัญหาผิวบางอย่างค่ะ ว่าแล้วก็ตามไปดูข้อเสียของน้ำแข็งที่มีต่อผิวพรรณได้เลย

  1. ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  2. ถ้าใครที่เป็นคนผิวบางหรือผิวแพ้ง่ายก็ไม่แนะนำให้ใช้น้ำแข็งถูผิวหน้าค่ะ เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแดงง่ายขึ้น จนเปิดทางให้ปัญหาผิวหน้าแวะมาทักทายอีกเพียบเลย
  3. ทำให้เส้นเลือดฝอยบนหน้าเห็นชัดขึ้น
  4. สำหรับคนที่มีเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าก็ไม่ควรใช้น้ำแข็งถูผิวหน้านะคะ เพราะน้ำแข็งอาจเป็นตัวการที่กระตุ้นให้มองเห็นเส้นเลือดฝอยเหล่านั้นชัดเจนขึ้น แถมยังทำให้การฟื้นฟูผิวช้าด้วยค่ะ
  5. ผิวอาจโดนทำลายจากความเย็นจัด
  6. บางครั้งการใช้น้ำแข็งถูหน้าอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ผิวจะโดนทำลายจากความเย็นจัด หรือที่เรียกว่าอาการน้ำแข็งกัด (Frostbite) โดยอาจทำให้ผิวแดง ปวดแสบปวดร้อน หรือเป็นแผลจากการที่ผิวโดยทำลายค่ะ

เราควรอาบน้ำอุ่น หรือน้ำเย็นกันแน่ ?

คราวนี้ก็ถึงเวลาตอบคำถามคาใจยอดฮิตบ้างแล้วนะคะ สำหรับคนที่ยังคงสงสัยว่าสรุปแล้วควรอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นกันแน่? คำตอบก็คือขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการค่ะ เพราะทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็นก็มีทั้งข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปอย่างถ้าอยากปลุกให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าก็เหมาะที่จะอาบน้ำเย็น แต่ถ้าอยากจะเพิ่มความผ่อนคลายให้ร่างกาย กล้ามเนื้อ และจิตใจ การอาบน้ำอุ่นก็จะช่วยให้รู้สึกสบายตัวและนอนหลับง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

แล้วสำหรับคนที่ชอบอาบน้ำอุ่นแต่ไม่อยากผิวแห้งเสีย เราก็มีเคล็ดลับดีๆ ที่ทำตามง่ายมากมาบอกต่อกันค่ะ นั่นก็คือ ไม่ควรอาบน้ำอุ่นนานเกินไป และควรทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือออยล์บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำเสร็จแล้ว เท่านี้ก็ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้านขาดน้ำได้แล้วค่ะ


น้ำแข็ง กระชับรูขุมขนได้จริงรึเปล่า ?

ส่วนอีกหนึ่งคำถามที่ฮอตไม่แพ้กันก็คือ น้ำแข็งกระชับรูขุมขนได้จริงรึเปล่า ? เพราะเวลาเสิร์ชหาเคล็ดลับกระชับรูขุมขนด้วยตัวเองง่ายๆ ทีไร ก็มักจะเจอคำแนะนำว่าให้ลองใช้น้ำแข็งถูหน้าเพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้แลดูเล็กลงอยู่บ่อยๆ ซึ่งน้ำแข็งช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลงได้จริง… แต่ผลลัพธ์ที่ได้เกิดขึ้นแบบชั่วคราวเท่านั้น! ไม่ได้หมายความว่าใช้น้ำแข็งถูหน้าแล้วรูขุมขนจะหายวับไปเหมือนเสกได้หรอกนะคะ

นั่นก็เพราะรูขุมขนกว้างเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว ผิวหน้ามันจนรูขุมขนต้องขยายตัวเพื่อขับน้ำมันส่วนเกินออก หรือคอลลาเจนถูกทำลายจนผิวขาดความยืดหยุ่น แบบนี้ถ้าอยากจัดการปัญหารูขุมขนอย่างตรงจุดก็ต้องขยันทำความสะอาดผิวเพื่อลดการอุดตัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สำหรับรูขุมขนกว้างโดยเฉพาะด้วยค่ะ

ส่วนการใช้น้ำแข็งถูหน้าจะเน้นช่วยเรื่องการลดบวม ลดการอักเสบ และปลอบประโลมผิวไหม้แดดมากกว่า แล้ววิธีใช้น้ำแข็งถูหน้าให้ปลอดภัยกับน้องผิวมากที่สุด ก็แนะนำให้นำน้ำแข็งที่สะอาดมาห่อด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้วิธีถูวนเป็นวงกลมทั่วใบหน้า และอย่ากดแช่ผิวบริเวณใดบริเวณหนึ่งเป็นเวลานานๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแดง เกิดการระคายเคือง หรือผิวโดนทำลายจากความเย็นค่ะ


ถ้าไม่ใช้น้ำแข็งแล้ว ใช้อะไรแทนได้อีกบ้าง ?


┈┈┈┈┈

หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว เราเชื่อว่าชาวซิสคงเข้าใจแจ่มแจ้งเกี่ยวกับ น้ำอุ่น VS น้ำแข็ง ว่าน้ำแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่อผิวยังไงบ้าง และเหมาะกับสภาพผิวแบบไหนมากที่สุดแล้วแน่ๆ โดยถ้าอยากดูแลผิวให้สวยและสุขภาพดี นอกจากจะต้องใส่ใจเกี่ยวกับอุณหภูมิของน้ำที่ใช้อาบน้ำและล้างหน้าแล้วเนี่ย สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ การดูแลรักษาความสะอาด ขยันทาสกินแคร์สม่ำเสมอ รวมทั้งนอนหลับให้เต็มที่ ดื่มน้ำเยอะๆ และเลือกกินอาหารบำรุงผิวสวยจากภายในด้วย ถ้าทำได้ครบตามที่เราบอกไปก็มั่นใจได้เลยว่าทั้งผิวหน้าและผิวกายจะต้องสวยสตรองพร้อมสู้กับทุกสถานการณ์แน่นอนค่าา ♥


⭑⭑⭑⭑⭑⭑⭑

Writer : Pearrisa

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงข้อมูล Cleveland Clinic, Sage Skincare, healthline

ขอบคุณภาพประกอบจาก jcomp & user18526052 on Freepik และ Photo by Brian Kyed on Unsplash


บทความแนะนำ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้