ฮัลโล่ว์! สาวๆSistaCafeทุกคน //ปาหัวใจใส่รัวๆ
เป็นผู้หญิงทั้งที นอกจากจะรักสวยรักงาม มีเครื่องสำอางและสกินแคร์เพียบพร้อม ( จนเรียกได้ว่าล้นตู้ออกมาแล้ว ) คลีนซิ่งก็สำคัญ! //แต่งแล้วก็ต้องลบออกสิจริงไหม ไม่ว่าจะเป็นเมคอัพรีมูฟเวอร์, Cleansing Wipes ( ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า )หรือแม้แต่ผิวกายที่ต้องออกไปเจอมลภาวะ ฝุ่นและแสงแดดมาทั้งวัน ก็ต้องเลือกสบู่หรือครีมอาบน้ำให้เหมาะสมนะเออ เพื่อผิวนุ่ม หอมน่าสัมผัสไปตลอดทั้งวัน
แต่เดี๋ยว...ขอสะดุดตรงนี้หน่อย...
สาวๆ เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายจึงมีสองประเภท
' สบู่ก้อน ' และ ' เจลอาบน้ำ / ครีมอาบน้ำ '
อันที่จริงแล้ว สองอย่างนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ละอย่างก็เหมาะกับสภาพผิวที่ไม่เหมือนกันด้วยค่ะหืม...น่าสนใจ แบบนี้ต้องลองมาชำแหละกันทีละส่วนซะแล้ว ว่าสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร และเราควรใช้ประเภทไหนกันแน่
ถ้าอย่างนั้นแล้วอย่ารอช้า...เรามาอ่านบทความจากผู้เชี่ยวชาญกันเลยดีกว่าค่ะ!
ความแตกต่างของสารเคมีระหว่าง 'สบู่' กับ 'เจลอาบน้ำ'
' สบู่ก้อน ( Bar Soap )' ทำมาจากไขมันชนิดเหลวเช่น น้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์ และอัลคาไลน์ ( alkali ) เช่นโซเดียมไฮดรอกไซด์ ผสมเข้าด้วยกัน กระบวนการนี้เรียกว่า " Saponification " ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนไขมัน / น้ำมันให้กลายเป็นสบู่ด้วยปฏิกิริยาของอัลคาไลน์นั่นเองค่ะ
' สบู่เหลว ' หรือเจล ครีมอาบน้ำก็ทำมาจากกระบวนการเดียวกัน แต่เปลี่ยนส่วนผสมจากโซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็นโพแตสเซียมไฮดรอกไซด์แทนค่ะ
ในส่วนของเจลอาบน้ำ โซเดียมไฮดรอกไซด์และน้ำเปล่าจะระเหยเป็ยไอ จนเหลือไว้แค่ส่วนของสบู่เหลวเพียวๆ เท่านั้น ถ้าเธอเจอผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเขียนว่า " Saponified Coconut Oil " นั่นหมายถึงน้ำมันมะพร้าวที่นำเข้ากระบวนการจนกลายเป็นสบู่นั่นเองเมื่อส่วนผสมบางอย่างเปลี่ยน เจลอาบน้ำจึงอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า เพราะถ้าสบู่มีเนื้อหยาบ ก็ยิ่งทำให้เราผิวแห้งกร้านได้ค่ะ
นอกจากนี้ แต่ละแบรนด์จะมีกระบวนการทำที่แตกต่างกันออกไปเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ เช่น " Superfatting " คือกระบวนการที่ใส่ไขมันชนิดเหลวลงไปในสบู่หลังการทำ Saponification เป็นที่นิยมมากของแบรนด์ที่ราคาค่อนข้างสูง เพราะให้ผลลัพธ์ดีมาก ผิวจะนุ่มเนียนและชุ่มชื้นเหมือนสบู่ผสมโลชั่นเลยล่ะค่ะ
หากเป็นสบู่ก้อนแบบใส ( Clear Soap ) จะใส่กลีเซอรืนและซอร์บิทอล ( แอลกอฮอล์ที่มีน้ำตาล มีสรรพคุณทำให้ผิวนุ่มนวล ) ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ติดฉลากไว้ว่า " แอนตี้แบคทีเรีย " จะใช้ไตรโคลซาน ( Triclosan ) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและป้องกันไม่ให้เชื้อราเติบโตได้ค่ะ
เจลอาบน้ำ ( Shower Gel ) ส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมพื้นฐานเหมือนๆ กัน นั่นคือน้ำเปล่า, ส่วนผสมที่ทำให้เกิดโฟม ( มักจะเป็นโซเดียม ลอเรท ซัลเฟต หรือ SLS ) และเบทาอีน ซึ่งช่วยให้ส่วนผสมทั้งหมดเกาะแน่นอยู่ด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ SLS เป็นส่วนผสมที่ถกเถียงกันอยู่ว่าควรเปลี่ยนดีไหม เพราะเริ่มมีแบรนด์สบู่จากธรรมชาติ เปลี่ยน SLS เป็นสารอื่นที่มีฟองน้อยกว่านี้ ถนอมผิวมากกว่านี้ค่ะ
ในสหรัฐอเมริกา SLS ได้รับการรับรองจากองค์การความปลอดภัยและสุขภาพ ( OSHA ) ว่าไม่ใช่สารก่อมะเร็ง มันแค่ทำให้ระคายเคืองผิวถ้าล้างออกไม่ถูกวิธีเท่านั้น
สาวๆ บางคนมีผิวแพ้ง่ายกว่าคนอื่น ( เรียกว่ามีผิวแบบ sensitive นั่นเอง ) ถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่ผิวแพ้ง่าย เราแนะนำให้เธอใช้เจลอาบน้ำแบบไม่มี SLS จะดีกว่า
สรุป : เราควรใช้ 'สบู่' หรือ 'เจลอาบน้ำ' ดีล่ะ!?
เอาล่ะ....คราวนี้ก็มาถึงบทสรุปที่ว่า แล้วเราควรใช้สบู่ก้อนหรือเจลอาบน้ำมากกว่ากันล่ะ? อันที่จริงแต่ละชนิดก็เหมาะกับผู้ใช้ที่แตกต่างกันไปค่ะ ดังนี้
สบู่ก้อนเหมาะมากกับการชำระล้างสิ่งสกปรก คราบต่างๆ เซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว อีกทั้งยังใช้ง่าย แค่หยดน้ำแล้วฟอกให้ทั่วตัว จะใช้เดี่ยวๆ หรือใช้กับผ้าขนหนูก็ได้ ถ้าเธอเป็นนักกีฬาหรือมีกิจกรรมที่เหงื่อออกเยอะเป็นประจำ ใช้สบู่ก้อนจะดีที่สุด
แต่! ถ้าเธอมีผิวที่แพ้ง่ายและอยากใช้สบู่ ให้เลือกใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เลคติซินและกรดอะมิโน ที่สำคัญคือมีส่วนผสมของไขมันเยอะหน่อย เพื่อให้เวลาฟอกแล้วล้างออกแล้วผิวยังชุ่มชื้นอยู่นะคะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าผิวของเธอแพ้ง่ายและละเอียดอ่อน ไวต่อสารเคมี แห้งง่ายหรือเป็นแผลได้ง่าย เธอควรใช้เจลอาบน้ำเท่านั้น เพราะเจลอาบน้ำมีส่วนผสมหลักๆ มาจากน้ำ จึงทำให้ผิวชุ่มชื้น บำรุงและปลอบโยนผิว ( เราแนะนำให้เลือกใช้ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ออร์แกนิค หรือมีส่วนผสมของเชียร์บัตเตอร์ ล้างออกแล้วจะยังรู้สึกว่าผิวนุ่มลื่นค่ะ )
สำหรับผิวที่คัน ระคายเคืองง่ายจนเป็นแผลไปเรียบร้อยแล้ว อย่าใช้คลีนซิ่งไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม ใช้น้ำเปล่าล้างไปก่อนจนกว่าจะหายเพื่อไม่ให้ระคายเคืองรุนแรงขึ้นค่ะ
สาวๆ บางคนไม่อยากใช้คลีนซิ่งอย่างเดียวเพราะ " น่าเบื่อ " ก็อยากใช้สบู่บ้าง เจลอาบน้ำบ้างได้ไหม?? อันที่จริงก็สามารถปรับใช้ได้ตามสภาพผิวค่ะ เพราะผิวของทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอุณหภูมิ ฤดูและสภาพอากาศ ฤดูหนาวอากาศจะแห้ง ผิวทุกคนจะแห้งลงอยู่แล้ว ในทางกลับกัน ฤดูร้อนผิวจะมัน เพราะมีการผลิตน้ำมันออกมานั่นเอง
ดังนั้น เราแนะนำให้ใช้เจลหรือครีมอาบน้ำช่วงฤดูหนาว และใช้สบู่ก้อนช่วงฤดูร้อน จะเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คต์สุดๆ!
============================
เย้! จบลงไปแล้วกับคำถามที่ใครๆ หลายคนอยากรู้ว่า เราควรใช้สบู่ก้อนหรือเจลอาบน้ำในการทำความสะอาดผิวกายดีนะ? ในบทความนี้จะพูดถึงความแตกต่างของส่วนประกอบ ความเหมาะสมในการใช้ของสภาพผิวแต่ละคน คราวนี้เมื่ออ่านจบก็ได้เวลานำไปปรับใช้แล้วล่ะ หลักๆ ก็คือ ถ้าผิวแพ้ง่ายก็ใช้แบบเจลดีกว่า แต่ถ้าผิวมัน เจลอาจจะเอาไม่อยู่ ใช้สบู่ก้อนที่มีฤทธิ์เป็นด่าง จะทำความสะอาดได้ดีกว่าค่ะ
ขอให้สาวๆ สนุกกับการอาบน้ำ ตัวหอมๆ นะคะ รู้ไหมว่ากลิ่นกายหอมๆ มีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง ( แน่นอนว่ารวมถึงเพศตรงข้าม ) ด้วยนะ ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำบ้างดีกว่า แล้วเจอกันใหม่ บ๊ายบายค่า!
============================
Cr. Soap or Shower Gel: What’s The Difference?
https://www.beautylish.com/a/vxari/soap-versus-shower-gel
บทความที่เกี่ยวข้อง
รีวิว สบู่ล้างหน้า ลดสิว สยบหน้ามัน 5 แบรนด์ 5 ราคา ใครคือคนที่ใช่ !
https://sistacafe.com/summaries/14755
สุดยอด 5 สบู่เหลว ครีมอาบน้ำ กลิ่นหอมติดตัวทนทานยันโลกหน้า!!
https://sistacafe.com/summaries/4865
เปลี่ยนผิวเสียเป็นผิวสวย! รีวิวเจลอาบน้ำ 5 แบรนด์โปรด 'Favorite Shower Gel'
https://sistacafe.com/summaries/16141