#เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็หาย 9 วิธี ฟื้นฟูเยียวยา สภาพใจตัวเอง หลังเลิกกับแฟน 💔
เรื่องอกหักก็แค่จิ๊บ ๆ ไม่ถึงกับตาย แค่ต้องให้เวลาเยียวยาเท่านั้น
เผยแพร่: 27 มิ.ย. 2561 17:40 น.
Views: 3,916
รหัสบทความ: 48493
เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ( และอาจจะปนน่าอิจฉาหน่อย ๆ ) เวลาที่เราเห็นคนบางคู่คบกันเป็นแฟนได้อย่างยาวนาน จนถึงขั้นแต่งงาน ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างที่ตั้งใจมา แต่
สำหรับบางคู่
...มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เพราะบางทีมันก็
อาจเกิดเหตุสะดุดกลางทาง ทำให้ความรักครั้งนั้นสะบั้นไปแบบไม่คาดคิด!
ถ้าเกิดว่าคุณต้องเจอกับสภาวะถูกหักอก หรือตัดความสัมพันธ์แบบตั้งตัวไม่ทัน
จงตั้งสติดี ๆ แล้วใจเย็น ๆ ออกมาพักฟื้นฟูสภาพจิตใจ
กันก่อน ถ้าหาหนทางให้ตัวเองไม่ได้ อ่าน 9 ข้อนี้ เผื่อว่ามันจะช่วยให้คุณดีขึ้นค่ะ
1. ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไร ยอมรับให้ได้ว่า ณ จุดนี้คุณกับเขา
' เลิกกัน '
ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แม้ว่าคุณและเขาจะเคยมีความสัมพันธ์ที่หวานชื่นจนยากเกินจะลืมเลือนขนาดไหนก็ตาม แต่ ณ เวลานี้มันจบลงแล้ว
เข้าใจว่าในช่วงแรก ๆ มันอาจจะทำใจลำบากอยู่สักหน่อย แต่นี่คือสิ่งแรกที่คุณควรจะทำก่อนเป็นอันดับแรก มิเช่นนั้นคุณก็จะทีคำถามวนลูปอยู่ในใจตลอดเวลาเกี่ยวกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นว่าเป็นเพราะอะไร? แล้วมันจะไม่มีทางจบ!
2. อึดอัดนักก็ระบายออกมา
เป็นเรื่องธรรมดามากที่เมื่อความรักของคนสองคนจบลง แล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายเสียใจจะเป็นจะตาย
ถ้าคุณโอเคที่จะอดทนเก็บงำความรู้สึกได้ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามันถึงขั้นไม่ไหว เฟลจนไม่เป็นอันทำอะไร จงอย่าฝืนค่ะ
อยู่กับเพื่อนหรือใครสักคนที่ไว้ใจ ระบายความอัดอั้นตันใจตรงนั้นออกมา เผื่อมันจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็อย่าฟูมฟายมากเกินไปจนถึงขั้นรบกวนคนอื่นล่ะ มิเช่นนั้นคุณจะกลายเป็นคนน่ารำคาญในสายตาใครต่อใครไปเลย
3. อย่ามัวแต่โทษนั่นโทษนี่ รวมถึงโทษตัวเองด้วย
ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บมาคิดเรื่องราวที่มันผ่านและจบไปแล้ว เรื่องของความรักคือเรื่องระหว่างคนสองคน
เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดสิ้นความรู้สึกต่อกัน ก็ยากที่จะสานสัมพันธ์กันต่อไป อย่าพยายามไปหาสาเหตุ มัวแต่โทษนั่นโทษนี่ หรือแม้แต่การโทษว่าตัวเองไม่ดีพอ
เพราะมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรและทำให้คุณจมอยู่กับความทุกข์ไปเสียเปล่า ๆ
แม้แต่ในกรณีที่มือมีที่ 3 เข้ามาเกี่ยวพัน แน่นอนว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ทั้งอีกฝ่ายและคนของคุณ แต่ของแบบนี้อย่าทำเกรี้ยวกราดไปค่ะ เพราะปรบมือข้างเดียวยังไงย่อมไม่มีทางดังได้ ให้คิดเสียว่ามันเป็นเรื่องที่บังคับใจกันไม่ได้
อย่างน้อยมันก็จะทำให้เราได้เห็นว่าผู้ชายที่คุณคบหาด้วยนั้นไม่มีความหนักแน่นและมีค่าพอสำหรับคุณเลย!
4. ออกไปพบปะเพื่อนบ้าง
วิธีจัดการกับความรู้สึกของคนเรานั้นแตกต่างกัน บางคนชอบที่จะอยู่เงียบ ๆ คนเดียว แต่กับ
บางคน...การอยู่คนเดียวนั้นจำทำให้ยิ่งฟุ้งซ่านและทำอะไรแบบขาดสติได้
ในกรณีหลังนี้ แนะนำว่าให้
ออกไปเจอเพื่อน คุยกับเพื่อน หรือทำกิจกรรมอะไรให้ลืมความรู้สึกแย่ ๆ ไปชั่วขณะดีกว่า
อย่างน้อยมันก็น่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง คิดเสียว่าต่อให้คนคนนั้นไม่รักคุณ แต่คุณก็ยังมีเพื่อนที่รัก เห็นใจ และพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยคุณเสมอค่ะ :)
5. อย่าฝืนแสดงออกว่าเข้มแข็ง ว่ายังเป็นเพื่อนกับเขาได้ในทันที
การเลิกกันไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ แม้ทั้งคุณและเขาจะมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ และบอกว่า
" ยังคุย ยังเป็นเพื่อนกันได้ "
แต่ในเชิงการกระทำนั้นมันก็เป็นเรื่องที่มีความกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อย แม้จะจากกันโดยดี แต่ก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าความสัมพันธ์นั้นจะยังแน่นแฟ้นกันต่อไป เพราะเมื่อมาถึงคำว่า
" เลิก "
แม้จะยังรักกันอยู่ แต่นั่นก็เท่ากับว่าคุณและเขาเป็นอิสระต่อกันทั้งสองฝ่าย มีสิทธิ์ที่จะไปเจอคนใหม่ ๆ ได้ทั้งคู่
ในช่วงที่เลิกกันแรก ๆ แนะนำว่า
เลี่ยงการเจอหน้ากันดีกว่า
เพราะถึงแม้คุณจะพยายามแสดงออกว่าคุณโอเค พูดคุยฉันมิตรกับเขาได้ แต่
ลึก ๆ แล้ว ใครจะไปทนได้ความบาดแผลสด ๆ ที่เพิ่งได้รับมา ทางที่ดีอย่าทำเป็นฝืนแล้วตอกย้ำบาดแผลตรงนั้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ เลย
หลบไปพักฟื้นรักษาเยียวยาจิตใจแบบที่ไม่เจอหน้ากันน่าจะเป็นวิธีที่สุดค่ะ
6. อย่ารีบร้อนที่จะมีใครใหม่
8. เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำอะไรใหม่ ๆ ในชีวิต
เมื่อเจ็บช้ำกับความรักมาหมาด ๆ วิธีการแก้ปัญหาของใครหลาย ๆ คนคือ
" หาใครคนใหม่มาแทนที่ "
เพื่อเยียวยาความเสียใจที่เกิดขึ้น ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นวิธีที่ไม่ดีเอามาก ๆ เพราะนั่นมันจะ
ไม่ยุติธรรมกับคนที่เข้ามาใหม่
เรื่องความรักไม่สามารถมีใครมาแทนที่ใครได้
ความรู้สึกเก่า ๆ ควรให้มันจบลงไปกับรักครั้งเก่าหากคิดจะมีใครใหม่จริง ๆ ขอให้มันเป็นสิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การทดแทนกันของสิ่งที่สูญเสียไป
ดังนั้น
หากคิดจะมีรักครั้งใหม่ จงแน่ใจก่อนว่าตัวเองพร้อมเปิดใจ
ไม่ใช่ว่ายังจมอยู่กับอดีตที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจไม่จบไม่สิ้นนะคะ
7. อย่าเพิ่งติดตามว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรในตอนนี้
คนที่เลิกกันไปนาน เวลาส่องดูชีวิตของแฟนเก่า มักจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากมาย
จุดประสงค์คือแค่อยากรู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไร สบายดีมั้ย? เท่านั้น
แต่สำหรับ
คนที่เพิ่งเลิกกันหมาด ๆ
มันไม่ใช่่ค่ะ ด้วย
สภาวะทางอารมณ์ที่ยังไม่นิ่ง มันย่อมจะทำให้จิตใจว้าวุ่น อยากรู้ว่าพอเลิกกันไปแล้ว เขาจะเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร นึกถึงเราบ้างมั้ย?
และถ้ายิ่งคุณได้รู้ว่าเขามีคนใหม่เข้ามา คนที่อยู่ในฐานะ
" แฟนเก่า "
อย่างคุณก็อาจจะเกิดความกระวนวายใจ เสียใจหนักยิ่งกว่าเดิม!!
เพราะฉะนั้นทางที่ดี อย่าพยายามสอดส่องความเป็นของอีกฝ่ายเลย แต่ทุกวันนี้เราก็ต้องอยู่กับสังคมโซเชียล เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าห้ามใจตัวเองได้มันจะดีมาก ๆ ค่ะ
ยอมรับเลยว่าเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากจริง ๆ เพราะคู่รักบางคู่ แม้จะจบความสัมพันธ์กันไปนานขนาดไหน ก็ยังแอบส่องความเป็นไปของกันและกันได้ นับประสาอะไรกับคนที่เพิ่งเลิกกันหมาด ๆ แต่การส่องทั้งสองแบบนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันค่ะ
8. ลองอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยได้ทำ
ข้อนี้จะเรียกว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสก็ได้นะคะ อย่างเช่นว่าคุณมีเรื่องที่ตั้งใจอยากจะทำมานาน แล้วไม่ได้ทำสักที หรือสถานที่ไหนที่อยากจะไปเที่ยวแต่ไม่ได้ไป ใช้โอกาสตรงนี้นี่แหละ เริ่มทำอะไรตามความตั้งใจนั้นได้เลย
แม้จะไม่ได้ช่วยรักษาเยียวยาสภาพจิตใจได้เต็มที่ แต่ก็น่าจะช่วยให้รู้สึกเพลิดเพลิน สงบ มีสมาธิอยู่กับตัวเองมากขึ้น
ค่ะ :)
9. อย่าไปคาดหวังกับความสัมพันธ์ที่สะบั้นไปแล้ว
ไม่แปลกที่การจบความสัมพันธ์กับคนรัก จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคาดหวังว่าอะไร ๆ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
การที่อีกฝ่ายไม่มีคำพูด หรือทีท่าใด ๆ ที่เผยออกมาว่ามีเยื่อใย น่าจะทำให้เราเป็นฝ่ายตัดใจง่ายขึ้น
แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นกับคู่รักทุกคู่นะคะ...
เพราะบางที
แม้จะเลิกกันแล้ว อีกฝ่ายอาจเผลอพูดหรือแสดงออกว่ายังตัดเราไม่ขาด
ใครเจอแบบนี้อาจมีใจชื้นขึ้นมาได้ว่ารักนี้อาจจะรีเทิร์น แต่...ขอ
เตือนไว้ก่อนเลยว่าอย่าไปหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ
เลยค่ะ เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นก็อาจเรียกได้ว่าไม่ต่างจากการ
" กั๊ก "
เลยก็ว่าได้ แบบนี้ก็เท่ากับว่าเขามองว่าคุณเป็นของตาย ฉะนั้นจงคิดอยู่ให้ดีว่าจะออกมามีชีวิตใหม่ หรือเผชิญอยู่กับวังวนตรงนั้นต่อไป...
*********************************
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการเบื้องต้นที่เราพอจะแนะนำได้
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ผลทันทีนะคะ ของแบบนี้ต้องใช้เวลา และต้องอาศัยความอดทน หนักแน่นในตัวคุณเองด้วย
แต่เชื่อเถอะ ถ้าผ่านพ้นเรื่องเศร้า ๆ แบบนี้ไปได้ คุณจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง และเข้าใจความรักขึ้นมาในทันทีเลยล่ะ :)
