สวัสดีสาว ๆ
SistaCafe
ทุกคนค่ะ
ปีนี้นับเป็นปีทองของนางเอกสาว
' เบลล่า ราณี แคมเปญ '
จริง ๆ ค่ะ ด้วยกระแสความดังจากละครพีเรียด
' บุพเพสันนิวาส '
ทำให้ใครต่อใครหันมาสนใจชุดไทยกันมากขึ้นจนกลายเป็นวาระแห่งชาติไปเลยก็ว่าได้ และต้องยอมรับเลยว่าแม้สาวเบลล่าจะเป็นลูกครึ่ง แต่เวลาที่เธอใส่ชุดไทยออกมานั้น มันดูไม่ขัดตาเลยแม้แต่น้อย ทั้งรูปร่างหน้าตา รวมไปถึงอากัปกิริยาที่แฉล้มแช่มช้อยไปเสียหมด ทำให้นึกถึงละครเรื่องอื่น ๆ ของเธอที่มีการใส่ชุดไทยด้วย!
แน่นอนว่าหากชุดไทยเป็นคอสตูมหลัก ๆ ในละคร มันย่อมจะบอกยี่ห้อได้เลยว่าละครเรื่องนั้นจะต้องเป็นละครแนวพีเรียดย้อนยุค ซึ่ง
จากที่ได้ติดตามผลงานของสาวเบลล่ามาบ้าง ( แม้จะไม่ทุกเรื่อง ) ทำให้สังเกตได้ว่าก็มีเรื่องอื่น ๆ ที่เธอใส่ชุดไทยด้วยเหมือนกัน
วันนี้เราเลยจะขอมาประมวลภาพแฟชั่นชุดไทยของสาวเบลล่าจากละคร 6 เรื่องนี้ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาชมกันเลยค่ะ
1. ลูกทาส
เริ่มกันที่ละครพีเรียดเรื่อง
' ลูกทาส '
ซึ่งออกอากาศในปี 2557 โดยเนื้อหาของละครเรื่องนี้อยู่ในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
แฟชั่นเสื้อผ้าของผู้หญิงในสมัยนั้นจึงมีความเป็นไทยและฝรั่งผสม
กัน
ชุดที่ออกงานทางการเป็นเสื้อแขนหมูแฮม ปิดคอและแขน ตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากแฟชั่นของอังกฤษในสมัยนั้นซึ่งตรงกับยุควิกตอเรียน
หรือรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร
ในขณะเดียวกันก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นไทยหลงเหลืออยู่ คือการนุ่งผ้าโจงกระเบน
และผูกผ้าพาดบ่าลงไป อาจจะติดเข็มกลัดประลงไปบนผ้านั้นด้วย
แม้จะได้รับอิทธิพลทางตะวันตกเข้ามา จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลง พัฒนา การรับนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าในราชสำนักสยาม แต่สำหรับชาวบ้านก็ยังไม่ได้เปลี่ยนการแต่งกายไปมากนัก หรือแม้แต่ผู้ลากมากดี
ในวันที่ไม่จำเป็นต้องออกงานเป็นทางการ เขาก็ยังใช้ขนบการแต่งกายแบบเดิม ๆ เป็นชุดลำลองกัน อย่างการห่มผ้าแถบ ห่มสไบสีสวย ๆ และนุ่งโจงกระเบน และใส่เครื่องประดับตามแต่สมควร
ค่ะ
2. เพลิงฉิมพลี
เรื่องถัดมา
' เพลิงฉิมพลี '
ซึ่งออกอากาศในปี 2557 เช่นเดียวกัน ยังคงเป็นละครพีเรียดค่ะ แต่เป็นการย้อนยุคที่ไม่ได้ย้อนไปไกลมาก เรื่องนี้สาวเบลล่าต้องรับบทเป็นสาวชาวเหนือที่เป็นช่างฟ้อน แน่นอนว่าเธอจึงต้องแต่งกายตามแบบสาวล้านนาด้วย
ฉากที่หลายคนจำได้และประทับใจคงจะเป็นฉากที่สาวเบลล่าแต่งกายมาใน
ชุดช่างฟ้อนพันอกสีแดง นุ่งผ้าซิ่นสีแดง
สวยงามคู่กัน มาพร้อมท่าฟ้อนรำในชุดการแสดง
' ฟ้อนแง้น '
ซึ่งทำให้เราทึ่งกับความสามารถของเธอจริง ๆ บวกกับเสื้อผ้าในฉากนั้น มันทำให้เธอดูโดดเด่นมากทีเดียว!
หรือฉากอื่น ๆ นางเอกของเรื่องก็ยังใส่เสื้อผ้าแบบชาวเหนืออยู่ค่ะ อย่างในรูปนี้เป็นเสื้อล้านนาป้ายหน้า ติดกระดุม คอจีน ใส่คู่กับผ้าซิ่นแบบล้านนา พร้อมเปิดหน้า มุ่นมวยผมขึ้น ดูแล้วมีความน่ารัก เป็นธรรมชาติ ได้ลุคที่ดูเด็กลงไปอีก
3. ปดิวรัดา
เรื่องที่สาม
' ปดิวรัดา '
เป็นละครพีเรียดอีกแล้ว แต่ก็มีความร่วมสมัยขึ้นมาหน่อย คือแต่งตัวตามแบบฝรั่ง ใส่กางเกง นุ่งกระโปรง ( อารมณ์ประมาณปริศนา, สุภาพบุรุษจุฑาเทพ อะไรประมาณนั้น ) แต่ก็ยังมีฉากใส่ชุดไทยให้เห็นกันอยู่ แน่นอนว่าต้องเป็นฉากงานแต่งงานนั่นเองชุดแรกอยู่ในฉากรดน้ำสังข์ค่ะ เป็น
ชุดไทยสไบเฉียงสีงาช้างปักเลื่อมสีทอง เหมือนชุดไทยจักรพรรดิ์
นั่นแหละค่ะ ดูสวยสง่าสมกับเป็นเจ้าสาวจริง ๆ
อีกชุดหนึ่งก็คงยังเป็นชุดแต่งงานค่ะ แต่มีความร่วมสมัยเป็นชุดไทยประยุกต์หน่อย ๆ ค่ะ คือเป็นเสื้อแขนพอง ๆ สีขาวครีม หรือแขนหมูแฮมคล้าย ๆ เสื้อที่นิยมใส่กันในสมัยรัชกาลที่ 5 ใส่คู่กับกระโปรงที่ตัดเย็บออกมาให้เหมือนกันจีบหน้านางค่ะ
4. เพลิงบุญ
ถัดมาที่ละครอีกหนึ่งเรื่องซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาเป็นแนวย้อนยุคใด ๆ ทั้งสิ้น สำหรับละครเรื่อง
' เพลิงบุญ '
แม้จะมีเนื้อหาที่ทันสมัยเข้ากับสังคมในยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ แต่ก็ยังมีฉากชุดไทยให้เราเห็นกันอยู่ค่ะ แน่นอนว่าหนีไม่พ้นฉากแต่งงานนั่นเอง ( แหม...ละครที่สาวเบลล่าเล่นนี่มีฉากแต่งงานเยอะอยู่เหมือนกันนะ ^^ )
ชุดเจ้าสาวสีทองที่สาวเบลล่าใส่
ดูเหมือนจะคล้ายสไบ แต่ก็ยังเรียกว่าสไบไม่ได้เสียทีเดียว เหมือนชุดไทยประยุกต์ที่เปิดไหล่ข้างเดียวแล้วมีผ้าคลุมกายให้เหมือนสไบมากกว่า
แต่ก็ยังดูสวยหวานสมกับเป็นเจ้าสาวอยู่นะ ว่ามั้ย? ^^
5. บุพเพสันนิวาส
มาถึงละครขึ้นหิ้งไปแล้วในปีนี้ เรียกว่าฮิตติดกระแสออเจ้ากันไปทั่วบ้านทั่วเมืองกันเลยทีเดียว สำหรับ
' บุพเพสันนิวาส '
ที่ทำให้สาวเบลล่ามีงานอีเวนท์ งานโฆษณามาแบบไม่หยุดหย่อน เพราะบทบาทของแม่หญิงการะเกดเลยจริง ๆ อย่างที่ทราบกันดีว่าเรื่องนี้เป็นละครพีเรียดซึ่งมีเรื่องราวอยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสื้อผ้าโดยหลัก ๆ ในละครก็จะต้องมีความสมจริงกลมกลืนกันไปด้วย
ชุดที่เห็นแม่หญิงการะเกดใส่บ่อยที่สุดก็น่าจะเป็น
การห่มสไบเฉียง 2 ชั้น คู่มากับผ้านุ่งจีบหน้านางหรือโจงกระเบน ใส่สร้อย สังวาลย์ เข็มขัดทอง และเครื่องประดับตามสมควร
แบบหญิงผู้ดีในยุคนั้นนั่นแล
6. ปี่แก้วนางหงส์
มาถึงละครเรื่องล่าสุด
' ปี่แก้วนางหงส์ '
เป็นละครพีเรียดซึ่งมีเนื้อหาอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ค่ะ เท่าที่สังเกตดู พบว่าเสื้อผ้าของ
' พิกุล '
หรือนางเอกในเรื่องนี้ แม้จะมีความเป็นชาวบ้านเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีความหลากหลายมากทีเดียว
แต่เนื่องจากนางเอกของเรื่องเป็นคนปี่ มีหน้าที่เป่าปี่อยู่ในวงปี่พาทย์ ก็จะต้องมีการแสดงดนตรีให้กับเจ้านายหรือขุนนางได้รับชม เสื้อผ้าก็จะมีลักษณะที่เป็นทางการอยู่ด้วย อย่างการ
ใส่เสื้อลูกไม้ปิดคอปิดแขน และนุ่งโจงกระเบน ตามแบบสมัยนิยมในช่วงเวลา
นั้นค่ะ
นอกจากการแสดงที่ยอดเยี่ยมตราตรึงใจแล้ว การใส่ชุดไทยของสาวเบลล่าก็เป็นสิ่งที่เรามองแล้วไม่รู้สึกเบื่อเลย เป็นสาวลูกครึ่งที่ใส่ชุดไทยในละครย้อนยุคแล้วเชื่อว่าเธอเป็นหญิงไทยในยุคนั้นจริง ๆ สุดท้ายนี้ก็หวังว่าจะชอบสิ่งที่เรานำมาฝากกัน ใครมีงานที่ต้องใส่ชุดไทย นำเอาไอเดียจากละครเรื่องต่าง ๆ มาใช้กับตัวเองกันได้นะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่ะ :)
