การ Come Out เราจำเป็นต้องบอกไหม ถ้าจะทำควรทำยังไงดี ?
เข้าสู่เดือน Pride Month กันแล้วนะคะ เราก็ต้องมาพูดกันในเรื่องพวกนี้กันสักหน่อย โดยเฉพาะเรื่อง การ Come Out หรือการเปิดเผยว่าตัวเองเป็นอะไร ชอบอะไรเนี่ยหลายคนอาจจะเกิดคำถามว่าควรทำหรือไม่ควรทำดี บทความนี้มีคำตอบมาให้ด้วยล่ะ !
เผยแพร่: 11 มิ.ย. 2566 16:00 น.
Views: 535
รหัสบทความ: 94990
ยินดีต้อนรับสู่เดือน Pride Month อย่างเป็นทางการค่า ฮิ้วเข้าสู่เดือนนี้ก็แปลว่าเป็นเดือนของการเรียกร้องสิทธิและการยอมรับของกลุ่ม LGBTQIA+ หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศนั่นเองค่าจริง ๆ เขาก็เรียกร้องตลอดนะคะไม่ได้เจาะจงว่าเดือนไหน แต่เดือนนี้มันเป็นเดือนที่เคยมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ+ มาก่อน เขาก็เลยเลือกเดือนนี้ในการเดินขบวนและจัดเทศกาลเพื่อเรียกร้องนั่นเองค่ะนอกจากเรื่องของ Pride ก็ยังมีประเด็นมากมายเกี่ยวกับ LGBTQIA+ นะคะ ซึ่งก็มีเรื่องนึงที่เป็นที่ถกเถียงหรือยกมาถามบ่อยมากก็คือการ Come Outแต่มันคืออะไร? แล้วจำเป็นต้องทำไหมอยากรู้แล้วละสิ อยากรู้ก็มาดูกันเลยค่า
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
การ Come out คืออะไร ?
" Come out "เป็นสำนวนภาษาอังกฤษที่ย่อมาจากคำว่า" Coming out of the closet "หรือการออกมาจากตู้นั่นเองค่ะ เปรียบเสมือนได้เปิดเผย เปิดประตูออกมาจากกรอบและกล่องซึ่งความหมายที่เขามักจะใช้กันก็คือ" Come out = การเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ "หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าการ Come out เป็นการทำแค่ครั้งเดียว เปิดเผยทีเดียวจบ ไม่จริงเลยค่ะ! เพราะจริง ๆ อาจจะต้องทำหลายครั้งมาก อย่างครั้งแรกสุดมักจะเริ่มตั้งแต่Coming out to yourself หรือการยอมรับในตัวเองแล้วนะคะ ส่วนการเปิดเผยต่อคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ อันนี้ก็จะเพิ่มจำนวนครั้งเข้าไปตามการบอก เช่น ไปบอกครอบครัวก็+1 บอกเพื่อนก็+1 รวมกันก็เป็น 3 ครั้งแล้ว เป็นต้นนะคะ
แล้วจำเป็นต้อง " Come out " ไหม ?
คำถามยอดฮิตมากเลยนะคะคำถามนี้ ตั้งแต่ศึกษาและอ่านเจอมาส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มค่ะ คือ 1. Come out เป็นสิ่งที่ควรทำ กับ 2.ไม่จำเป็นต้อง Come out แล้ว 2 กลุ่มนี้มีความคิดเห็นยังไงก็มาดูต่อกันเลยค่ะ1. Come out เป็นสิ่งที่ควรทำ:ไม่ว่าจะบอกพ่อแม่หรือครอบครัว รวมไปถึงเพื่อน ๆ บางกลุ่มเขามองว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำ เป็นการเปิดเผยให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าเราเป็นอะไร เราชอบอะไร เขาจะได้เข้าใจเราและรับรู้ว่าเราเป็นอะไรแบบจริง ๆ
2. ไม่จำเป็นต้อง Come out:บางคนมองว่าทำไมต้องทำ ในเมื่อเพศหญิงและเพศชายที่ชอบเพศตรงข้าม ( Cis Heterosexual ) ก็ไม่เห็นต้องบอกพ่อแม่หนิว่า " ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงครับ / หนูเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายค่ะ " และบางคนก็บอกว่าทุกคนเห็นอยู่แล้วว่าเราเป็นอะไร เราแสดงออก เราชอบอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ ทุกคนก็รับรู้แล้วซึ่งทุกคนจะคิดเห็นไปในทางไหนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองเลยนะคะว่าจะ Come out หรือไม่ Come out แต่สำหรับเรา เรามองว่าอยู่ที่ตัวบุคคลเลยค่ะ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ถ้าอยากทำก็ลุยเลยแค่นั้นค่ะ
มีวิธีการ Come out ยังไงบ้าง ?
การ Come out มันไม่มีรูปแบบตายตัว และก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตต้องทำพิธีอะไรนะคะมันเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปเลย สิ่งที่อยากแนะนำมีแค่การให้ค่อย ๆ พูดและอธิบายกันดี ๆถ้าจะบอกอีกฝ่ายแล้วก็ต้องทำใจว่าต้องเจอกับอะไรด้วยนะคะ อาจจะมีบางคนที่รับไม่ได้แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ พ่อแม่หลาย ๆ คนอาจจะรับได้และโอเคก็ได้ค่ะอย่างในโฆษณาโคคาโคล่าไทยที่ปล่อยออกมาลูกชายพาแฟนมากินข้าวพร้อมบอกแม่ว่า " เราสองคนเป็นแฟนกันครับแม่ " แม่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แค่เติมโค้กใส่แก้วให้แฟนของลูก แล้วก็หันไปพูดว่า " วันหลังมากินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ นะลูก " มันเป็นโมเมนต์ง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นได้นะคะ แล้วก็ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรเลย เพียงแต่มันเป็นสิ่งที่ยากจริง ๆ ค่ะยากที่ว่าคือยากต่อการยอมรับว่าต้องเจออะไรนะคะยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะ Come out น้า
แล้วจะรับมือกับการ Come out ยังไง ?
ถ้าในส่วนของคนที่เป็นคน Come out เองอาจจะต้องทำใจนิดนึงนะคะว่าต้องเจอกับอะไรส่วนใหญ่ก็พอจะเดากันได้ว่านิสัยของครอบครัวหรือเพื่อนตัวเองเป็นยังไง การที่เราจะเดินไปบอกเขาเนี่ย ปฏิกิริยาที่คาดว่าจะเกิดมันจะมีอะไรบ้าง เชื่อว่าทุกคนก็พอจะเดา ๆ ได้อยู่ ที่อยากจะบอกคือเราเป็นกำลังใจให้นะคะ สิ่งที่คุณทำหนะเก่งมาก ๆ แล้ว มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลย คุณแค่บอกเขาถึงความเป็นตัวเอง ดังนั้นไม่ต้องมองว่าตัวเองผิดน้า แต่อาจจะต้องให้เวลาเขานิดนึงค่ะ
ส่วนคนที่เป็นฝ่ายรับฟังการ Come out สิ่งแรกที่ควรทำเลยคือการรับฟังค่ะ เราไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินใจหรือห้ามว่าเธอห้ามเป็นแบบนี้ เธอเป็นไม่ได้ รับไม่ได้ ไม่โอเค สิ่งพวกนี้ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยนะคะ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของตัวเขา เขาเป็นอะไรก็ตามเราต้องเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นเราเปลี่ยนอะไรเขาไม่ได้ และอย่าไปคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนะคะ...เพราะเขาไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังเป็นคน ๆ เดิม นิสัยเหมือนเดิมเพียงแต่การแสดงออกหรือการแต่งตัว การพูดจาอาจจะเปลี่ยนไปบ้างเท่านั้นเองค่ะ แรก ๆ เข้าใจนะคะว่าบางคนอาจจะตกใจ ทำตัวไม่ถูกไปบ้าง แต่อยู่ไปสักพักก็จะเข้าใจมากขึ้นเองนะคะ
มีคำแนะนำจากประสบการณ์ตรงบ้างไหม ?
คนที่อยากจะ Come out ก็อาจจะอยากฟังประสบการณ์ตรงของคนที่เคยทำมาแล้วใช่ไหมละคะ ?งั้นก็มาดูตัวอย่าง 3 ตัวอย่างที่เรายกมาเลยค่ะ โดย 2 ตัวอย่างมาจาก" คุณเขื่อน ภัทรดนัย "
หรือที่หลายคนจำได้ก็คือหมวยเขื่อน/เขื่อนเคโอติกนั่นเองค่า ส่วนอีกคลิปก็จะเป็นการพูดคุยของคุณภูเขาและคุณบุญรอดจากช่องpoocao channelบอกเลยว่าทั้งหมดนี้ดูแล้วได้อะไรกลับไปแน่นอน สามารถเอาไปต่อยอดความคิดเรื่องนี้ได้เยอะเลยนะคะ
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
ได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการ Come outกันไปแล้วนะคะก็หวังว่าหลาย ๆ คนที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่จะนำไปปรับใช้กันได้น้ารวมไปถึงคนที่ไม่ได้อยู่ในคอมมูนิตี้ LGBTQIA+ ด้วย ถ้าเขามา Come out กับเราจริง ๆ หรือเปิดตัวให้ทุกคนรู้จริง ๆก็อยากให้ทำความเข้าใจและไม่มองว่ามันเป็นสิ่งที่แปลกด้วยนะคะที่สำคัญเลยก็คืออย่าไปบังคับใครเขามา Come out เด็ดขาดมันดูเป็นการบีบบังคับกันเกินไปค่ะ ให้เจ้าตัวเขาตัดสินใจเองดีกว่า เราทำได้แค่รับฟังเท่านั้นเน้อ เอาล่ะยังไงก็ขอให้ทุกคนเจอทางออกของตัวเองนะคะไม่ว่าจะ Come out หรือไม่ Come out ก็ตามเราสามารถเลือกและตัดสินใจเองได้นะคะส่วนทางเราก็ขอบ๊ายบายโบกมือลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ที่https://sistacafe.com/เหมือนเดิมเลยนะคะ สวัสดีค่า
