ฟักทอง เป็นอีกหนึ่งผักผลไม้ที่หลายๆ คนชอบทานกัน แต่เวลากินเราก็ไม่ได้โฟกัสไงว่า ประโยชน์ของมันคืออะไร ถูกมั้ย!วันนี้เราจะมาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับประโยชน์ของฟักทองกันค่ะ รวมมาให้แล้วถึง 5 ข้อพร้อมข้อแนะนำด้วยว่ากินเยอะๆ มันดีมั้ย? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?รู้ไว้ย่อมดีกว่าแน่นอนเพื่อให้ดีต่อร่างกายของเราอย่างแท้จริง ฟักทองจะมีทั้งประโยชน์และข้อควรระวังอะไรบ้าง เราไปอ่านดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

ชวนรู้จักกับ ฟักทอง อาหารอุดมประโยชน์ สัญลักษณ์วันฮาโลวีน

รูปภาพ:https://media.komchadluek.net/uploads/images/contents/w1024/2022/10/wO9iWIeFilf87rjE6BYu.jpg

เป็นพืชชนิดหนึ่ง ใช้ทำได้ทั้งอาหารคาว ของหวาน แม้แต่อาหารว่างก็ด้วยเช่นกัน เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้เถาเลื้อย ผลทรงกลมแป้น เปลือกแข็งผิวขรุขระ มีเนื้อในสีเหลือง รสชาติหวานมัน นอกจากนี้ ฟักทองยังมีประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกาย และวันนี้เราก็ได้รวบรวมประโยชน์เด่นๆ ของฟักทองมาแนะนำเพื่อนๆ ด้วย พร้อมข้อแนะนำ สำหรับคนที่ชอบกินฟักทองเยอะๆ จะมีอะไรบ้าง เอาเป็นว่า ไปอ่านดูกันเลย

รวม 5 ประโยชน์ของฟักทอง ครบรอบด้านทั้งสุขภาพ รูปร่าง และผิว

ประโยชน์ของฟักทอง ที่ 1. บำรุงสุขภาพดวงตา

รูปภาพ:https://tinyurl.com/4fum4asr

ฟักทองเป็นผลไม้เนื้อสีเหลือง ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ทั้งยังมี Lutein และ Zeaxanthin ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ป้องกันตาบอด ป้องกันต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของเม็ดสีในตาได้นอกจากนี้ ยังมีวิตามินและสารอาหารอีกหลายชนิด ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะมาช่วยป้องกันการอักเสบของเซลล์ในตา ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคตาที่เสื่อมสภาพตามอายุได้อีก

ฟักทองมีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่ 2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย

รูปภาพ:https://www.gunze.jp/layout/gnz01/site/kigocochi/assets/images/article/id_00096/img__mv.jpg

ฟักทองนั้นเป็นแหล่งของวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย หนึ่งในนั้นคือ ระบบภูมิคุ้มกัน อย่างที่เพื่อนๆ รู้กันว่า วิตามินเอ มีบทบาทในการผลิตและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือระบบภูมิคุ้มกัน ที่จะช่วยทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นแล้วช่วงนี้ไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดด้วย ฟักท้องนี่แหละช่วยได้ เพราะเขาไม่ได้มีแค่วิตามินเอ แต่ยังมีวิตามินซี ที่ช่วยบรรเทาอาการจากหวัดได้อีก มันเริ่ดจริงๆ

ฟักทองลดความอ้วน 3. ช่วยในการลดน้ำหนัก

รูปภาพ:https://enhealthytips.online/wp-content/uploads/2023/10/gfdgfdsgfsgfsd.jpg

ฟักทองเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่คนควบคุมน้ำหนักเลือกกินเลยนะ เพราะเขามีแคลอรี่ต่ำและใยอาหารสูงกินแล้วอิ่มนาน ลดการกินจุกจิก ลดความอยากอาหารไปได้มาก อีกทั้งยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นป้องกันปัญหาท้องผูกได้ดีอีกด้วยนะ จุดเด่นของเจ้าฟักทองนั้น มีแคลอรีต่ำและมีปริมาณน้ำสูง จริงๆ สามารถกินแทนข้าวหรือมันฝรั่งที่ให้พลังงานสูงได้เลย บอกได้แค่ประโยคเดียวว่า คนลดความอ้วนถูกใจสิ่งนี้!

ประโยชน์ด้านความงามของฟักทอง 4. บำรุงผิวพรรณ

รูปภาพ:https://epark.jp/kosodate/wp-content/uploads/2020/10/early-pregnancy-rough-skin-1024x682.jpg

สาวๆ อย่างเราได้อ่านข้อดีข้อนี้แล้วใจฟูไปเลย! ฟักทองก็เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ช่วยบำรุงผิวเหมือนกันนะ เพราะเขามีทั้งวิตามินเอ รวมถึงลูทีนและซีแซนทีน ทั้งยังมีวิตามินซีอีก นอกจากจะช่วยดูแลดวงตาของเราแล้ว ยังมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและอันตรายจากรังสี UV ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดอย่างริ้วรอยดูลดลง นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยป้องกันปัญหาเรื่องริ้วรอย และผิวแห้งได้อีก ขอบอกเลยว่า ฟักทองมีประโยชน์หลายอย่างมาก!

ประโยชน์ฟักทองที่ 5. ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

รูปภาพ:https://www.esthetic.cc/column/column/img/00691.jpg

ข้อสุดท้าย อาจจะเป็นข้อที่หลายๆ คนไหม่เคยรู้ รู้มั้ยว่า มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง แล้วพบว่าอาจช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งคอ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านมซึ่งสารอาหารที่ว่านี้ก็มีอยู่ในฟักทองด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ฟักทองยังมีส่วนช่วยป้องกันโรคหืดและโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคอ้วน หรือกระทั่งเสริมสุขภาพเส้นผมได้อีกด้วย

ไขข้อสงสัย ฟักทองกินทุกวันดีไหม ?

สำหรับข้อสงสัยที่ว่า

ฟักทองทานทุกวันได้ไหม?

เราขอตอบแบบนี้ค่ะทุกคน ว่าถึงแม้ฟักทองจะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่ทั้งนี้ก็ควรทานในปริมาณที่พอดี อย่าคิดว่ามันช่วยลดความเสี่ยงของโรคได้ก็เลยกินเยอะๆ ไว้ก่อน ไม่ดีนะคะ

การกินในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจจะกลายเป็นโทษต่อร่างกายได้

เหมือนกันนะ

ข้อควรระวังของฟักทอง

รู้มั้ยว่า จะเต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันนะ เพราะการกินที่มากเกินไป อาจจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดีนั่นเองค่ะ1. การกินฟักทองในปริมาณที่มากเกินพอดี อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะฟักทองมีฤทธิ์อุ่น ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาจสงผลให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และไม่สบายท้องได้2.เมล็ดของฟักทองมีไขมันและแคลอรี่สูง หากเรากินมาเกินไป จากลดความอ้วน อาจจะทำให้อ้วนแทนนะจ๊ะ และยังทำให้ปริมาณของไขมันไปสะสมอยู่ในเส้นเลือดมากขึ้นด้วย3.คุณแม่ทั้งหลายไม่ควรกินเมล็ดฟักทองนะคะเพราะอาจจะทำให้แก๊สสะสมในท้อง จนทำให้เกิดอาการปวดท้อง และแน่นท้องได้ค่ะ4.ใครที่มีอาการร้อนในไม่ว่าจะ กระหายน้ำ ปัสสาวะเหลือง ท้องผูก มีแผลในช่องปากเพื่อนๆ ที่มีอาการเหล่านี้ ไม่ควรทานฟักทองมากเกินไปนะคะ เพราะอาจจะยิ่งไปกระตุ้นให้ร่างกายร้อนขึ้นได้นั่นเองค่ะ

รูปภาพ:https://video.kurashiru.com/production/articles/166ef2ae-6955-457c-9737-ef2d77ddc3f5/wide_thumbnail_normal.jpg?1680142298

ใครที่ชอบกินฟักทอง ลองเข้ามาอ่านประโยชน์ของฟักทองกันดูเลยค่ะ อย่างที่เห็นว่าฟักทองมีประโยชน์มากมายตั้งแต่ประโยชน์ด้านสุขภาพร่างกาย ด้านความงาม และด้านการดูแลรูปร่างแต่ทั้งนี้ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน เรื่องกินนั้นจะกินมาเกินไปก็ไม่ดีเพราะฉะนั้นกินแบบพอดีจะดีที่สุดนะคะตอนนี้สภาพอากาศก็เริ่มเปลี่ยนแล้ว เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ชาวhttps://sistacafe.com/อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ

สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง