มื้อแรกของวัน อาหารเช้าไม่ทัน บรันช์ก็ยังดี มาจับคู่มื้ออาหารที่ใช่กับไลฟ์สไตล์ที่ชอบกันเถอะ

อาหารเช้า VS แต่งหน้า

เวลาเช้าของสาวๆ ถ้าต้องเลือกระหว่างแต่งหน้ากับอาหารมื้อแรกของวัน คำตอบที่ได้คงเลือกอย่างแรกกันเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แน่ๆ เพราะชั่วโมงเร่งด่วนในยามเช้ามีค่ายิ่งกว่าเงินทอง ยิ่งเวลามีน้อยยิ่งต้องใช้สอยประหยัด สาวๆ จึงมักใช้เวลาที่มีเลือกสร้างสีสันให้กับใบหน้า ส่วนปากท้องค่อยว่ากัน แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตให้สุดโต่งขนาดนั้นหรอก ยังมีวิธีบาลานซ์ที่จะทำให้สาวๆ สวยได้และสุขภาพดี๊ดีไปด้วย

" กินข้าวเช้าแล้วผอม " นักวิจัยกล่าว..

เราต่างรู้ว่าอาหารมื้อแรกนี่แหละที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ตลอดวัน ไหนจะความรู้ที่ติดตัวมาจากวิชาสุขศึกษาเกี่ยวกับเรื่องโภชนาการที่พร่ำสอนว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด กินได้เยอะที่สุด และทำให้หุ่นดีได้ เพราะนอกจากเป็นมื้อตั้งต้นของระบบเผาผลาญของวันแล้วยังลดการกินจุบจิบกรุบกริบได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอาหารมื้อแรกของวันจึงสำคัญพอๆ กับเครื่องสำอางของเราเลยล่ะ

แต่ด้วยจังหวะเร่งรีบในตอนเช้าของเราชาวเมืองสุดฮิปจะตื่นแต่เช้ามาทำเองก็ไม่ไหว จะกินเร็วแบบรีบอิ่มก็ไม่ดีกับกระเพาะอาหาร จะไม่กินก็ขาดน้ำตาล ไร้เรี่ยวแรง สมองล้าง่ายไป นานเข้าก็จะพาลส่งผลเสียต่ออารมณ์และสุขภาพในระยะยาวได้ ถ้าเป็นแบบนี้เรื่อยไปคงไม่ดีแน่ เพราะงั้น สาวๆ ชิค คูล สตรองอย่างเราจึงควรเลือกเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มพลังด้วยมื้อที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การกินของเรากันดีกว่า

อาหารเช้าเจ้าประจำ ( Breakfast )

มื้อที่มาเป็นอันดับแรกของวันคงหนีไม่พ้นอาหารเช้า ( breakfast ) ลองสำรวจตัวเองว่าเราตื่นนอนเวลาใด มีเวลาให้กับอาหารเช้าแค่ไหน และน้ำย่อยทำงานเมื่อใด เมื่อรู้เวลาที่เหมาะสมแก่การกินซึ่งไม่ควรเกิน 2-3 ชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน นั่นแหละคือเวลาของอาหารเช้าที่เป็นมื้อแรกสุดหลังจากที่ไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องเลยเมื่อตอนที่เราหลับเป็นเวลาหลายชั่วโมง ต่อมาจึงสำรวจดูว่าอาหารแบบไหนที่ใช่เรา บางคนชอบกินเบาๆ สบายท้อง แต่บางคนอาจต้องใช้พลังงานเยอะจึงจำเป็นต้องกินแบบอัดแน่นจัดเต็มตั้งแต่เช้า การจับคู่เมนูอาหารเช้าจึงช่วยให้มีตัวเลือกที่หลากหลาย เสริมสร้างประโยชน์แก่กันและกัน ตั้งแต่น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ที่ช่วยทำให้อิ่มท้องและได้พลังจากโปรตีนในน้ำเต้าหู้อย่างเต็มเปี่ยม น้ำเต้าหู้ยังมีคุณค่ามากพอที่จะช่วยกลบความอันตรายจากไขมันตัวร้ายในปาท่องโก๋ได้อีกด้วย

ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ก็เป็นเมนูยอดนิยม มีดีที่ความสะดวก อร่อย รวดเร็ว แถมยังมีไฟเบอร์ในข้าวเหนียว และหากเป็นข้าวเหนียวดำก็ยิ่งเพียบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพไม่น้อย แต่ควรระวังชิ้นมันหมูหรือถ่านไม้ที่ไม่ได้คุณภาพซึ่งนำมาใช้สำหรับปิ้งหมูด้วย นอกจากนี้ยังมีขนมครกกับกาแฟที่เข้ากันดีด้วยความหอมมันของกะทิกับความหอมหวานเข้มของกาแฟ ขนมครกจะช่วยรองท้องและลดการดูดซึมคาเฟอีนที่มากเกินไปได้ รวมถึงอาหารยอดฮิตอย่างต้มเลือดหมูที่เวิร์คมากเมื่อกินคู่กับใบตำลึง เพราะธาตุเหล็กในเลือดหมูจะทำให้ดูดซึมวิตามินซีจากใบตำลึงได้ดี กลับกัน วิตามินซีจากใบตำลึงก็จะทำให้ดูดซึมธาตุเหล็กจากเลือดหมูได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ และขาประจำอย่างขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว อาหารเช้ายอดฮิตของทุกวัยที่ทำก็ง่าย กินง่าย อิ่มท้องได้เช่นเดียวกัน

มื้อขำขำ เช้าควบเที่ยง ( Brunch )

แต่หากสำรวจดูแล้ว ช่วงเวลาตื่นนอน แต่งสวย และเดินทางมาออฟฟิศก็แทบไม่เหลือเวลาให้หิวแล้ว อย่างน้อยก็ควรจะมีบรันช์ (brunch) หรืออาหารมื้อเช้าควบเที่ยงเป็นแพลนบีให้อุ่นใจอุ่นกระเพาะบ้าง โดยปกติแล้วบรันช์ก็ไม่ได้มีหน้าตาที่แตกต่างจากอาหารเช้ามากนัก แต่ต่างที่ช่วงเวลาในการกินและจะค่อนไปทางปริมาณที่มากพอจะให้พลังงานไว้ใช้ได้ 5-6 ชั่วโมงทีเดียว บรันช์ที่เราเห็นในบ้านเราและต่างประเทศจึงมักเป็นเมนูไข่ดาว ไข่คน ไส้กรอก ขนมปัง เบเกิ้ล แพนเค้ก เครป เอ้กเบเนดิกต์ และเมนูฟิวชั่นอีกมากมายตามร้านค้าสายชิลล์ในปัจจุบัน เคียงด้วยชา กาแฟ น้ำผลไม้ เป็นอันครบ

สำหรับเมืองนอกจะมีวัฒนธรรมบรันช์กันมายาวนานทั้งในอังกฤษและอเมริกา โดยแพร่มาจากกิจกรรมล่าสัตว์ของชาวอังกฤษในยามเช้าจนไม่ได้กินมื้อเช้า ทำให้เมื่อเสร็จกิจกรรมจึงควรค่าแก่การซัดเช้าควบเที่ยงให้เต็มคราบ แม้บางกระแสจะมองว่าบรันช์ในปัจจุบันเป็นมื้อของคนห่วยๆ ( brunch is for jerks! ) เพราะเป็นการสร้างพฤติกรรมดัดจริตของคนเมืองที่ต้องการสร้างภาพสโลว์ไลฟ์เสียมากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าอาหารที่ทำให้เรากินอิ่ม มีความสุข สุขภาพดี และถูกจริตก็ถือว่าเป็นมื้อที่ดีกับตัวเรามากกว่าเหตุผลอื่นใดทั้งหมด

Match the Meal

แต่ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ กันไปเลยว่าอาหารมื้อแรกแบบไหนที่ตรงใจคุณ ก็ลองนึกภาพตามว่าอาหารเช้าเป็นตัวแทนของวันทำงาน ใช้เวลาในการกิน 15-20 นาที เหมาะสำหรับการกินแบบเร่งด่วนคนเดียว ต้องการพลังงานมาปลุกสมองและร่างกายให้พร้อมได้เร็วที่สุด ในขณะที่บรันช์จะเป็นมื้อสายที่เลยไปถึงบ่าย เป็นสัญลักษณ์ของวันพักผ่อน มีเวลาละเลียดอาหารได้เป็นชั่วโมงและเป็นการกินแบบเข้าสังคม รวมกันเป็นหมู่ครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก จึงมีบรรยากาศผ่อนคลายและเฮฮาร่าเริงกว่า ทีนี้ก็อยู่ที่วิถีการใช้ชีวิตในแต่ละวันของแต่ละคนแล้วว่าจะเลือกรับปรับใช้กับมื้อของตัวเองแบบไหน และถ้าสาวๆ ได้ลงมือปรุงอาหารเองล่ะก็ ขอบอกเลยว่ายิ่งได้รสชาติที่อร่อยถูกปาก ประหยัด และมีสุขภาพดีด้วยฝีมือตัวเองและเผื่อแผ่ไปถึงคนที่เรารักด้วย อย่าลืมว่าสุขภาพดีๆ ไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ใบหน้าสวยแล้วก็เผื่อแผ่ถึงอวัยวะภายในกันด้วยนะ