เรื่องของเมคอัพเป็นสิ่งที่อยู่คู่สาว ๆ มาทุกยุคทุกสมัย บางคนก็ชอบแต่งหน้าใส ๆ แบบ Makeup No Makeup บางคนชอบมาแบบละมุน ๆ ซอฟต์ ๆ เป็นสายหวาน และบางคนก็เป็นสายเปรี้ยว สายเฟียซ มีความเป็นฝ.นิด ๆ ตรงนี้มันก็ต้องบอกว่าแต่ละคนก็มีสไตล์ความชอบแตกต่างกันออกไป...
สาว ๆ คนไหนที่มีใบหน้า และเครื่องหน้าได้รูปสวยกำลังดี ทั้งผิวเนียน เบ้าตาชัด จมูกโด่ง หรือเรียวปากเป็นกระชับ นั่นถือเป็นโชคดีของคนคนนั้น
ค่ะ แล้วถ้าแบบสาวหน้าหมวยที่ตาตี่ ตาสองชั้นหลบใน ใบหน้าไม่ได้เพอร์เฟกต์ล่ะ จะต้องทำยังไงบ้าง? วันนี้มิ้วเลยจะขอมาเสนอ
ทริคของการแต่งหน้าสำหรับสาวหน้าหมวย ให้แต่งออกมาสวยได้ในทุก ๆ วัน
กันค่ะ ต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ตามมาชมกันเลย!

1. งานผิวเบา ๆ ไม่หนาหนักมาก

ปกติในชีวิตประจำวันเราก็
ไม่ควรจะลงงานผิวให้หนัก
กันอยู่แล้ว ถามว่า
ผิดมั้ยถ้าต้องลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ และทาแป้งเนียนกริบจนไม่เห็นรูขุมขนสักรู?
จริง ๆ ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ อยากจะทำก็ทำได้ แต่มันอาจจะดูเกินความจำเป็น ไม่เหมาะกับ Everyday Look เท่าใดนัก
ถ้าไม่ได้มีปัญหาผิวอะไรเยอะ อาจจะ
ใช้แค่ไพรเมอร์เพื่อปกปิดรูขุมขน ริ้วรอยต่าง ๆ ตามด้วยบีบีครีม หรือซีซีครีม แล้วเซตผิวด้วยแป้งฝุ่น
หรืออาจจะ
ใช้คุชชั่น แล้วตามด้วยแป้งฝุ่น
ก็ได้
และที่ง่ายที่สุด เดี๋ยวนี้เขามีการทำ Press Powder หรือแป้งอัดแข็งผสมรองพื้นออกมามากมาย โดยเน้นคุณสมบัติที่ให้การปกปิด คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ถ้าผิวไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ใช้แค่สิ่งนี้สิ่งเดียวก็ได้ค่ะ
2. คิ้วได้รูปกำลังดี ไม่เข้ม ไม่อ่อนเกินไป

" คิ้วคือมงกุฎของใบหน้า "
กลายเป็นวลีติดปากไปแล้วสำหรับสาว ๆ สมัยนี้ ซึ่งมันคือเรื่องจริงค่ะ ลองเทียบตอนที่ยังไม่กันคิ้ว กับตอนกันคิ้วได้รูป หรือตอนที่คิ้วยังโล้น ๆ กับตอนเขียนคิ้วเป๊ะแล้วก็ได้ มันมีความแตกต่างกันอยู่นา
สำหรับหัวข้อนี้ที่เราเน้นลุคธรรมชาติมาก ๆ ความยากมันจึงอยู่ตรงที่จะเขียนคิ้วยังไงให้สวยแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ตั้งใจเขียนให้เป๊ะมาก
ถ้าเป็นคนที่มีคิ้วเยอะอยู่แล้ว อาจจะแค่ใช้ที่เขียนคิ้วเนื้อฝุ่นในการเติมบางส่วนที่ขาด ๆ ไปก็พอ หรือบางคนที่คิ้วเยอะมากจริง ๆ แค่ใช้มาสคาร่าปัดคิ้วเพียงอย่างเดียวก็ดูปังแล้ว!
แต่สำหรับคนที่มีคิ้วสั้นหรือค่อนข้างน้อย อาจจะใช้ดินสอเขียนในการเติมหาง หรือวาดโครงคิ้วให้ได้รูปสวยตามที่ต้องการก่อน จากนั้นจึงใช้เนื้อฝุ่นแต่น้อยในการเบลนด์ให้คิ้วดูซอฟต์ลงค่ะ


***พยายามอย่าให้คิ้วเข้มกว่าสีผม เพราะจะทำให้หน้าดูดุและดูสูงวัยเกินอายุจริง
***เว้นเสียแต่ว่าผมของเราจะเป็นสีบลอนด์หรือสีอ่อนมาก ๆ แบบนั้นถึงจะใช้สีเข้มในการเขียนคิ้ว :)
3. ว่าด้วยเรื่องของการแต่งตา

การแต่ง
หน้าในวันธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสพิเศษหรือออกงานสำคัญอะไร โทนสีของการแต่งหน้าควรจะเป็นสีธรรมชาติที่เข้ากับสีผิวของเราที่สุดค่ะ อย่างเรื่องของการแต่งตา ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะ
" ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ "
หากแต่งออกมาดีก็จะดูสวย แต่หากแต่งไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นดูตาช้ำหรือดูไม่มีทักษะได้!
สีอายแชโดว์ควรเป็นสีธรรมชาติ
ถ้าพูดถึงการแต่งหน้าที่เป็นธรรมชาติ โทนสีที่เราควรจะใช้กันคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสีน้ำตาล สีเบจ หรือถ้าอยากให้ดูหวานขึ้นหน่อยก็อาจจะเป็นสีชมพู สีพีช และสีส้มอ่อน ๆ ค่ะ แต่ต้องอย่าลืมว่าทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอดีค่ะ ใช้แต่ละสีแบบค่อย ๆ ใช้ อย่าจัดหนัก เพราะมันจะดูไม่เป็นธรรมชาติเอาได้!
คนที่มีเบ้าตาชั้น ชั้นตาชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องคัดเบ้าคงไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับสาวหน้าหมวยที่มีตาชั้นเดียวหรือตาสองชั้นหลบใน การไล่สีตาเข้มไปอ่อนจนฟุ้ง ๆ แล้วดูจาง กลมกลืนไปกับผิว น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าค่ะ อีกอย่างคือมันช่วยให้ตาดูหวานขึ้นอีกด้วยนะ :)


ที่จริงแล้วการกรีดอายไลเนอร์ก็มีอยู่หลายแบบ แต่ถ้าในวันธรรมดา แนะนำให้กรีดแบบบาง ๆ ไม่หนาเกินไป หรือถ้าอยากให้เห็นเส้นไลเนอร์ชัด ๆ อาจจะเน้นการวิงก์หางออกมาให้ได้ลุคที่ดูเฉี่ยวขึ้นก็ได้ค่ะ แต่สาว ๆ บางคนที่มีตาสองชั้นหลบในหรือตาชั้นเดียว กรีดเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น แนะนำว่าคุณควรจะมีดินสอเขียนขอบตาเอาไว้ เพื่อเอาไว้เขียนอินเนอร์ด้านบนในตาเพื่อขับให้ดวงตาดูคมชัดมากขึ้นค่ะ

ห้ามลืมปัดมาสคาร่าเด็ดขาด!!!ต่อให้อยากทำลุคที่เบา เป็นธรรมชาติขนาดไหน แต่ถ้าเมื่อได้แต่งตาแล้ว สิ่งที่ห้ามข้ามไปเด็ดขาดเลยก็คือ " การปัดมาสคาร่า " ค่ะ เพราะมันจะช่วยให้การแต่งตาของเรา Complete มากขึ้น ที่สำคัญคือ ยังช่วยให้ดวงของเราดูหวานขึ้น ไม่โล่งเกินไป และถ้าไม่อยากกรีดไลเนอร์ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยควรจะมีขนตางอน ๆ ใช้ชม้ายชายบ้างก็ยังดีนะ :)
4. คอนทัวร์แต่พองาม อย่าจัดหนักเกิน!

สาว ๆ บางคนขาดสิ่งที่เรียกว่าเฉดดิ้งและไฮไลท์ไม่ได้ เพราะกลัวว่าหน้าจะดูใหญ่ ดูบาน ในสายตาของคนรอบข้้าง แต่
สำหรับวันธรรมดา ๆ เฉดดิ้งหรือไฮไลท์เนื้อครีมเป็นสิ่งที่อาจจะหนักเกินไป เราไม่จำเป็นต้องให้มันอยู่ทนอยู่นานตลอดวันขนาดนั้น
จัดแค่เบา ๆ ก็พอโดยใช้เพียงเนื้อฝุ่นที่มีความบางเบากว่า จะช่วยให้ทุกอย่างดูสมูทขึ้นค่ะ
แต่อย่างไงก็ตาม อย่าลืมนะว่าถึงจะใช้เนื้อฝุ่นแล้วก็ไม่ควรจะทำการฟาดเนื้อผลิตภัณฑ์ลงไปเต็ม ๆ มันจะทำให้ดูโอเวอร์และหนักเกินไป ค่อย ๆ ลงทีละนิด ไม่พอก็ค่อยเติม ที่สำคัญต้อง
ห้ามลืมเบลนด์ เน้นตรงนี้แรง ๆ อีกครั้งค่ะว่าอย่าให้มันเห็นเป็นเส้นเป็นขอบ
โดยเด็ดขาด
5. สีตา แก้ม ปาก ควรไปด้วยกัน

การทาปากถือเป็นการคอมพลีทลุคของการแต่งหน้า แม้ว่าลิปสติกจะมีสีสันที่ทำออกมาให้ดูเป็นธรรมชาติ ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน แต่...ต้องอย่าลืมว่ามันไม่ได้มีแค่สีเดียว บางสีอาจมาในโทนนู้ด สีเบจ สีน้ำตาล ออกตุ่น ๆ สีพีช อมส้ม อมแดง อมชมพู เรียกว่ามีกี่สีก็ไม่รู้ล่ะ แต่สาระสำคัญก็คือจะเลือกสีไหนให้เข้ากับเมคอัพของเรามากที่สุด
อย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยก็คือ
สีของอายแชโดว์ที่เราใช้แต่งตา ซึ่งมันควรจะสัมพันธ์กันกับสีของบลัชออนที่เราใช้ปัดแก้ม และลิปสติกซึ่งเราจะทาลงบนริมฝีปาก จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราต้องเลือกให้เข้ากับตาและแก้ม

อย่างเช่นเราแต่งตาโทนสีส้ม สีแก้มที่เราจะปัดก็ควรเป็นสีส้ม สีพีช หรือสีออกน้ำตาล คือสีส่วนผสมของสีส้มเจืออยู่ และสีปากเราก็อาจจะเลือกสีส้มพีช ส้มนู้ด น้ำตาลอมส้มมาใช้ก็ได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ใช้สีน้ำตาลตุ่น ๆ หรือสีชมพูนมมาทาปาก มันก็จะดูขัดกันเกินไป

***************************************
ทั้งหมดนี้ก็เป็นทริคเมคอัพที่มิ้วอยากนำมาฝากกันค่ะ เรียบเรียงล้วน ๆ จากประสบการณ์การแต่งหน้าที่ตัวเองได้ลองได้ทำมาแล้วทั้งสิ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาว ๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วเราจะสวยไปด้วยกัน คราวหน้าจะมีอะไรมาฝากกันอีก รอติดตามชมกันนะคะ :)