1. SistaCafe
  2. แชร์เคล็ดลับการกำจัดขนจิมิด้วยเลเซอร์ ดีจริงหรือจกตา?

หากเพื่อนๆ เป็นอีกคนที่กำลังประสบปัญหากับขนน้องสาว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับชื้นไม่พึงประสงค์ ขนน้องสาวยาวจนหมดความมั่นใจที่จะใส่บิกินีตัวโปรด หรือแม้แต่กระทั้งน้องสาวมีขนคุดจนเกิดอาการอักเสบ ปัญหาเหล่ามักจะถูกแก้ด้วยวิธีที่เรียกว่า “วนลูป” เช่น การถอน การแว็กซ์ การโกน และเมื่อเวลาผ่านไปขนจิมิของน้องสาวก็จะกลับมาใหม่ จึงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดเท่าไหร่นัก อีกทั้งการกำจัดขนด้วยวิธีเหล่านี้ ก็มักจะมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บและอักเสบจากการแว็กซ์หรือการถอน ตอขนที่ทิ่มแทงผิวหนังจากการโกน เป็นต้นวันนี้เรามีวิธีดีๆ ที่จะทำให้การกำจัดขนน้องสาวง่ายขึ้น นั่นคือ “เลเซอร์ขนจิมิ” นั่นเอง บอกเลยว่าวิธีการนี้จะทำให้สาวๆ หมดปัญหาบริเวณจุดซ่อนเร้น ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดขนได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยละค่ะ


มาทำความรู้จักกับ การทำเลเซอร์ขนจิมิกัน

การทำ

https://www.gangnamconsult.com/laser-pubic-hair-removal/

คือ วิธีการหนึ่งในการกำจัดขนใต้ร่มผ้าบริเวณอวัยวะเพศของผู้หญิงด้วยเครื่องยิงเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเครื่องยิงเลเซอร์จะให้กำเนิดคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นที่เหมาะสม ส่งผ่านความร้อนไปที่รากขนเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานิน หรือเม็ดสีสร้างจากเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ (melanocyte) ผลที่ได้คือเส้นขนมีสีอ่อนลง ความแข็งแรงน้อยลงจนหลุดไปในที่สุด นอกจากนั้นยังช่วยในการชะลอการเกิดใหม่ของเส้นขนอีกด้วย ทำให้บริเวณจุดซ่อนเร้นของสาวๆ ปราศจากขนกวนใจได้อย่างถาวร



s

ปัญหาที่มักพบบ่อยจากขนน้องสาว

สาเหตุของการกำจัดขนน้องสาว จริงๆ แล้วนั้นไม่ได้ทำเพื่อความสวยความงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลกระทบต่อปัญหาทางด้านสุขอนามัย สุขภาพและจิตใจ เราจึงได้รวบรวมปัญหาจุดซ่อนเร้นที่มักพบได้ทั่วไป และเกิดขึ้นจากขนน้องสาว เพื่อให้ทุกคนได้รู้ถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น หรือมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับน้องสาวของเราในอนาคต ซิสจึงได้รวบรวมไว้ตามนี้เลย

1. ปัญหาขนอับชื้นจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากแบคทีเรียบางชนิด

2. ปัญหาการงอกของขนใต้ผิวหนังจนเกิดการอักเสบ

3. ปัญหาอาการคันในร่มผ้าจากเชื้อราสะสมบริเวณขน

4. ปัญหาจากขนดกและหนา จนเกิดความไม่มั่นใจในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก

5. ปัญหาจากการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง

6. ปัญหาโรคผิวหนังและการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย บริเวณหัวหน่าวและอวัยวะเพศ

ซึ่งวิธีการที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลมากที่สุดในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นการทำเลเซอร์เพื่อกำจัดขนจิมิ ที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมดและเป็นวิธีที่สามารถตอบโจทย์ ทำให้ปัญหาหมดไปอย่างถาวรนั่นเองค่ะ


รูปแบบเลเซอร์ขนจิมิที่มีอยู่ในปัจจุบัน

การเลเซอร์เพื่อกำจัดขนจิมิ เดิมเป็นการกำจัดขนบริเวณผิวหนังรอบอวัยวะเพศเพื่อกำจัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับผิวหนังและอวัยวะเพศให้หมดไปเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้มีออกแบบการทำเลเซอร์กำจัดขนจิมิ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบส่วนตัวของสาวๆ โดยมี 2 แบบให้ได้เลือกทำดังนี้

1. The Bikini line Laser คือ การทำเลเซอร์เพื่อกำจัดขนแบบทั่วไป ที่บริเวณขอบชุดชั้นในเท่านั้น ซึ่งการกำจัดขนในรูปแบบนี้จะทำเพื่อความสวยงามในการสวมใส่เสื้อผ้า เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการเจ็บจากการทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นครั้งแรก

2. The Brazilian Bikini Laser คือ การทำเลเซอร์เพื่อกำจัดขน เกือบทั้งหมดของบริเวณอวัยวะเพศไปจนถึงขนรอบบริเวณทวารหนัก แต่ก็ยังคงเหลือขนไว้บริเวณหัวหน่าวบางเล็กน้อย ทำให้ดูเรียบเนียนเกลี้ยงเกลา ทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับสาวๆ ที่รักการสวมใส่จีสตริงหรือบิกินี


การเตรียมตัวก่อนการทำเลเซอร์ขนจิมิ

เนื่องจากการทำเลเซอร์ขนจิมิ เป็นการกำจัดขนที่ต้องเหลือความยาวขนไว้เล็กน้อย เพื่อให้คลื่นแสงส่งผ่านความร้อนไปที่รากขนเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานิน สาวๆ จึงควรงดการแว็กซ์ขน การถอนขน หรือการโกนขน ก่อนการทำเลเซอร์ขนจิมิ 1 สัปดาห์ และงดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารเคมี หรือแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองทั้งก่อนทำและหลังทำด้วยน้า หากพบว่าก่อนทำมีอาการแพ้หรือมีผื่นแดง แนะนำให้ทำการเลื่อนนัดก่อนจนกว่าหาย

ขั้นตอนการเลเซอร์ขนจิมิ

1. เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการทำเลเซอร์ขนจิมิ ทางคลินิกจะทำการโกนขนโดยใช้มีดโกนชนิดพิเศษที่อ่อนโยนต่อผิว โกนขนออกทั้งหมดโดยจะเหลือรากเขาไว้ แล้วทำความสะอาด2. หลังจากนั้นจะใช้เครื่องยิงเลเซอร์ ยิงคลื่นแสงเขาไปที่ผิวโดยตรง ควบคู่ไปกับเครื่องเป่าลมเย็นเพื่อลดอาการเจ็บและร้อนจากการยิงเลเซอร์ ซึ่งในขณะทำจะมีอาการคล้ายถูกหนังยางดีดเบาๆ แต่ไม่อาการเจ็บแต่อย่างใด3. การทำเลเซอร์ขนจิมิ จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น4. เมื่อการทำเลเซอร์เสร็จสิ้น ทางคลินิกจะใช้ยาทาประเภทมอยส์เจอไรเซอร์ ทาบริเวณผิวที่ทำเลอร์เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน5. หลังทำเลเซอร์เสร็จควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์


ผลที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากการทำเลเซอร์ขนรักแร้

การทำเลเซอร์ขนรักแร้ เป็นการใช้พลังงานจากคลื่นแสงไปทำลายเม็ดสีเมลานิน จนเกิดความร้อนขึ้นบริเวณผิวหนังและมีอาการคันยิบๆ ผลจากความร้อนยังส่งผลให้ผิวหนังเป็นสีแดง เพื่อให้ผิวสีแดงจางลง จะมีการทาครีมมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว หลังจากนั้น 1-2 ชั่วโมงผิวสีแดงจะค่อยๆ จางลง ซึ่งเป็นอาการที่ไม่น่ากังวล โดยหลังจากการทำเลเซอร์


การดูแลหลังการทำเลเซอร์ขนจิมิ

1. ควรประคบด้วยน้ำแข็ง 10-15 นาทีหลังจากทำเลเซอร์เพื่อลดอาการแสบร้อน

2. งดการว่ายน้ำ สำหรับสระว่ายน้ำที่ผสมคลอรีน เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง

3. งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเสียดสีอย่างน้อย 7 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง

4. งดการสวมกางเกงหรือชุดชั้นในที่รัดจนเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีบริเวณที่ทำเลเซอร์

5. ในบางรายควรงดอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น 3-4 วัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการระคายเคือง

6. ควรงดกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อออกมากในช่วง 2-3 วันแรกหลังการทำเลเซอร์

7. ใช้โทนเนอร์และครีมที่ทางคลินิกให้มาอยู่แล้วทาบริเวณที่ทำเลเซอร์ เมื่อผ่านไปแล้ว 1 วัน


เคล็ดไม่ลับในการทำเลเซอร์ขนจิมิให้ถาวร

นอกจากการกำจัดขนเพื่อขจัดปัญหาที่มีต่อสุขอนามัย สุขภาพและจิตใจแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่สาวๆ อย่างเราต้องการคือ ผลลัพธ์ที่ขนถูกกำจัดไปอย่างถาวร แต่ด้วยพันธุกรรมและสภาพอายุเส้นขนของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน ทำให้ระยะเวลา (ความถี่) ในการเลเซอร์ย่อมไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงต้องมีการทำซ้ำอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนั่นเอง โดยระยะเวลา (ความถี่) ที่แนะนำจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างในแต่ละครั้ง 3-4 สัปดาห์ เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็จะได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการแล้ว



ข้อกังวลเกี่ยวกับอาการเจ็บในขณะเลเซอร์ขนจิมิ

สำหรับใครที่ตัดสินใจทำเลเซอร์ขนจิมิเป็นครั้งแรก มักจะเกิดความกังวลกับอาการเจ็บที่เกิดขึ้นในขณะทำ แต่เพื่อให้เปรียบเทียบระดับความเจ็บกับการกำจัดขนในรูปแบบอื่นที่หลายคนได้เคยทำมาแล้วจะเห็นว่า การแว็กซ์ขน การถอนขน หรือการโกนขน ให้ระดับความเจ็บที่มากกว่าการทำเลเซอร์ขนจิมิ ซึ่งในขณะที่ทำเลเซอร์นั้นจะให้ความรู้สึกเหมือนถูกยางดีดเบาๆ ประกอบกับเครื่องยิงเลเซอร์ในสมัยนี้จะมาพร้อมกับเครื่องเป่าลมเย็นที่ช่วยลดอาการต่างๆ ที่กังวลลงได้ แต่หากเพื่อนๆ ยังมีความกังวลอยู่ก็สามารถแจ้งคลินิกเพื่อขอทายาชาได้น้า โดยระยะเวลาที่ใช้ในการทำเลเซอร์จะอยู่ที่ 15-20 นาทีเท่านั้นค่ะ


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้