เชื่อว่าคู่รักหลายๆ คู่ ต้องเคยผ่านช่วงเวลาอันหวานซึ่งในรักแรก แต่พอเวลานานวันเข้าความรักก็อาจจะลดระดับลง จนในสุดท้ายก็เหลือเพียงความเจือจางของความรัก แต่ที่ยังอยู่ด้วยกันได้ก็อาจจะเพราะความเคยชิน ซึ่งถ้าใครโชคดีก็อาจจะไม่ต้องผ่านจุดนี้และความรักก็อาจจะาขึ้นกว่าเดิม ส่วนคนที่โชคไม่ค่อยดีนักก็อาจจะเจอปัญหารักเจือจางเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นเรื่อยๆ เข้าสักวัน ซึ่งถ้าคุณกำลังก้าวมาถึงจุดนี้ แล้วเริ่มสงสัยว่าความรักเราจะรอดต่อไปหรือไม่ ลองมาดู ...
9 สัญญาณอันตรายที่บอกว่ารักนี้พอเถอะ!! กันค่ะ
1.เริ่มที่จะชินกับปัญหา
ถ้าคุณเป็นคนที่พยายามจะแก้ไขสารพัดปัญหาระหว่างคุณกับคนรักมาตลอด ในขณะที่เขาดูทำตัวชิลล์ๆ ชินไปกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่ยอมเคลียร์ปัญหา ไม่สนใจที่จะพูดถึง ไม่ขอโทษ และทำเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น นั่นก็หมายความว่าความรักของคุณใกล้ถึงจุดอิ่มตัวแล้วค่ะ
เพราะการที่คนเพียงคนเดียวใส่ใจและต้องการจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างมันดีขึ้น หรือกลับมามีความสุขอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายกลับไม่พยายามทำอะไรเลย แถมทำตัวชินไปกับปัญหาซะด้วย!!แบบนี้เป็นการบ่งบอกว่าวาระของความรักกำลังจะเข้าโหมดล้มละลายแล้วค่ะ
2. เริ่มไม่สนใจท่าที
ถ้าการอยู่ด้วยกันแล้วคนรักของคุณ เริ่มไม่สนใจท่าทีอันแสนน่ารัก เย้ายวน และแลดูมีเสน่ห์ของคุณ หรือไม่สะทกสะท้านต่อการอ้อนของคุณแม้แต่น้อย รวมไปถึงการเดินที่เริ่มไม่จับมือ ไม่โอบไหล่ ไม่กอด
แถมเวลาออกนอกบ้านเราไปแตะโดนตัวนิดหน่อยก็สะบัดมือทิ้งทันที หรือแสดงอารมณ์ไม่ดีออกมาเมื่อเราต้องการจะไปโดนตัว พร้อมแสดงความเครียดตลอดเวลาที่เดินออกไปกับเรา อันนี้แน่นอนและขอฟันธงว่ารักร้าวแบบต่อไม่ติดไปแล้วค่ะ
3. ลืมเรื่องของเรา
การลืมวันสำคัญของคนรักเพียงไม่กี่วันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ลืมมันเกือบหมดทุกเรื่อง ลืมวันสำคัญเกือบทั้งหมด พฤติกรรมแบบนี้เป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่ต้องการจะจดจำอะไรที่เกี่ยวกับคุณอีก และพร้อมที่ออกไปจากชีวิตคุณอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ซึ่งอาการลืมนี้จะลุกลามไปถึงขั้นถอดแหวนหมั้นวางไว้แล้วก็ลืม ที่แย่กว่านั้นคือเมื่อคิดได้ว่าลืมก็ไม่ต้องการจะหา ไม่ซื้อใหม่ หรือไม่สนใจที่จะใส่มันอีกต่อไปแล้วนั่นเอง
4. ไม่สนใจและไม่ให้การสนับสนุนใดๆ
เมื่อคนรักของคุณเริ่มที่จะไม่สนใจต่อความรู้สึกของคุณ ไม่สนับสนุนเรื่องใดๆ ที่ต้องทำร่วมกัน เช่น การไปเที่ยว การไปดูหนัง หรือการรับประทานอาหาร ทั้งยังไม่สนใจด้วยว่าคุณจะอยู่ในอารมณ์ไหน รู้สึกอย่างไร ต้องการทำอะไร หรืองานของคุณจะมีปัญหาหรือไม่ แต่ก็อยู่กับคุณได้แบบชิลล์ๆ
ซึ่งผู้ชายบางคนอยู่กับผู้หญิงได้โดยที่หมดรักแล้ว เพราะอยู่กับความเคยชิน และผู้ชายหลายๆ คนก็แต่งงานกับผู้หญิงได้เพราะอยู่กันมานาน แบบนี้ถือว่าไม่ดีแน่นอน เพราะมันจะกลายเป็นถึงไม่ดึงลง แต่ก็ไม่สนับสนุนกัน อยู่ไปก็มีแต่ความน่าเบื่อมากขึ้นทุกวัน แนะนำว่าเคลียร์ให้จบแล้วไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า Work!! กว่าเยอะค่ะ
5. ไม่สนใจจะคุยเรื่องสำคัญ
คนที่ยังรักกันส่วนใหญ่มักจะชอบคุยกันในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา เรื่องราวในแต่ละวัน หรือแม้แต่เรื่องของครอบครัวแต่ละคน เพราะการเป็นคนรักกันจะไว้วางใจอีกฝ่ายมากพอที่จะเล่าเรื่องราวลึกๆ ของตัวเองให้อีกคนฟังได้อย่างไม่ต้องกังวล
แต่เมื่อใดที่การคุยกันในลักษณะนี้เริ่มหายไป การคุยกันเริ่มมีช่องโหว่ มีเว้นวรรคแล้วเงียบใส่กันมากขึ้น เริ่มไม่คุยเรื่องส่วนตัวของกันและกัน แสดงให้รู้ว่าคนรักของคุณขาดความสนใจในตัวคุณไปแล้ว คราวนี้ก็ยากที่จะต่อกันติดค่ะ
6. จ้องแต่หน้าจอเท่านั้น
ถ้าในช่วงนี้คุณรับประทานอาหารกันด้วยการนั่งทานไป อีกคนก็จ้องหน้าจอสมาร์ทโฟน และอีกคนก็จ้องที่หน้าโน้ตบุ๊ค ปล่อยให้บรรยากาศการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันกลายเป็นความเงียบงัน แลดูอึดอัด จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา โดยที่คุณทั้ง 2 เอาแต่ลงรูปหรือส่งข้อความหาคนอื่นตลอดเวลา
เท่านี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนมากว่าความสัมพันธ์ของคุณ 2 คนชักเริ่มไม่เข้าท่าแล้ว
7. วางแผนไปเที่ยวโดยไม่คิดถึงคุณ
การไปเที่ยวถือว่าเป็นความสนุกของวัยหนุ่มสาวก็จริง แต่ถ้าคนรักมาบอกว่าจะไปเที่ยวโดยในแผนการเที่ยวนั้นไม่มีคุณอยู่เลย มาบอกเพราะความเคยชินเฉยๆ แต่ก็ไม่แสดงอาการว่าจะชวนไปด้วยสักนิด
หรือเมื่อเขาเริ่มวางแผนจะจัดงานปาร์ตี้ ก็เอาแต่คิดชวนคนนั้น คนนี้ โดยไม่คิดชวนเพื่อนฝั่งคุณเลยแม้แต่น้อย หรือต่างคนต่างก็คิดชวนแต่คนของตัวเอง โดยไม่ใส่ใจเพื่อนของฝ่ายตรงข้าม แบบนี้ก็เริ่มเป็นสัญญาณที่ไม่ดีในเรื่องชีวิตคู่เช่นกันค่ะ
8. หลีกเลี่ยงการพูดถึงอนาคต
เมื่อใดที่เริ่มพูดถึงเรื่องอนาคตของเรา 2 คน หรือเรื่องการแต่งงาน คนรักของคุณเริ่มบ่ายเบี่ยงที่จะพูดถึง ไม่มีการพาไปหาพ่อแม่ ไม่สนใจจะพาไปให้เพื่อนหรือญาติรู้จัก และอาจจะไม่สนใจเรื่องการสร้างอนาคตเสียด้วยซ้ำ
เวลาถามก็อาจจะบอกว่าคิด แต่พอเริ่มสนทนาเรื่องงานแต่งหรือการมีลูก ก็จะเริ่มหัวเสียและมีทะเลาะกันทุกครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไปไม่รอดแน่นอนค่ะ
9. คิดถึงแต่ตัวเอง
เวลาที่คนรักของคุณเลือกอะไรสักอย่างที่ต้องใช้หรือทานคู่กัน แล้วเอาแต่เลือกของที่ตัวเองชอบเท่านั้น ไม่ใส่ใจว่าคุณชอบอะไร และจะยืนกรานที่จะซื้อหรือทานที่ตัวเองเลือกเท่านั้น หรือแม้แต่การไปเที่ยวก็เลือกเอาสถานที่ที่ตัวเองชอบเท่านั้น
นอนก็เอาหมอนหรือผ้าห่มไปอยู่ที่ตัวเองแทบทั้งหมด ไม่มีการคิดที่จะใส่ใจเราหรือประณีประนอมกันเพื่อแชร์ความรู้สึกกัน ซึ่งถ้ามาถึงขั้นนี้แล้วก็ยากจะไปกันต่อได้ค่ะ
ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน ที่ต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกัน การอยู่กันแบบเพื่อนก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ความรักยืนยาวมากขึ้น หรือถ้าคุณเป็นคนโชคดีที่เจอคนดีเหมาะสมกับตัวเอง และเขาก็รักคุณมากขึ้นทุกวันก็ถือว่าคุณ Lucky in love มากๆแต่ถ้าไม่ได้โชคดีขนาดนั้นและกำลังเผชิญปัญหารักจืดจางอยู่ ก็ลองนำเอาทั้ง 9 อาการนี้ไปสังเกตคนรักและลองมาประเมินความสัมพันธ์กันใหม่ดูอีกครั้งค่ะ หวังว่าสาวๆ จะได้ข้อสรุปที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายนะคะ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
9 Signs Your Partner Isn't Emotionally Invested Enough In Your Relationship
https://www.bustle.com/p/9-signs-your-partner-isnt-emotionally-invested-enough-in-your-relationship-69657