สาวปู ไปรยา หรือ ไปรยา ลุนด์เบิร์ก เรียกว่าเป็นที่รู้จักสำหรับพวกเราทุกคนในฐานะนักแสดงมากความสามารถคนหนึ่งมาตลอดอยู่แล้วล่ะ ก็ทั้งสวย ทั้งแสดงเก่ง แถมข่าวคราวของเธอก็มีออกสื่ออย่างต่อเนื่องมาตลอด

แต่ แต่ แต่!! ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ สาวปูได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR คนแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว! งานนี้เรียกว่าสาวปูปลาบปลื้มและเป็นเกียรติในการได้รับแต่งตั้งในครั้งนี้เป็นอย่างมากเลยล่ะ

แอบไปส่องประวัติ ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก มา ปรากฏว่าสาวคนนี้ไม่ธรรมดาเลยล่ะ เพราะนอกจากจะเป็นนักแสดง นางแบบ ที่ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงแล้ว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด บรู๊คส์ (Oxford Brookes University) ประเทศอังกฤษ เลยนะ

งานนี้เราขอตามแฮชแท็ค

#ไปรยาอ่าน

จาก

นิตยสาร Way Magazine

มาฝากทุกคนค่ะ มาดูกันว่าสาวเก่งและจิตใจดีอย่างสาวปู ไปรยา เค้าอ่านหนังสือแบบไหนกันนะถึงได้ทั้งสวยทั้งเก่งทั้งฉลาดแบบนี้ หนังสือแบบไหนที่เป็นแรงบันดาลใจให้สาวคนนี้ลุกขึ้นมาทำเพื่อผู้คน ไปดูกันเลย

1. The Alchemist by Paulo Coelho

รูปภาพ:http://www.movemequotes.com/wp-content/uploads/2013/08/Top-10-Quotes-from-The-Alchemist-by-Paulo-Coelho-580x388.jpg

The Alchemistเป็นหนังสือนวนิยายที่แต่งขึ้นโดย Paulo Coelho พิมพ์ครั้งแตกตั้งแต่ปี 1988 แล้วล่ะ ต้นฉบับจริงๆ แล้วเขียนเป็นภาษาโปรตุเกส แต่ปัจจุบันถูกแปลไปแล้วกว่า 69 ภาษาเลยทีเดียว! หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กเลี้ยงแกะชาวแอนดาลูเชียนชื่อ  Santiago ที่ออกเดินทางไปยังดินแดนอียิปต์ เนื่องจากเชื่อในความฝันของตัวเองที่ฝันซ้ำไปซ้ำมา เขาตัดสินใจไปหาแม่หมอ Romani ในเมืองใกล้ๆ เพื่อตามหาความหมายของความฝันนั้น ซึ่งเธอก็ทำนายว่าความฝันนั้นเป็นฝันบอกอนาคตว่าจะมีขุมทรัพย์รอคอยเค้าอยู่ที่ปีระมิดในอิยิปต์นั่นเอง

ใครที่ชอบนิยายแนวแฟนตาซีผจญภัยก็ลองตามไปอ่านกันดูนะ

2. Norwegian Wood by Haruki Murakami

รูปภาพ:https://2.bp.blogspot.com/-lsEQYVy5xLo/VtzgzxOVXRI/AAAAAAAACq0/E3B5xbhCaAs/s1600/norwegian%2Bwood%2Bbook%2Bcover.JPG

Norwegian Wood

เป็นนวนิยายปี 1987 โดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น

ฮารูกิ มุราคามิ

นิยายที่เป็นเรื่องราวของความสูญเสียและเรื่องทางเพศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การเล่าเรื่องถูกถ่ายทอดจากมุมมองของตัวละครหลักนั่นคือ Toru Watanabe ซึ่งมองย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีตของเค้าสมัยที่ยังเรียนอยู่ในมหาลัยในโตเกียว ในสายตาของ Toru เอง เค้าเฝ้ามองการพัฒนาความสัมพันธ์ของเค้ากับผู้หญิงอีกสองคน โดยคนหนึ่งชื่อ Naoko เป็นผู้หญิงที่สวยแต่มีปัญหาด้านอารมณ์กับอีกคนหนึ่ง Midori หญิงสาวซึ่งเป็นคนมีชีวิตชีวาและเป็นมิตร

ฟังดูเครียดๆ หน่อย แต่ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย ใครเป็นแฟนคลับป๋ามุราคามิหรือชอบเรื่องราวชีวิตๆ เครียดๆ หน่อยก็ลองไปหาอ่านดูน้า

3. Tuesdays with Morrie: An Old Man, a Young Man, and Life's Greatest Lesson by Mitch Albom

รูปภาพ:https://nearst-uploads.s3-eu-west-1.amazonaws.com/99f2c93f1366917be50482f07b0d2a6dfc0b1a3967/o.jpg

Tuesdays with Morrie เป็นบันทึกชีวิตประจำวันของนักเขียนชาวอเมริกัน Mith Albom หนังสือเล่มนี้ติดท็อปหนังสือขายดีในปี 2000 ของ New York Times Non-Fiction เลยทีเดียว ภายในหนังสือเป็นเรื่องราวที่ Albom ได้รวบรวมประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเค้าไว้ ทั้งช่วงจบการศึกษา และการกลับไปเจออาจารย์ที่มหาลัยหลังจากเรียนจบมาแล้ว ซึ่งคำว่า Morrie มาจากความหมายจากภาษาฮิบริว ซึ่งหมายความว่า " ครูของฉัน " นั่นเอง

เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะมีข้อคิดดีๆ จากบทสนทนากับคนเก่งๆ มาให้เราได้เรียนรู้แน่นอน จริงๆ แล้วก็เป็นข้อคิดเล็กๆ ให้เราได้เหมือนกันนะ ถ้าอยากเก่ง อยากเปิดมุมมอง ก็ต้องรู้จักเข้าหาและพูดคุยกับคนเก่งๆ เยอะๆ นะสาวๆ

4. คู่มือมนุษย์ โดย ท่านพุทธทาส ภิกขุ

รูปภาพ:http://g.lnwfile.com/3azhp0.jpg

หนังสือเล่มนี้ต้องขอนับถือสาวปูเลยจริงๆ ที่มีหนังสือเล่มนี้อยู่ในลิสต์การอ่านของเธอ คนที่อ่านหนังสือธรรมะได้ไม่เพียงแต่ต้องมีพื้นฐานของความเข้าใจในพุทธศาสนาเป็นทุนเดิมเท่านั้น แต่ต้องเป็นคนที่มีสมาธิสูงในการที่จะมีสติเพื่อทำความเข้าใจด้วย "คู่มือมนุษย์" เล่มนี้เป็นคำสอนที่ท่านพุทธทาสเรียบเรียงจากคำสอนของพระพุทธเจ้าในเชิงพินิจวิเคราะห์ เน้นเรื่องเหตุและผล จริงๆ แล้วถือว่าเป็นหนังสือที่อ่านยากเลยทีเดียวหากไม่มีพื้นธรรมมาบ้าง

เชื่อว่าหากสาวๆ คนไหนมีความมานะพยายาม หนังสือเล่มนี้ไม่ยากเกินความสามารถของเราแน่ ไม่จำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาอ่านก็ได้ค่ะ วันละหน้าสองหน้าก็ไม่ว่ากัน แถมคำสอนของท่านพุทธทาสก็ทำให้เรานำมาปรับใช้ในชีวิตได้ด้วย

5. Path of Compassion: Stories from the Buddha's Life by Thich Nhat Hanh

รูปภาพ:https://thecompassionategardener.files.wordpress.com/2015/12/2.jpg?w=660

ยังคงอยู่ในโซนหนังสือธรรมะกันแต่เราย้ายจากท่านพุทธทาสเป็นท่านติช นัท ฮันห์ โดยหนังสือเรื่อง

Path of Compassion

เป็นหนึ่งในเรื่องราวสุดคลาสสิคในหนังสือ

Old Path White Clouds

ซึ่งหนังสือเล่มนี้กำลังจะฉลองการตีพิมพ์ครั้งที่ 20 เข้าไปแล้ว เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้คือพุทธประวัติอันน่าอัศจรรย์ของเจ้าชายสิทธัตถะผู้ละจากครอบครัวและตามหาจิตวิญญาณของพุทธศาสนาเป็นเวลาหลายปีก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า หนังสือบรรยายด้วยสำนวนน่าอ่านน่าติดตาม เน้นหลักการคำสอนที่เป็นเหตุเป็นผลและสามารถเข้าถึงง่าย

ใครที่เคยอ่านพุทธประวัติมาก่อนต้องบอกเลยว่าถ้าได้อ่านเล่มนี้แล้วน่าจะได้มุมมองเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่น่าสนใจอีกแง่มุมหนึ่งก็เป็นได้

6. When Breath Becomes Air by Paul Kalanithi

รูปภาพ:http://www.reviewfromsaturday.com/wp-content/uploads/2016/01/when-breath-becomes.jpg

วรรณกรรมที่เขียนขึ้นจากเรื่องจริงเกี่ยวกับประวัติชีวิตของ Paul Kalanithi ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จากชีวิตจริง โดยเรื่องราวของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับอาการป่วยของเขาเองนั่นก็คือการต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดระยะที่สี่ในวัย 36 หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2016 และความปังคือหนังสือของเขาติดอันดับหนังสือขายดี Best Seller ของ New York Times ถึง 47 สัปดาห์ เลยทีเดียว!!

หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิตของตัวเองแน่นอน คนเราจะใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อความตายมาอยู่เบื้องหน้าเรา? อนาคตจะเป็นยังไง? เป้าหมายชีวิตที่เราตั้งไว้ล่ะจะทำสำเร็จมั้ย? แล้วมันจะมีความหมายอะไรเมื่อหนึ่งชีวิตที่กำลังจะจากโลกไปกำลังจะให้กำเนิดอีกหนึ่งชีวิตใหม่ขึ้นมา? นี่คือคำถามที่ Kalanithi จะมาตอบในหนังสือเล่มนี้ผ่านเรื่องราวของเขาเอง ใครที่ต้องการกำลังใจในชีวิต เล่มนี้ขอแนะนำเลยค่ะ!

7. The Time Keeper by Mitch Albom

รูปภาพ:http://www.mitchalbom.com/wp-content/uploads/2015/07/The-Time-Keeper-87.jpg

มาเป็นสายผ่อนคลายลงมาแต่ก็ยังมีความสาระกันอยู่กับหนังสือเล่มนี้เลย The Time Keeper โดย Mitch Albom ซึ่งเล่มนี้เป็นนิทานค่ะ เกี่ยวกับชายที่ทำนาฬิกาเรือนแรกของโลกซึ่งถูกทำโทษเพราะถือว่าเขาพยายามที่จะท้าทายอำนาจของพระเจ้า ( คุณพระ.. ) เขาถูกขับไล่ให้ไปอยู่ในถ้ำนับร้อยๆ ปี! แถมยังถูกบังคับให้ต้องฟังคำบ่นของผู้คนเรื่องเวลาคนแล้วคนเล่าด้วย

ท้ายที่สุด Father Time ให้อิสระแก่เขาแต่พร้อมภารกิจหนึ่งอย่าง คือการออกเดินทางไปพร้อมกับวัยรุ่นสาวคนหนึ่งซึ่งหมดอาลัยตายอยากในการมีชีวิตอยู่ต่อไป กับนักธุรกิจชราอีกคนที่ต้องการมีชีวิตอยู่ตลอดกาล และเพื่ออิสรภาพ ช่างทำนาฬิกาคนนี้จะต้องช่วยชีวิตของเพื่อนร่วมเดินทางของเขาให้ได้

การผจญภัยครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป นิทานที่ดูไม่ใช่นิทานเรื่องนี้จะสอนอะไรเราบ้าง ฝากเพื่อนๆ ไปลองอ่านกันด้วยนะคะ

**********************************************************************************

ผ่านไปแล้วกับทั้ง 7 เล่มที่สาว

ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก

สาวสวยแห่งวงการบันเทิงไทยที่ตอนนี้ผันตัวเข้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกับ

UNHCR

ใช้เวลาอ่านเพื่อพัฒนาตัวเอง หลายๆ เล่มน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว เรียกว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสาวๆ ยุคใหม่อย่างพวกเราในการที่ทั้งสวยและเก่งในคนๆ เดียว

จริงๆ แล้วทุกคนไม่จำเป็นต้องอ่านตามสาวปูทุกเล่มก็ได้นะคะ จะหนังสืออะไร ถ้าเราสนุกกับการอ่านและสามารถพัฒนาความคิดและตัวตนของเราได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเราแล้วล่ะ

จำไว้นะทุกคน.. เป็นสาว

SistaCafe

ต้องสวยด้วยและฉลาดด้วยนะคะ เฮ่!!!