ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงไม่มีใครที่อยากมีริ้วรอยร่องลึก รูขุมขนกว้างเท่าอ่างอาบน้ำที่บ้านอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นผู้หญิงเราจึงสรรหาสารพัดวิธีและเคล็ดลับเพื่อลดริ้วรอย และทำให้รูขุมขนเล็กลง เพื่อหน้าจะได้เนียนเรียบ ปิ๊ง ปังเราลองมาดูกันดีกว่า ว่าวิธีไหนจะช่วยเรื่องริ้วรอยและรูขุมขน ที่เป็นปัญหาหนักใจอันดับต้นๆ ของสาวๆ ได้

1. ใช้ยา
สำหรับริ้วรอยและรูขุมขนกว้างนั้นจะเกิดขึ้นบริเวณผิวกำพร้า เกิดเนื่องจากการเสื่อมสภาพของผิวกำพร้า ทำให้มันหย่อนคล้อยและเกิดเป็นร่องริ้วรอยรูขุมขนกว้าง วิธีที่จะช่วยได้คือต้องสร้างผิวใหม่ นั่นคือต้องขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกไปนั่นเองสำหรับยาที่ใช้ก็จะเป็นยาจำพวกวิตามินเอ, AHA,ฺ BHA, วิตามินซี เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ลอกผิวด้านบนออกไปเพื่อรอให้ผิวใหม่เกิดขึ้น หรือจำพวกสารบำรุงที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอย่างวิตามินอี คอลลาเจน ที่ไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นดูเหมือนผิวมันตึงขึ้น จึงทำให้คล้ายว่ารูขุมขนเล็กลง และริ้วรอยจางลงนั่นเอง


2. วิธีธรรมชาติ
ใช้สูตรธรรมชาติ เช่นพอกหน้า ขัดหน้าด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยเฉพาะผลไม้ ซึ่งจะช่วยได้ประมาณหนึ่ง เนื่องจากความแรงไม่เพียงพอที่จะขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอาจจะช่วยเรื่องริ้วรอยได้เล็กน้อย แต่เรื่องรูขุมขนที่เป็นปัญหาลึกกว่าอาจจะเพียงบรรเทา ไม่ถึงกับหายสนิท ลองไปดูว่ามีสูตรใดบ้างที่ช่วยเรื่องรูขุมขนและริ้วรอยได้





3. นวัตกรรมทางการแพทย์
ซึ่งมีหลากหลายวิธี ทั้งการทำทรีทเมนต์ เลเซอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการผลัดเซลล์ผิวเพื่อรอให้ผิวหนังนั้นเกิดใหม่ ราคาก็แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ต้องทำ5 - 10 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผล ไม่ใช่ทำทีเดียวแล้วสวยเลย ลองมาดูดีกว่าว่าทรีทเมนต์หรือเลเซอร์อะไรบ้างที่ช่วยให้ริ้วรอยและรูขุมขนดีขึ้น

AHA หรือ BHA ทรีทเมนต์
เหมาะสำหรับคนที่ไม่พร้อมจะจ่ายหนัก หรือหน้าไม่ได้มีปัญหาในระดับรุนแรง เป็นการใช้กรดผลไม้ในการผลัดเซลล์ผิวหนังกำพร้าที่เสื่อมสภาพออก โดยแพทย์หรือเจ้าหน้าที่จะทาทิ้งไว้ราว 10-15 นาทีก่อนจะเช็ดออก
ปกติกรด AHA จะมีแบบทา แต่ความเข้มข้นจะไม่สูงมากนัก อยู่ที่ราว 10% แต่สำหรับทำทรีทเมนต์ความเข้มข้นจะสูงราว 30% ทำประมาณ 10 ครั้ง หน้าจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เลเซอร์ Fine Scan
ราคาสูงกว่าการทำทรีทเมนต์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจมากกว่าเช่นเดียวกัน เป็นการใช้เลเซอร์ ทำให้ผิวหน้าเกิดแผลเล็กๆ มากมาย เล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อแผลตกสะเก็ดก็จะหลุดลอกออกมา เปรียบเสมือนการผลัดเซลล์ผิวอย่างรุนแรงนั่นเอง ทำให้เกิดผิวใหม่ที่เรียบเนียน รูขุมขนจึงเล็กลง ริ้วรอยก็จางลงด้วย

เลเซอร์ E - Matrix
เลเซอร์อีกหนึ่งตัวที่ราคาสูงพอสมควร ใช้ พลังงาน RF ด้วยระบบ Fractional กระจายลงไปยังผิวได้ลึก ทำให้สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างดีกว่า ทำให้ผิวที่เสื่อมสภาพหลุดลอกและเกิดเป็นผิวใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมา ผิวจึงเรียบเนียน และลดริ้วรอยลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อดีคือเห็นผลเร็ว แต่ข้อเสียคือราคาสูงมาก

การทำ Fraxel
Fraxel เป็นการปล่อยคลื่นแสงเข้าไปยังผิวของเรา ลึกระดับชั้นคอลลาเจน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออก แล้วรอให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง เกิดเป็นผิวใหม่ที่เรียบเนียน และรูขุมขนเล็กลงขึ้นมาแทน แต่ก็ต้องทำหลายครั้งเช่นเดียวกัน ข้อดีคือเห็นผลไวแต่ราคาก็ค่อนข้างสูงไม่เบา เพียงแต่ไม่สูงเท่าสองตัวบนเท่านั้น


แม้ว่าวิธีการรักษารูขุมขนกว้าง และริ้วรอยจะมีหลายวิธีก็ตาม แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะสิวที่เป็นสาเหตุพื้นฐานของปัญหาผิวหน้าอื่นๆ นั่นเองการดูแลรักษาความสะอาดและสุขภาพผิว เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องใส่ใจเสมอ จะได้ไม่ต้องมาหาวิธีแก้ไขแถมเสียเงินแพงอีกต่างหาก

บทความที่เกี่ยวข้อง

เช็คลิสต์ 5 พฤติกรรมทำลายผิวหน้า จะได้รู้ไว้ว่าทำไมหน้าไม่ใสสักที!
https://sistacafe.com/summaries/13966

8 สิ่งต้องห้ามไม่ควรทำตอน'หน้าเป็นสิว' ไม่อยากเสี่ยงหน้าพังกว่าเดิม ต้องรู้! (1)
https://sistacafe.com/summaries/13889

กดสิว VS เลเซอร์ลดรอยสิวอุดตัน เทียบกันให้รู้ไปเลยแบบไหนดีกว่ากัน!!
https://sistacafe.com/summaries/11895