กันไว้ดีกว่าไม่ทัน ! 8 อาการ สัญญาณส่อ "หัวใจวายเฉียบพลัน" รู้เอาไว้ ป้องกันได้ทันที! 💛
โรคหัวใจ และอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน อันตรายกว่าที่คิด รู้สัญญาณก่อนดีที่สุด!
เผยแพร่: 25 พ.ค. 2561 12:23 น.
Views: 7,689
รหัสบทความ: 47148
"ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสิรฐ"
พุทธพจน์นี้เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า จริงตลอดกาลเลยทีเดียว
ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน แต่ถ้าป่วย ชีวิตก็คงไม่มีความสุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่มักจะมาเยือนแบบกระทันหัน ยิ่งเป็นทุกข์เข้าไปใหญ่
ฉะนั้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงคือสิ่งที่ดีที่สุด
โรคภัยไข้เจ็บในทุกวันนี้ก็มีหลากหลาย แต่ที่ได้ยินบ่อยๆ และค่อนข้างน่ากลัว ตรงที่เป็น
โรคที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่าไกลห่างจากตัวเอง แต่จากการใช้ชีวิตความเป็นอยู่แบบสมัยใหม่ทำให้โรคนี้ ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด
โดยที่แทบไม่รู้ตัวเลย และโรคนั้นก็คือ
โรคหัวใจนั้นเอง
"ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสิรฐ"
พุทธพจน์นี้เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า จริงตลอดกาลเลยทีเดียว
ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน แต่ถ้าป่วย ชีวิตก็คงไม่มีความสุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่มักจะมาเยือนแบบกระทันหัน ยิ่งเป็นทุกข์เข้าไปใหญ่
ฉะนั้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงคือสิ่งที่ดีที่สุด
โรคภัยไข้เจ็บในทุกวันนี้ก็มีหลากหลาย แต่ที่ได้ยินบ่อยๆ และค่อนข้างน่ากลัว ตรงที่เป็น
โรคที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่าไกลห่างจากตัวเอง แต่จากการใช้ชีวิตความเป็นอยู่แบบสมัยใหม่ทำให้โรคนี้ ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด
โดยที่แทบไม่รู้ตัวเลย และโรคนั้นก็คือ
โรคหัวใจนั้นเอง
ชื่อของโรคหัวใจที่ว่าน่ากลัวแล้ว ก็ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
เมื่ออาการหัวใจขาดเลือดมักมาอย่างกระทันหัน เพราะทุกคนไม่รู้ว่าอาการนั้นจะมาเยือนเมื่อไหร่ ทำให้ไม่ทันระวังตัว
จึงเป็นอันตรายต่อผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายเฉียบพลันมากๆ ซึ่งที่จริงแล้วอาการเหล่านี้มักจะส่งสัญญาณมาก่อน
ฉะนั้นอย่าชะล่าใจเราไปเรียนรู้8 อาการ สัญญาณส่อหัวใจวายเฉียบพลันกันเลยจ้า
8 อาการ สัญญาณส่อหัวใจวายเฉียบพลัน!
1. อาการปวดท้อง
ใครจะไปนึกว่าอาการของหัวใจ จะไปเกี่ยวอะไรกับอาการปวดท้องด้วย
แต่นี่แหละคือสัญญาณที่คนส่วนใหญ่มองข้าม ก็เนื่องจากว่าไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกันนี่แหละจ้า
แต่อาการปวดท้องนี้อาจเป็นอาการเตือนขั้นแรกเลยก็ว่าได้
ถ้าหมู่นี้คุณมักจะมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน หรือปวดท้อง ซึ่งอาจแสดงออกมาในรูปแบบ
คลื่นไส้, เจ็บท้อง หรือแม้แต่ท้องบวม
ก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการหัวใจขาดเลือดก็เป็นได้ เพราะ
อาการปวดท้อง ก่อนเกิดอาการหัวใจขาดเลือดนั้น จะเกิดอาการเป็นระยะๆ แบบว่าปวดแล้ว หายแล้ว ก็กลับมาปวดอีก
2. นอนไม่หลับ
ถ้าคุณพบว่าเดี๋ยวนี้มักมีอาการนอนไม่หลับ นอนหลับยาก ตื่นกลางดึกบ่อยๆ หรือแม้แต่ตื่นเช้าเกินไป
และไม่สามารถนอนหลับได้ นั่นก็หมายความว่าคุณอาจจะมีอาการนอนไม่หลับก็เป็นได้ และอาการนอนไม่หลับนี้
ส่วนใหญ่มักจะทำให้ยิ่งเสี่ยงต่ออาการโรคหัวใจขาดเลือด หรือแม้แต่หลอดเลือดในสมองเช่นกัน โดยเฉพาะในผู้หญิงยิ่งต้องระวัง
ส่วนอาการอื่นๆ ของโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง ก็อาจมาในรูปแบบอาการวิตกกังวล และใจลอย
ใครที่มีอาการนอนไม่หลับ
ต้องไปลองปรึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันโรคทางหัวใจ และแก้ไขปัญหาการนอนไม่หลับ เพื่อสุขภาพที่ดีนะจ๊ะ
3. เหนื่อยล้าอ่อนแรง
ปกติเราทุกคนเวลาทำกิจกรรมอะไรในแต่ละวัน ก็ต้องเกิดอาการเหนื่อยเปลี้ยเพลียแรงเพิ่มขึ้นมาอยู่แล้วจริงมะ
โดยเฉพาะใครที่ทำงานต้องใช้แรง หรือมีการออกกำลังกายในระหว่างวันก็ต้องเหนื่อยเพลียอยู่แล้วเป็นธรรมดา
แต่สำหรับใครที่รู้สึกเหนื่อยมากเกินปกติ แบบว่าขนาดนอนหลับเต็มอิ่มแล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อย อันนี้ต้องระมัดระวังแล้วนะ
อาการเหนื่อยที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ นั้นเป็นหนึ่งในอาการหลักๆ ที่เป็นสัญญาณก่อนจะเกิดอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ฉะนั้นถ้าคุณ
เหนื่อยหลังจากทำกิจกรรมเบาๆ อย่างการจัดเตียง หรืออาบน้ำอะไร แล้วอาการเหนื่อยเมื่อยยิ่งทวีขึ้นในช่วงเย็นๆ ให้ระมัดระวัง
และใส่ใจในอาการเหล่านี้ให้ดี
พยายามอย่าอยู่ตัวคนเดียวเด็ดขาดนะจ๊ะ เผื่อเป็นอะไรจะได้มีคนคอยช่วยเหลือได้
4. ผมร่วง
ผมร่วง ก็เป็นหนึ่งในสัญญาณ ของโรคทางหลอดเลือดหัวใจ
ที่เราทุกคนก็สามารถสังเกตได้ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่ใจ เนื่องจากปกติผมคนเราก็ร่วงทุกวันอยู่แล้ว
ส่วนใหญ่มักจะเกิดผู้ชายมากกว่า แต่ผู้หญิงก็ใช่ว่าจะไม่เสี่ยงเช่นกันนะ
ใครที่มีอาการผมร่วงบ่อยๆ และร่วงเยอะๆ
ลองไปปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดนะจ๊ะ
5. อาการใจสั่น
แน่ล่ะว่า อาการของโรคหัวใจ ก็ต้องเกิดกับที่หัวใจนี่แหละ ถ้าคุณมี
อาการใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ และหัวใจเต้นเร็วแบบสม่ำเสมอ ซึ่งบางทีอาจเกิดขึ้นมาได้ภายใน 1-2 นาที
ถ้าอาการเหล่านี้ไม่หายไป
คุณอาจจะมีอาการมึนศีรษะร่วมด้วย ในกรณีแบบนี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ก่อนที่อาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจะมาเยือน
ในเคสของคนที่เป็น
โรควิตกกังวล บางครั้งอาจรู้สึกเหมือนมีอาการใจสั่น ใจเต้นเร็วเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่หัวใจไม่ได้เต้นผิดปกติจริง
ก็ต้องลองวัดอัตราการเต้นหัวใจเพื่อเช็คดูว่าอันตรายมั้ย
แต่ยังไงก็ควรไปพบหมอเพื่อรักษาอาการวิตกกังวลเช่นกันนะ
6. หายใจลำบาก
อาการหายใจลำบากนั้น เป็นอาการที่
ผู้ป่วยจะไม่สามารถหายใจได้เป็นปกติ มีอาการหายใจลำบาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมาพร้อมกับอาการอ่อนเพลีย และมึนศีรษะ
โดยอาการนี้ส่วนใหญ่แล้ว
จะแสดงออกมาก่อนเกิดอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันประมาณ 6 เดือน
และสามารถเป็นได้ทั้งผู้หญิง และชาย
7. เหงื่อออกมาก
มีอาการหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน นั่นก็คือ
อาการร้อนวูบวาบตามร่างกาย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเหงื่อออกมากได้
แต่ที่น่ากลัวคือสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นสิ่งเตือนภัยในเรื่องที่อันตรายกว่าที่คิด
ควรระวังเมื่อเกิดอาการคล้ายๆ ไข้ มีอาการหนาวสั่น ตัวเหนียว เหงื่อออกมาก ซึ่งไม่ได้เกิดจากความร้อน หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากๆ
เพราะสิ่งเหล่านี้
อาจเป็นสัญญาณที่เกิดจากอาการอันตรายกับหัวใจเราได้
8. เจ็บหน้าอก
อาการหลักๆ ของภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ที่เรารู้จักกันดี นั่นก็คือ
มีอาการไม่สบายแขน, มือ, ขากรรไกร,คอ, ไหล่ และหน้าอก
สำหรับในผู้ชาย นี่คือสัญญาณของภาวะหัวใจขาดเลือดอย่างแน่นอน
ถ้าหากเกิดอาการตามที่บอกมานี้ อย่าได้ชะล่าใจเลย
แต่สำหรับในผู้หญิง มีเพียง 30% เท่านั้น ทีเกิดเคสแบบนี้ถึงอย่างไรก็ไม่ควรชะล่าใจเชียวนะ
ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันนั้นน่ากลัวมากๆ เพราะถ้าไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที ก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
ฉะนั้นใครที่มีอาการตามที่บอกมาในนี้ แม้ไม่ครบทุกข้อ ก็ไม่ควรชะล่าใจไปนะ
และที่สำคัญ
ควรดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยนะจ๊ะ