ฮาโหลค่ะชาวซิส ถ้าพูดถึง ' สมุดบันทึก ' เพื่อน ๆ หลายคนคงคิดถึงสมุดไดอารี่สวย ๆ ที่เขียนแบบเรียบร้อย และอ่านง่ายที่สุดใช่ไหมคะ ก็แหม...เวลาจะเขียนทั้งมีก็มีอารมณ์ที่อยากจะทำให้เกิดความสวยงามที่สุด กว่าจะเขียนแปะ หรือตกแต่งแต่ละทีก็ต้องใช้เวลาในการครีเอท ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ถ้ามันเป็นอุปสรรคที่ทำให้เราเลิกเขียนบันทึก เธอก็ควรหยุดพฤติกรรมติดความสมบูรณ์แบบนี้ซะ ! แล้วเราจะพามารู้จักกับ Junk Journal กัน

กระบวนการจดบันทึก เป็นการปลดปล่อยความเครียดที่ดีและสำคัญมาก มันไม่ได้เพียงแค่ทำให้เราเรียบเรียงความรู้สึกของเราออกมาเท่านั้น แต่มันยังทำให้เราเข้าใจตัวเองในแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อนด้วย แต่อย่างที่บอกไปว่าถ้า ' ความสวยงาม ' มันคืออุปสรรค วันนี้เราก็เลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำ Junk Journal กันสักหน่อย รับรองได้ว่าสนุกและทำได้แบบไม่อึดอัดแน่นอน เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่าทำยังไงกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

Junk Journalคืออะไร ?

ก่อนอื่นเราอยากจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้เจ้า Junk Journal กันก่อนว่ามันคืออะไร ในความเป็นจริง Junk Journal ก็คือหนังสือทำด้วยมือที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น เอกสาร จากนิตยสาร แผ่นพับกระดาษ ซองจดหมายถุงกระดาษสีน้ำตาล แผนที่ บัตรอวยพร เป็นต้น หรือขยะอะไรก็ตาม โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และทำออกมาให้สวยตามที่เราต้องการ โดยเราสามารถเอามาทำเป็นสมุดและเขียนบันทึกลงไปได้ คล้าย ๆ กับการทำไดอารี่นั่นเอง แต่มันจะมีของที่ระลึกมาใส่เพิ่มเติม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันจะช่วยบันทึกและรวบรวมความทรงจำ เหตุการณ์ที่เราประทับใจได้เป็นอย่างดี

ลักษณะเด่นของ Junk Journal :

• ใช้ของรีไซเคิล เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ซองจดหมาย กล่องขนม กระดาษห่อของ หรือสมุดเก่าที่ไม่ใช้แล้ว
• ไม่มีกฎตายตัว จะตกแต่งยังไงก็ได้ ใส่อะไรก็ได้ ทั้งภาพถ่าย วาดรูป ปะกระดาษ เขียนไดอารี่ ตัดแปะสติ๊กเกอร์ ฯลฯ
• เน้นความรู้สึกส่วนตัว ใช้เล่าเรื่องราวเฉพาะของเจ้าของสมุด เช่น ความทรงจำในวันสำคัญ การเดินทาง หรือสิ่งที่ชอบ

วิธีการทำ Junk Journal

ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้มีกฏเกณฑ์ที่ตายตัว เราสามารถใส่ความชอบ หรือความคิดสร้างสรรค์ลงไปได้เลย ตัวอย่างเช่น สามารถเริ่มต้นจาดสมุดบันทึกธรรมดา ๆ แล้วตกแต่งด้านหน้าด้วยภาพถ่าย คำพูดและกระดาษหรืออะไรก็ตามที่เรามีอยู่ เริ่มง่าย ๆ จากวัสดุรอบตัว เช่น กระดาษโน้ตเก่า ซองไปรษณีย์ ป้ายแท็กสินค้า แล้วตัดแปะลงบนเล่ม จากนั้นตกแต่งตามสไตล์ของเราเองได้เลยค่ะ 📖✨ และขอย้ำอีกครั้งว่ามันไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ ! สามารถเขียนสิ่งที่ต้องการใส่อะไรก็ได้ เพราะทุกอย่างคือของของเรา และมันทำจากขยะ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสวยก็ได้ ขึ้นอยู่ที่ความพอใจของเรา

หลังจากที่เราทำหน้าปกเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อมาที่เราแนะนำก็คือการรวบรวมแรงบันดาลใจ ก่อนที่จะเขียนสมุดบันทึก เราจำเป็นที่จะต้องรู้สไตล์พื้นฐานที่ตัวเองต้องการก่อน เพื่อให้เราเข้าใจในสิ่งที่ต้องการอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น เราชอบ หนังสือ Hardbound ซึ่งมีลักษณะที่เป็นสมุดปกอ่อนแข็ง เป็นสมุดโน้ตสำหรับนักเดินทาง มีลักษณะคล้าย ๆ กับหนังสือโบราณ ซึ่งมันให้เราทำบันทึกต่อไปแบบคุมโทนได้ง่ายขึ้น

แอบกระซิบว่า… สำหรับใครที่อยากให้สมุดบันทึกของตัวเองดูมีเสน่ห์แบบวินเทจหน่อย ๆ ก็มีเทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยตกแต่งให้ดูเก่า คลาสสิก และเต็มไปด้วยบรรยากาศของความทรงจำได้เลยค่ะ

หนึ่งในเทคนิคยอดฮิตที่หลายคนชอบใช้กันก็คือ “การย้อมกระดาษด้วยกาแฟ” เพียงแค่ใช้กาแฟดำ (แบบเข้ม ๆ หน่อย) มาเทหรือสาดลงบนกระดาษ แล้วปล่อยให้แห้ง หรือจะใช้ไดร์เป่าผมช่วยให้แห้งเร็วขึ้นก็ได้ เทคนิคนี้จะทำให้กระดาษมีรอยด่างสีน้ำตาลอ่อน ๆ คล้ายกระดาษเก่าในหนังสือโบราณ เพิ่มกลิ่นอายวินเทจได้แบบง่าย ๆ เลยค่ะนอกจากนี้ยังมีเทคนิคอื่นๆ ที่สามารถหาดูได้ตามลิงก์ที่เราแนะนำได้เลยนะคะ

ถึงเวลาจดบันทึกความทรงจำลงใน Junk Journal ของเรา โดยในแต่ละวัน เราจะค่อย ๆ เก็บสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เช่น ตั๋วหนังที่ไปดูกับเพื่อน กระดาษทิชชู่จากร้านกาแฟโปรด แท็กสินค้าที่ซื้อเป็นรางวัลให้ตัวเอง หรือแม้แต่เศษกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนไว้ในวันนั้น อะไรก็ตามที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกในช่วงเวลานั้นได้

หลังจากรวบรวมของเหล่านี้ไว้ เราก็จะเอามาจัดเรียง ตัดแปะลงในสมุด แล้วตามด้วยการเขียนคำบรรยาย อาจจะเป็นความรู้สึกของวันนั้น สิ่งที่ได้เรียนรู้ หรือเพียงแค่สิ่งที่อยากระบายออกมา ซึ่งทุกครั้งที่ได้ตกแต่งหรือเขียน มันเหมือนเราได้ย้อนกลับไปใช้เวลากับตัวเองอีกครั้ง ได้ค่อย ๆ ทบทวนว่าช่วงเวลานั้นสำคัญกับเรายังไงนั่นเองค่ะ

ไดอารีทำมือจากขยะ กับการช่วยเรื่องสุขภาพจิตใจ

Junk Journal ช่วยเรื่องสุขภาพจิตใจได้มากกว่าที่คิด เพราะเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับอารมณ์ของเราโดยตรงเลยค่ะ ซึ่งสามารถช่วยได้หลายด้านมาก ๆ เช่น

• ระบายความรู้สึก
• การเขียนหรือสร้างงานศิลปะใน Junk Journal เปรียบเสมือนการระบายความในใจ เช่น เขียนสิ่งที่อัดอั้นหรือไม่กล้าพูดกับใคร วาดภาพหรือแปะภาพที่แทนความรู้สึก ณ ขณะนั้น ช่วยให้จัดการกับอารมณ์เชิงลบ เช่น ความเครียด ความเศร้า หรือความสับสนได้ดีขึ้น
• ฝึกสติ
• ขณะทำ Junk Journal จะทำให้เราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการตัด ปะ หรือวาด เป็นการฝึกอยู่กับปัจจุบัน ช่วยให้จิตใจสงบ คล้ายกับการทำสมาธิ
• สร้างพื้นที่ปลอดภัย เข้าใจอารมณ์
• Junk Journal จะเป็น "พื้นที่ส่วนตัว” ของเราที่ไม่มีใครตัดสิน เราสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าจะเขียนสวย วาดเก่ง หรือใช้ของแพง และจะทำให้เข้าใจอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในช่วงนั้น ๆ ช่วยให้รู้จักตัวเองมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานของสุขภาพจิตที่ดี
• เสริมความคิดสร้างสรรค์
• การสร้างสรรค์ศิลปะช่วยกระตุ้นสารโดพามีน (dopamine) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสุขและแรงจูงใจ ยิ่งเราได้ลงมือทำบ่อยขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น เพราะเราได้เห็นความคิดในหัวของเราออกมาเป็นภาพจริงอยู่ตรงหน้า

สรุป

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับสิ่งดี ๆ ที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้แรงบันดาลใจเล็ก ๆ ในการเริ่มต้นดูแลใจตัวเองผ่านการทำ Junk Journal นะคะ ใครที่ยังไม่เคยลองเขียนสมุดบันทึกแบบนี้ ลองเปิดใจดูสักครั้งนะคะ ไม่ต้องมีของแพง ไม่ต้องวาดเก่ง แค่มีใจอยากบันทึกเรื่องราว และสนุกกับการตัดแปะตามสไตล์ของตัวเอง รับรองเลยว่าสนุก เพลิน และอาจจะตกหลุมรัก Junk Journal แบบไม่รู้ตัว ! 💘

ขอขอบคุณรูปภาพจาก ig : jzubjournals / my_saturnlife / stickerdreamshop / jaz.artsy / studio_magari / for_everyoung10

บทความแนะนำ

ศิลปะบำบัด ฮีลจิต ระบายขยะใจ วาดสุขด้วยสีและปลายพู่กัน ! | บทความของ Tenshi Yuri | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

https://sistacafe.com/summaries/art-theraphy-to-heal-your-mental-health-212432

Workaholic นิสัยบ้างานเสี่ยงเครียดหนัก สุขภาพพัง มีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง | บทความของ Pearrisa | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

https://sistacafe.com/summaries/what-are-the-sign-of-workaholic-92149

วิธีดูแลสุขภาพจิต เมื่อเจอเรื่องผิดหวัง ชวนเช็กสุขภาพใจที่ดีเป็นยังไง? | บทความของ pumxpurin | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

https://sistacafe.com/summaries/how-to-take-care-of-your-mental-health-91473

Doodling Method เทคนิคลากเส้น ขีดๆ เขียนๆ ก็เพิ่มความจำในสมองได้ | บทความของ พี่เหมียว | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

https://sistacafe.com/summaries/Doodling-Method-5699

ทำไมอกหักแล้วต้องตัดผม ตัดแล้วช่วยเยียวยาจิตใจได้จริงเหรอ? | บทความของ SIS TALK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้

https://sistacafe.com/summaries/why-people-cut-hair-after-breakup-50756