สวัสดีอาทิตย์กลางเดือนที่แสนสดใสนะจ๊ะสาวๆ วันนี้เจ๊ก็มีสาระดีๆ มาฝากเช่นเคย สาวๆ คงเคยได้ยินที่เขารณรงค์เรื่องออมเงินกันอยู่บ่อยๆ บางคนอาจคิดว่า“ คนที่ออมเงินคือคนที่มีรายได้เยอะ ”แต่จริงๆ แล้วรายได้กับจำนวนเงินที่เก็บได้เนี่ยมันแทบจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยนาจา เพราะจริงๆ แล้ว“ คนที่ออมเงิน ” คือคนที่เก็บเงินจนเป็นนิสัยต่างหาก
วันนี้เจ๊เลยเอาความแตกต่างของคนที่ออมเงินกับไม่ออมเงินมาฝาก มาดูกันเถอะว่าใครตรงกับแบบไหนบ้าง
1. ความต่างของวิธีการเก็บเงินในทุกๆ เดือน เก็บเงินก่อนเลย vs เก็บเงินทีหลัง
คนที่มีนิสัยชอบออมเงิน
เก็บเงินตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้แล้ว ด้วยการหักจากเงินเดือนทันทีคนที่จะสามารถเก็บเงินได้อย่างแน่นอนในแต่ละเดือน จะเป็นคนที่แม้ว่าเงินเดือนจะน้อยก็จะหักเงินส่วนที่จะออมไว้ทันทีเมื่อเงินเดือนออก แล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงินจำนวนที่เหลือ จะไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นจริงๆ ใช้ชีวิตโดยมีแนวคิดว่า“ ประยุกต์วิธีการใช้ชีวิตโดยการออมเงิน ”
คนที่ไม่ออมเงิน
พยายามประหยัดเงินในทุกๆ เดือนแล้วค่อยออมเงินที่เหลือ
นี่คงเป็นวิธีที่ใครหลายๆ คนเคยทำกันแน่นอน แต่สุดท้ายแผนการที่ว่า“ ประหยัดเท่าที่ทำได้ ” แล้ว “ เก็บเงินที่เหลือ ”ก็จบลงด้วยการพังลงไม่เป็นท่าซะงั้น
2. ความต่างของบัญชีเงินเก็บ แบ่งเงินตามจุดประสงค์ที่จะนำไปใช้?
คนที่มีนิสัยชอบออมเงิน
สร้างบัญชีสำหรับออมเงินแยกกับบัญชีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
คนที่ชอบออมเงินจะสร้างบัญชีสำหรับออมโดยเฉพาะ และก็จะพยายามเปิดบัญชีที่ใช้ฝากเงินกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยดีๆ และจะไม่ทำพวกบัตรเครดิตรวมถึงไม่ถอนเงินออกมาง่ายๆจากบัญชีเงินฝากอีกด้วย
คนที่ไม่ออมเงิน
บัญชีที่ใช้ออมเงินกับใช้ในชีวิตประจำวันเป็นอันเดียวกัน
การรวมบัญชีที่ใช้ออมเงินกับบัญชีที่ฝากเงินเป็นอันเดียวกันมันก็สะดวกดีใช่มั้ยล่ะ? แต่มันก็ทำให้การออมเงินพังลงไม่เป็นท่าอย่างง่ายดายเช่นกัน เพราะตอนที่เกิดวิกฤติขึ้นมาก็จะสามารถถอนเงินที่ฝากประจำออกมาได้ก่อน เพราะฉะนั้นการฝากแบบนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ตั้งใจจะออมเงินอย่างจริงจังนะจ๊ะ
3. ความต่างในตอนซื้อของ อดใจไม่ซื้อ? vs ซื้อๆ ไปเลย?
คนที่มีนิสัยชอบออมเงิน
วางแผนสิ่งที่อยากซื้อจริงๆ ไว้แล้วจึงซื้อ
ของที่คิดว่ายังไง๊ยังไงก็อยากได้ ถึงแม้มันจะเป็นของฟุ่มเฟือยขนาดไหนก็จะซื้อโดยที่ไม่ชั่งใจเลย เพราะของที่ทำให้มีเรี่ยวแรงในการประหยัดในแต่ละวันเป็นของที่“ จำเป็นต่อหัวใจ ”นั่นเอง คนที่มีนิสัยชอบออมเงิน ถ้ามีของที่อยากได้จริงๆ ก็จะเก็บออมเงินในแต่ละเดือนไว้เป็นทุนในการซื้อแล้วก็จัดการซื้อมันซะ
คนที่ไม่ออมเงิน
อดทนที่จะไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต
ถ้าใช้ชีวิตแบบเวลาอยากได้อะไรก็ค่อยตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ออก สักวันนึงก็จะทนไม่ไหวระเบิดออกมาเอง แถมยังจะกลายเป็นใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองบ่อยๆ อีกด้วย แล้วก็อาจจะคิดว่า“ ซื้อเพื่อเป็นรางวัลให้ตัวเอง ”และใช้อย่างฟุ่มเฟือยเล็กน้อยแต่บ่อยๆ อีกต่างหาก คนที่รู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ก็มีความยืดหยุ่นในการใช้เงินบ้างก็ได้นะจ๊ะ ถึงของบางอย่างอาจดูไม่จำเป็นต่อชีวิต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องอดทนที่จะไม่ซื้อขนาดนั้นน้า
4. ความต่างของวิธีการใช้จ่ายเงินในเวลาปกติ มีความต่างมากที่สุด?
คนที่มีนิสัยชอบออมเงิน
ให้ความสำคัญกับเงินเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช้เงินไปอย่างไร้ประโยชน์
คนที่ชอบออมเงินจะพยายามไม่เสียเงินไปกับค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็ม เช่น พยายามไม่กดเงินจากตู้ต่างธนาคารจะได้ไม่เสียค่าธรรมเนียมการกดเงิน หรือถ้าจำเป็นต้องกดเงินจากตู้ต่างธนาคารก็จะคำนวณไว้ก่อนว่ากดเท่าไรดีให้พอใช้ จะได้ไม่ต้องมาเสียค่าธรรมเนียมในการกดครั้งต่อไปนั่นเอง
คนที่ไม่ออมเงิน
ยุ่งๆ อยู่ทุกวัน ไม่ค่อยสนใจว่าจะต้องเสียค่าธรรมเนียมมั้ย
สาวๆ บางคนอาจจะยุ่งกับงานหรืออะไร จนไม่มีเวลาคำนวณว่าต้องใช้เงินวันละเท่าไรต้องกดเงินเท่าไรถึงจะพอ จนเป็นเหตุให้ต้องไปกดเงินจากตู้ต่างธนาคารบ่อยๆ ค่าธรรมเนียมก็อย่างที่รู้ๆกัน ซื้อข้าวถูกๆ ได้เลยทีเดียว เพราะงั้นเรามาเปลี่ยนนิสัยตรงนี้กันดีกว่าเนอะ ถือว่าเอาเงินที่ต้องเสียค่าค่าธรรมเนียมมาเป็นเงินออมซะยังดีกว่า
5. ความแตกต่างตอนอยู่บ้าน แค่เห็นห้องก็รู้เลย
คนที่มีนิสัยชอบออมเงิน
จัดการทิ้งของที่ไม่ใช้แล้วไปซะ
ผลจากการทิ้งของที่ไม่ใช้แล้วไปนั้น ไม่ใช่แค่ทำให้บ้านสะอาดขึ้นเท่านั้น แต่การที่เราโฟกัสกับของที่มีอยู่แบบจริงจัง จะทำให้เรารู้อย่างแน่ชัดว่าอะไรคือของที่เราต้องการกับไม่ต้องการ ซึ่งหลังจากทิ้งของที่ไม่ต้องการไปแล้วก็จะทำให้เรารู้ว่าอะไรคือของที่จำเป็นจริงๆ ทำให้ใช้สิ่งต่างๆ แบบสิ้นเปลืองน้อยลง เพราะงั้นคนที่ไม่เคยทำก็ลองทำซะนะจ๊ะ รับรองว่าจะได้ผลที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
คนที่ไม่ออมเงิน
บ้านรกรุงรังจะจัดให้เป็นระเบียบยังไงก็ทำได้ไม่หมด
คนที่ไม่ออมเงิน มักจะซื้อข้าวของที่อยากได้มาเรื่อยๆ ทำให้ของเพิ่มขึ้นและทำให้การเก็บกวาดบ้านทำได้ยากขึ้น บ้านเลยรกนั่นเอง สาวๆ ที่เป็นแบบนี้ เจ๊แนะนำว่าให้ลองเอาของที่เคยอยากได้และซื้อมาแล้วออกมาดูอีกครั้ง แล้วคิดดูว่าในตอนนี้ยังอยากได้ของชิ้นนี้อยู่มั้ย? มันเป็นของที่ไม่จำเป็นที่ซื้อเพียงเพราะอารมณ์ในตอนนั้นรึเปล่า?
เอาล่ะสาวๆ ของเจ๊ทุกคน เป็นยังไงกันบ้าง เจ๊สนับสนุนเต็มที่ให้สาวๆ ทุกคนออมเงินนะจ๊ะ เพราะเราไม่รู้อนาคตข้างหน้าเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือจะตั้งเป้าหมายเก็บเงินไว้ซื้อเครื่องสำอางคอลเลคชั่นใหม่ก็เก๋ๆ ดีนะ แถมถ้าเก็บเงินได้ตามเป้าที่คิดไว้แล้วล่ะก็ รับรองว่าสาวๆ จะต้องภูมิใจและมีแรงในการเก็บเงินต่อไปแน่นอน
สำหรับวันนี้ เจ๊ไปก่อนล่ะ ต้องรีบเก็บเงินไปซื้อเครื่องสำอางที่กำลังจะออกคอลเลคชั่นใหม่เร็วๆ นี้จุ๊บๆ
Cr.「お金が貯まる人」と「お金が貯まらない人」の5つの違い
http://tabi-labo.com/282586/save-money-ppl