" สาเหตุหลักจากอาหารสุกๆ ดิบๆ "อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกนั้นก็จะมีเสน่ห์ของรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากอาหารปรุงสุกอย่างสิ้นเชิง ทำให้ใครหลายๆ คนที่ได้ลองแล้วเกิดการติดใจจนกลายมาเป็นเมนูจานโปรดเลยทีเดียว และเมื่ออาหารที่ไม่ผ่านความร้อนแน่นอนว่า ย่อมมีเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียแอบแฝงไว้อยู่บนเนื้อจะมีมากหรือน้อยนั้นก็อยู่กับสถานที่ที่นำมาทำเป็นอาหารด้วย และด้วยบางเชื้อโรคนั้นก็อาศัยสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตเพื่อแพร่กระจายอย่างเช่นพยาธิปอดหนูโรคอันตรายที่อาศัยความร้อนและฝนในการแพร่พันธุ์ ซึ่งคนเราจะได้รับเชื้อโรคนี้ส่วนมากมาจากอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน ฉะนั้นแล้วมาทำความเข้าใจกับภัยอันตรายใกล้ตัว และข้อควรระวังสำหรับอาหารที่อาจจะมีเชื้อพยาธิปอดหนูสะสม

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

พยาธิปอดหนู คืออะไร ?

รูปภาพ:

พยาธิปอดหนูหรือพยาธิหอยโข่งเป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งมีชื่อว่า Angiostrongylus cantonensis ซึ่งอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู ลักษณะพยาธิตัวเต็มวัยมีรูปร่างเรียวยาวประมาณ 2-3 ซม. พยาธิตัวเมียมีขนาดใหญ่ลำตัวมีลักษณะลายแดงสลับขาว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่า โดยพยาธินี้นั้นสามารถพบเห็นได้ในเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้บ่อยที่ภาคอีสานและภาคกลาง ซึ่งพยาธิตัวนี้นั้นจะแพร่จากการถ่ายอุจจาระของหนูที่มีพยาธิอ่อนปะปนออกมาพร้อมกัน เมื่อสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์น้ำจืด เช่น หอย ตัวทาก หรือกุ้งแม่น้ำ ก็จะกินตัวอ่อนของพยาธิเข้าไป ทำให้ตัวอ่อนไปเจริญเติบโตในสัตว์ที่กินนั้นแทน เมื่อเรานำเอาสัตว์นั้นมาทำอาหารโดยไม่ผ่านการปรุงให้สุกก่อน ก็สามารถทำให้พยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกายและเป็นอันตรายที่ส่งผลเสียต่ออวัยวะต่างๆ ได้

อาการเมื่อพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกาย

หลังจากคนที่รับประทานการปนเปื้อนของพยาธิเข้าไป จะมีระยะการฟักตัวประมาณ 7-30 วัน ก่อนจะแสดงอาการของโรค โดยตัวอ่อนนี้จะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง จนทำให้เกิดดังนี้- ปวดศีรษะ- เป็นไข้- ตาพร่ามัว จนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น- คลื่นไส้อาเจียน- มีอาการชักเกร็ง- สูญเสียการทรงตัว- อัมพาต- เสียชีวิต

สัตว์และอาหาร ที่มักพบพยาธิปอดหนูปนเปื้อน

รูปภาพ:

สัตว์ส่วนใหญ่นั้นแน่นอนว่าต้องมาจากสัตว์น้ำจืดกันส่วนใหญ่ และก็จะมักนำเอาสัตว์เหล่านี้มาทำเป็นอาหารแบบสุกๆ ดิบๆ ได้แก่- หอยประเภทต่างๆ เช่น หอยเชอร์รี หอยโข่ง หอยขม- ปลาน้ำจืด- กุ้งแม่น้ำ- กบ- ตะกวดนอกจากสัตว์เหล่านี้การทานผักและผลไม้สด รวมไปถึงการดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนก็สามารถได้รับพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

รูปภาพ:

----------------------------------------เมื่อพูดถึงอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก ก็สามารถรับเอาความเสี่ยงนี้ไปเต็มๆ โดยเฉพาะเมนู ดังนี้- กุ้งแช่น้ำปลา- ก้อย ลาบ ลู่ ดิบ- พล่า ยำ น้ำตก อ่อม หมก- กุ้งดอง ทะเลดอง หอยลวก- หมึกซอต

การรักษาพยาธิปอดหนู

รูปภาพ:

ปัจจุบันยังไม่มียาที่มีความจำเพาะในการรักษาโรคที่เกิดจากพยาธิปอดหนู สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน จะเป็นการให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาหรือระงับอาการของโรคได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะรักษาด้วยยา prednisolone และการเจาะระบายน้ำในไขกระดูกสันหลังออกเป็นระยะๆ เพื่อลดความดันของน้ำในไขสันหลัง สำหรับผู้ป่วยที่มีพยาธิไชเข้าตาก็จะรีบทำการผ่าตัดนำเอาพยาธิออกทันที

การป้องกันเบื้องต้น เพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิปอดหนู

รูปภาพ:

- รับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงสุก ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาทาน- รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม ควบคุมหนูซึ่งเป็นโฮสต์ธรรมชาติ- ดื่มน้ำสะอาดที่มีแหล่งผลิตหรือที่มาอย่างชัดเจน เพื่อลดโอกาสของการปนเปื้อน

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

พยาธิปอดหนูอันตรายกับเรามากจริงๆ โดยเฉพาะมากับอาหารที่เราชื่นชอบ ถึงแม้ว่าจะสามารถมีหนทางการรักษาที่ชัดเจนทั้งมีอาการที่ไม่รุนแรงหรือรุนแรงแต่ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างน่ากลัวสำหรับบุคคลที่ต้องเผชิญอาการเหล่านี้ ฉะนั้นแล้วพยายามเลี่ยงอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆเราต้องแน่ใจว่าร้านอาหารและความสะอาดของร้านอย่างเข้มงวดเพื่อที่จะไม่ให้เชื้อโรคเหล่านั้นมาส่งผลเสียต่อเราได้ ยิ่งช่วงหน้าฝนช่วงนี้ก็อย่าลืมใส่ใจกับอาหารการกินและสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของเราให้มากยิ่งขึ้นกันด้วยนะคะ แล้วมาติดตามความรู้ดี ๆ แบบนี้กันได้ใหม่บทความหน้าที่https://sistacafe.com/

บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด

https://sistacafe.com/summaries/89429

https://sistacafe.com/summaries/95665

https://sistacafe.com/summaries/95415

https://sistacafe.com/summaries/92558

https://sistacafe.com/summaries/88780