การได้เป็นตัวของตัวเอง จะทำให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากที่สุดการสัก เป็นการประดับร่างกายอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราได้โชว์ความเป็นตัวเองไปให้ผู้อื่นรู้แต่จะมีใครรู้บ้างว่า คนที่สักออกมาแล้วดูเท่ๆ หลายคนนั้นต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้างเมื่อสักไปแล้ว


ถึงแม้เราจะรู้ๆ กันอยู่ว่า การสักไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่ก่อนจะสักอยากให้ทุกคนมาลองอ่านกันดู ว่านอกเหนือจากความเท่แล้ว การสักอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังบางอย่างได้ยังไงก็มาดูกันดีกว่าว่าถ้าสักแล้ว เราอาจจะเสี่ยงเจอกับอะไรได้บ้าง!


5 ข้อควรรู้ ก่อนจะสัก มากกว่าความเท่ จะมีอะไรติดมาด้วย ต้องดู!


1. อาจเป็นตุ่มที่รอยสักเป็นปี

รูปภาพ:http://cdn1.sortra.com/wp-content/uploads/2016/08/nature-tattoo45.jpg

หลังจากที่สักแล้ว บางคนจะมีอาการรอยสักนูนๆ

ซึ่งถ้าใครสังเกตเห็น ให้รู้ไว้ว่า

นั่นอาจเป็นอาการของ Sarcoidosis ซึ่งเป็นอาการอักเสบชนิดหนึ่งของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ และมักพบบ่อยที่ปอด แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ที่รอยสักด้วย

โดยจะมาในลักษณะของตุ่มเล็กๆ ตรงบริเวณรอยสัก มันสามารถรักษาได้นะ แต่ก็ค่อนข้างยากอยู่


เหตุผลก็คือ

อาการ Sarcoidosis เป็นอาการที่เราแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อเจอกับการสัก

สำหรับใครที่สักไปแล้ว และถ้า

สังเกตว่ารอยสักของตัวเองมีตุ่มหรืออาการบวม ให้ไปพบกับหมอเพื่อขอคำปรึกษาและรักษาให้ถูกวิธีนะคะ


2. สักแบบหมึกแดง มีโอกาสแพ้สูง

รูปภาพ:https://www.pitria.com/wp-content/uploads/2016/10/%D7%97%D7%AA%D7%95%D7%9C.jpg

แม้แต่การเจาะหู บางคนก็ยังแพ้ แล้วถ้าสักโดยใช้สีจะไม่แพ้ได้ไงไหว

ซึ่งอาการแพ้สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป

ยิ่งเป็นแบบสีๆ ยิ่งมีโอกาสแพ้สูง และโดยเฉพาะคนที่สักแบบหมึกสีแดง จะมีโอกาสแพ้มากที่สุด

ถ้าใครไม่มั่นใจว่าผิวตัวเองจะแพ้การสักมั้ย

แนะนำให้สักแบบสีดำ Minimal เล็กๆ จะดีที่สุด


เวลาแพ้จะมีอาการบวมๆ เป็นตุ่มๆ รักษาให้หายได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้เช่นกัน

ฉะนั้นใครสักแล้วสังเกตเห็นอาการบวมๆ ให้ไปหาหมอผิวหนังทันทีค่ะ


3. สัตว์เลี้ยงก็ทำให้อักเสบได้

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/8b/33/89/8b338926fae50cdc72ea1bd0af518e8a.jpg

หนึ่งสิ่งที่หลายคนพลาดก็คือ

คนที่มีสัตว์เลี้ยงมักไม่ได้นึกถึงจุดนี้ สักมาปุ๊บก็ยังเล่นกับสัตว์

เหมือนปกติ ซึ่งจริงๆ แล้ว

หลังจากสักมา เราควรจะงดเว้นใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงสักช่วง ไม่งั้นนะ ทั้งขนทั้งน้ำลาย แหล่งเชื้อโรคเข้ามาเต็มแน่นอน


อาการที่เกิดเมื่อแผลสักอักเสบ จะรู้สึกผ่าวๆ แดงๆ และค่อนข้างนิ่มลง ดีไม่ดีอาจเกิดอาการเป็นไข้ได้เลย

ถ้ามีอาการแบบนี้

ก็แสดงว่ามันเริ่มติดเชื้อแล้ว ให้ไปหาหมอด่วนๆ เลยค่ะ

4. อาจพลาดสัญญาณอาการมะเร็ง


4. อาจพลาดสัญญาณอาการมะเร็ง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/c4/fa/a8/c4faa84e76aed85019ae132bce548b17.jpg

โดยปกติแล้วร่างกายเราจะแอบส่งสัญญาณมาให้รู้เมื่อเป็นมะเร็งผิวหนัง เช่น สีผิวมีการเปลี่ยนแปลง สีและขนาดของไฝเปลี่ยนเป็นต้น ซึ่งถ้าเราสักเป็นตำแหน่งหนึ่งเล็กๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าสักแบบใหญ่ๆ เช่น เต็มหลัง เต็มแขน มันก็จะทำให้เราสังเกตอาการแอบแฝงของมะเร็งได้ยากขึ้นด้วย

ถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ให้ปรึกษากับแพทย์ผิวหนังว่าสามารถสักรอยสักใหญ่ๆ ได้หรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง


5. เลือกร้านที่ไว้ใจได้เท่านั้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/19/ee/b6/19eeb64a14513c7da15f21fd0aeb7490.jpg

เมื่อตัดสินใจว่า ยังไงก็จะสักแน่นอนแล้วอย่างน้อยก็ให้เลือกร้านที่สามารถมั่นใจได้ ทำด้วยเครื่องมือที่สะอาดจริงๆเพราะถ้าดั๊นนนไปหลงสักในร้านที่ไม่ค่อยมีอนามัย ใช้เครื่องมือไม่ค่อยสะอาด จะทำให้แผลสักของเราเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ ไมโครแบคทีเรีย ซึ่งจริงๆ แล้วก็สามารถรักษาได้ทีหลัง แต่ถ้าเราป้องกันก่อนได้ก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ?

รอยสักเกิดขึ้นที่ผิวเรา ถ้าเลือกร้านไม่ดี รักษาไม่ดีแทนที่จะได้รอยสักเท่ๆ คูลๆ กลายต้องมานั่งรักษาผิวที่อักเสบแบบนี้คงไม่ดีแน่ฉะนั้นต้องหาร้านสะอาดๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการอักเสบนะจ๊ะ


คาดว่าหลายคนที่คิดแล้วคิดอีกเรื่องลายที่จะสัก ตอนนี้คงต้องคิดหนักกว่าเดิมว่าจะสักหรือไม่สักดี 555 ก็เป็นเพียงข้อให้คิดก่อนจะสักซักนิดน่ะนะคะ เพราะมันไม่ใช่แค่เท่ แต่อาจมีผลตามมามากว่านั้น

ถ้าใครอยากจะสักจริงๆ แต่ก็ยังกังวลเรื่องอาการผิวหนังต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ยังไงก็แนะนำเป็นแบบ Minimal น่าจะเหมาะที่สุด สามารถเข้าไปดูลายได้ตามนี้เลยค่ะ

นอกจากจะไม่ต้องทนเจ็บมากแล้ว ยังแสดงตัวตนของเราออกมาได้ดีอีกด้วยเนอะ สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากสัก ก็ตัดสินใจในการสักให้ดี

เลือกร้านให้ปลอดภัยที่สุด และพิจารณาทั้ง 5 ข้อนี้ เพื่อผิวอันเป็นที่รักของเราจะได้ไม่เสี่ยงอันตรายกันนะจ๊ะ