เวลาไปไดร์ผมที่ร้านเคยคิดกันมั้ยว่า เขาทำกันได้ยังไงถึงไดร์ผมออกมาได้ตรง และมีวอลลุ่มขนาดนี้  ขนาดเคยลองจำวิธีหวีมาทำที่บ้านมั่งแล้ว ทำไมไม่เหมือนล่ะ!?   ก็อาจจะจริงที่ว่าเขามืออาชีพมากกว่า แต่หากเราฝึกบ่อยๆ มันก็เชี่ยวชาญได้เหมือนกัน  แต่อันที่จริง ความพิเศษที่ทำให้ช่างทำผมทุกคนสามารถควบคุมเส้นผมให้ออกมาเป็นทรงได้อย่างใจนั่นก็คือ

" การเข้าใจในคุณสมบัติของอุปกรณ์ที่ใช้ "

มันก็เหมือนกับการที่เราทำอาหารแล้วรู้ว่า เกลือ น้ำตาล ซอสปรุงรสมีรสชาติเป็นยังไง เลยสามารถปรุงรสให้ออกมากลมกล่อมได้ดังใจชอบ   แล้วหากเราอยากจะมีผมทรงไหน ต้องการให้ผมออกมาเป็นยังไง

" หวี "

คือ

อุปกรณ์พื้นฐานสำคัญ

ที่

Hair stylist

เลือกใช้

หากเราอยากควบคุมเส้นผมได้ดังใจปรารถนา

แล้วล่ะก็ มาทำความรู้จักกับ

" คุณสมบัติของหวี "

แต่ละแบบกันเลยดีกว่านะ


8 ประเภทของหวี .... เลือกหวีแบบไหน ได้ผมแบบนั้น!

1. Paddle Brush

รูปภาพ:http://img.allw.mn/content/hair/2013/05/1_paddle-brush.jpg

หวีแปรงชนิดนี้เรียกว่าเป็น

แปรงอเนกประสงค์เ

ลยก็ว่าได้


เพราะคุณสามารถจัดการปัญหาผมยุ่งๆ พันกันได้ด้วยหวีอันนี้  ไดร์ผมก็ได้ นวดศีรษะก็ได้ ทำให้ผมเรียบและดูมีวอลุ่มก็ได้


แถมยังไม่ดึงเส้นผม หรือไปข่วนหัวให้เจ็บอีกต่างหาก เพราะว่ามันจะมีหมุดกลมๆ จากไนลอนที่จะไม่ก่อให้เกิดการสถิตของเส้นผม และมีแผ่นบุกันกระแทกอยู่อีกด้วย

คุณสามารถใช้หวีแบบนี้ไดร์ผมได้ในเช้าที่รีบเร่ง ก่อนจะม้วน หรือจะดัดใดๆ ก็ได้ทั้งนั้น

2. Round Brush

รูปภาพ:http://static.naturallycurly.com/images/products/SamVilla/small-round-brush.jpg

หวีกลมแบบนี้สมควรจัดไว้เป็นหวีสามัญประจำบ้านไปได้เลย เพราะด้วยหวีแบบนี้มีขนแปรงที่อ่อนโยนเพียงพอที่จะช่วยเรื่องเส้นผมที่ยุ่งเหยิง แต่ก็แข็งแรงมากพอที่จะยืดผมให้ตรงได้  ถ้าดูโดยรวมของแปรงจะเห็นได้ว่ามีจำนวนขนแปรงอยู่ในระดับที่เพอร์เฟกต์ เหมาะเหม็งมากๆ สำหรับการซอกซอนเส้นผม ซึ่งเมื่อเราหวีด้วยแปรงแบบนี้  เส้นผมจะพันไปรอบๆ แปรง และเด้งตัวออกมาซึ่งจะทำให้ได้ผมที่โดดเด้ง มีวอลุ่ม และเงางามได้อย่างใจ

3. Metal Round Brush

รูปภาพ:http://s2.folica.com/img/product/0/003329/main-view/cricket-tourmaline-technique-thermal-brushes-416x416.jpg

แปรงชนิดนี้จะ

ให้ผลเหมือนที่ม้วนผมเมื่อโดนความร้อน

ฉะนั้นส่วนมากเราจะใช้แปรงแบบนี้แหละในการม้วนผม เวลาที่เรา

ต้องการให้

ปลายผมโค้งงอน หรือต้องการลอนหน่อยๆ โดยไม่ต้องใช้ที่ม้วนผม

ตรงแกนที่เป็นส่วนเว้าจะทำให้ลมจากไดร์สามารถเป่าผ่านทะลุไปได้  ซึ่งจะทำให้ผมโดนลมได้อย่างทั่วถึงและทำให้ผมแห้งได้อย่างรวดเร็ว

แต่เวลาใช้ต้องระมัดระวังหน่อย เพราะอาจจะไปข่วนโดนหนังศีรษะ หรือถ้าหากเราทำช้าเกินไปก็จะโดนความร้อนจากไดร์เป่าผม และแกนหวีได้

4. Metal Core Brush

รูปภาพ:http://s7d2.scene7.com/is/image/Drugstore/137858?$350x350$&iv=DJACp3&wid=700&hei=700&fit=fit,1

แปรงหวีอันนี้คล้ายๆ กับการนำ

Round Brush

+

Metal Round Brush

เพราะมีขนแปรงทั้งแบบไนลอน และขนแบบหมูป่าอยู่ในอันเดียวกัน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุมเส้นผมได้ง่ายกว่าแปรง Metal core brush ทั่วๆ ไป   โดยขนหมูป่าจะช่วยเป็นตัวกันระหว่างหนังศีรษะกับแกนเหล็กของหวีไม่ให้ได้รับความร้อนมากเกินไป

แปรงชนิดนี้จึงจัดว่ามีประโยชน์แบบมัลติหลากหลายด้านมากในบรรดาRound Brushด้วยกัน

แถมยังทำให้ผมตรงดูนุ่มสลวยได้อีกด้วยนะ

5. Porcupine Brush

รูปภาพ:http://www.spornette.com/media/catalog/product/cache/1/image/9df78eab33525d08d6e5fb8d27136e95/s/p/spor-g-36xxl_1.jpg

แค่ได้ยินชื่อว่าแปรงขนเม่นก็อย่าเพิ่งตกใจจินตนาการกันไปก่อนล่ะว่า ตัวเองต้องเอาขนเม่นมาแปรงผมเรอะเนี่ย  เปล่าเลยจ้า ใจเย็นๆ เพราะชื่อ

Porcupine

เนี่ยมันเป็นชื่อเรียกเพื่อสื่อถึง

ขนหลายๆ แบบที่มาอยู่รวมกันเป็นเซ็ตๆ คล้ายขนเม่น

โดยจริงๆ แล้วแปรงชนิดนี้จะผสมผสานไปด้วยขนหลายแบบซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงขนหมูป่าและไนลอนไว้ด้วยกัน   ยังไงก็ตามแปรงแบบนี้จัดว่านุ่มนวลพอสมควร แต่ก็สามารถจับติดเส้นผมได้ดี อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้ควบคุมเส้นผมได้ดีมาก

สามารถซอกซอนเส้นผมไปสู่หนังศีรษะได้แม้แต่คนผมหนาก็ตาม

6. Smoothing Brush

รูปภาพ:http://www.escentual.com/blog/wp-content/uploads/2013/09/What-Mason-Pearson-Brush-Hair-Edit.png

แปรงชนิดนี้จะเป็นคล้ายๆ

Paddle Brush

แต่จะมีลักษณะกลมกว่า และตรงขนแปรงจะมีขนหมูป่า และไนลอน คล้ายแบบ

Porcupine

หรือจะมีอีกแบบที่เป็นขนแปรงอย่างเดียว ไม่มีไนลอน ซึ่งแปรงประเภทนี้จะจับเส้นผมได้ง่าย

จึงเหมาะแก่การทำให้ผมเนียนเรียบไม่ยุ่งเหยิง

และเหมาะสำหรับการทำทรงผมประเภท

Updo

หรือประเภทที่ต้องมีการเกล้าผมเป็นอย่างมาก

7. Vent Brush

รูปภาพ:https://www.savers.ie/images/HJ45.new10..jpg

เห็นได้ชัดๆ ว่าหวีชนิดนี้ จะเน้นระยะห่างและมีช่องว่างอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อให้เหมาะแก่การทำให้ผมเรียบลื่น และเ

หมาะสำหรับการไดร์เป่าผม

ทำให้ผมแห้งเร็ว เพราะมีช่องว่างของตัวหวี และเส้นขนไนลอนที่มีระยะห่างในการซอกซอนผมแบบกว้าง

อีกทั้งด้วยหัวไนลอนแบบกลมยังช่วยป้องกันการข่วนหนังศีรษะ แถมยังนวดหนังศีรษะได้ด้วยอีกต่างหากนะ

8. Teasing Brush

รูปภาพ:http://www.hautepnk.com/wp-content/uploads/2012/10/Teasing-Brush.jpg

Teasing Brush

เป็นหวีที่มีฟังก์ชันพิเศษในการ

ช่วยเพิ่มสไตล์เฉพาะให้กับทรงผม

ด้วยลักษณะของหวีที่มีความแคบ ทำให้เราสามารถแปรงผมเฉพาะจุดได้ และขนแปรงที่มีลักษณะเป็นขนแข็งแบบนี้ทำให้จับเส้นผมได้ง่าย

จึงเหมาะแก่การที่ทำให้ผมเรียบลื่นก็ได้  และสร้างวอลลุ่มให้ผมดูหนาขึ้นได้

ดังนั้นแปรงตัวนี้จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า

Backcombing Hair Brush

เนื่องจากจะถูกนำไปใช้ในการช่วยให้ผมบริเวณโคนดูหนาพองตัวมากขึ้น ด้วยการนำหวีนี้ไปแปรงตรงช่อผมด้านหลังแล้วจะทำให้ผมดูมีวอลลุ่มดูหนาขึ้นมาได้ทันที หากสาวๆ คนไหนชอบการทำผมแบบนี้ ควรจะมีหวีชนิดนี้เอาไว้ครอบครองก็จะดีมากเลยนะจ๊ะ

หากใครไปร้านทำผมบ่อยๆ ก็จะเห็นได้ว่าช่างทำผมจะมีหวีเยอะแยะเต็มไปหมดซึ่งเราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า เขาเอาไว้ใช้อะไรกันบ้าง  แต่หากสาวๆ ได้อ่านบทความอันนี้เสร็จแล้ว ก็จะเห็นได้ว่านี่คือ

ชนิดของหวีหลักๆ ที่เราควรรู้ไว้ในการจัดแต่งทรงผม

หากต้องการจัดทรงผมให้ได้ด้วยตัวเองแบบมืออาชีพและมีผมที่สวยงามได้ทุกวันแล้วล่ะก็นะ  เรื่องแค่นี้ผู้หญิงอย่างเราทำได้อยู่แล้วเนอะ  แต่การที่จะซื้อหวีมาให้ครบทุกแบบอาจจะต้องใช้งบเยอะ ซึ่งบางทีเราอาจจะไม่มีเวลาใช้ทั้งหมด

ก็ขอให้เลือกหวีบางชนิดที่คิดว่าจะมีประโยชน์สมควร เหมาะกับเราในทุกวันมาใช้สักอันสองอันก็ได้นะ


......แต่ถ้าหากว่าใครงบพอและใจรักล่ะก็ 8 อันนี้ จัดไปเลยจ้าาา (´∇ノ`*)ノ


บทความที่เกี่ยวข้อง