ใครๆ ก็รู้ว่า สมัยนี้อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด!
ทุกอย่างต้องใช้
" เงิน "
เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน หิวก็ต้องซื้ออาหาร หนาวก็ต้องซื้อผ้าห่ม อยากมีที่พักก็ต้องจ่ายค่าเช่าห้อง และแน่นอนว่าหากอยากนึกไปเที่ยวต่างประเทศ ค่าตั๋ว ค่าโรงแรม ค่าอาหารแต่ละมื้อก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินจะหมดกระเป๋าก็ไม่มีใครสนใจ
//ทุนนิยมนี่มันทุนนิยมจริงๆ กัดผ้าเช็ดหน้าแรง
ประเทศเกาหลีก็ถือเป็นประเทศหนึ่งที่ค่าครองชีพอยู่ในเกณฑ์" สูง "
แต่ถึงอย่างนั้นโลกนี้ก็ไม่โหดร้ายเกินไป เพราะในประเทศนี้ก็ยังมีของกินของใช้ราคาถูกให้่เลือกซื้อ แต่บทความนี้มาเหนือกว่า
เพราะเราจะแนะนำของที่ไม่แค่ราคาประหยัด แต่ " ฟรี " เลยล่ะค่ะ หมดกังวลปัญหากระเป๋าแห้งระหว่างอยู่ต่างแดนไปเลย ( หรือถ้าเธอต้องอพยพไปอยู่เกาหลีถาวร ก็ช่วยได้เช่นกัน )
เริ่มสนใจแล้วล่ะสิ....งั้นเราไปอ่านกันดีกว่า
เล็ทส์โก!
1. ใช้โทรศัพท์สาธารณะในกรุงโซล " ฟรี "
ในยุคสมัยนี้ การติดต่อสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็น! อันที่จริงหลายคนมักใช้วิธี " เช่าโทรศัพท์มือถือ " ที่เคาน์เตอร์ในสนามบินอินชอน แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้ติดโทรศัพท์ขนาดนั้น แค่อยากโทรกลับบ้าน 2-3 ครั้งเพื่อรายงานตัวว่าถึงแล้วนะ จะกลับแล้ว เท่านั้นเอง ให้เช่าต่อเนื่องเป็นสิบๆ วันก็เพลียเงินในกระเป๋าตังค์ T^T
ไม่ต้องกังวล เพราะในเกาหลี ( กรุงโซล ) จะมีโทรศัพท์สาธารณะตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินให้โทรฟรีมากมาย วิธีใช้บริการก็ง่ายๆ ไปที่สถานีรถไฟใหญ่ๆ หา Digital Station มองหาตู้โทรศัพท์เหมือนในรูป ยกหูแล้วโทรซะ! ฟรีจ้าาาา
2. เรียนภาษาเกาหลี " ฟรี "
ถ้าเธอเพิ่งย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ประเทศเกาหลี เริ่มมองหาที่เรียนภาษาเกาหลีเพื่อเอาตัวรอด ก็มีวิธีเรียนรู้ได้หลากหลาย เช่น เปิดคลิป Youtube เพื่อเรียนออนไลน์ ( แน่นอนว่าฟรี ) หรือหาเพื่อนชาวเกาหลีคุยใน TalktoMeinKorean.com ก็เก๋ไม่เบา แต่หากเธอชอบพบปะผู้คนและอยากเรียนรู้โลกกว้าง ลองหาคู่หูเรียนภาษาด้วยการโพสต์หาในเว็บไซต์ craigslist ได้ค่ะ
อีกทั้งยังมีคลาสเรียนภาษาเกาหลีที่จัดโดยอาสาสมัคร บางครั้งก็เป็นครูสอนภาษาโดยเฉพาะ ลองหาดู ได้ทั้งภาษาและเพื่อนใหม่เลยนะเออ
3. บริการผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับนักท่องเที่ยว ( ทางโทรศัพท์ ) " ฟรี "
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี ( The Korea Tourism Organization ) ให้บริการนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเที่ยวโซล ด้วยหมายเลขผู้ช่วยส่วนตัว " 1330 " เมื่อกดเบอร์นี้ จะถูกโอนสายไปให้โอเปอเรเตอร์ที่คอยช่วยเหลือ หาข้อมูลต่างๆ ในการเที่ยวเกาหลีให้เรา ไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหาร, ตารางเดินรถบัส, สิ่งที่ต้องทำในเกาหลี หรือแหล่งช้อปปิ้งของแปลกๆ ก็ได้ค่ะใครที่มาเกาหลีแบบมึนๆ งงๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน กดเบอร์นี้แล้วหมดห่วง มีคนช่วยนำทางแน่นอน ถ้าเรื่องไหนที่โอเปอเรเตอร์ไม่รู้จริงๆ พวกเขาจะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ( ภาษาเกาหลี ) ให้ฟรีๆ เลยค่ะ ^^ปล. ใช้ได้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่มาอาศัยในเกาหลี ใช้ได้ทั้งในกรุงโซลและเมืองรอบๆ เกาหลีเลยค่ะ
4. ทัวร์เดินชมสถานที่ท่องเที่ยวกับไกด์ " ฟรี "
ถ้าเธอเดินทางมาเที่ยวกรุงโซล ไม่มีเวลาจองไกด์ จองทัวร์ใดๆ ทั้งสิ้น ( แค่กระหืดกระหอบมาให้ถึงสนามบินก็แย่ละ ) กรุงโซลมีบริการทัวร์เดินรอบสถานที่ยอดฮิตฟรี
ผู้นำเที่ยวมีประสบการณ์สูง มืออาชีพ มีความรู้เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ เป็นอย่างดี มีหลายภาษาให้เลือก ทั้งเกาหลี อังกฤษ ญี่ปุ่นและจีน ได้ความรู้แบบไม่ต้องเสียเงิน ยังไงก็คุ้ม ^0^
5. ทัวร์เดินชมสถานที่ท่องเที่ยวจากนักเรียนเกาหลี " ฟรี "
ในประเทศเกาหลี มีบริการทัวร์เดินรอบกรุงโซลมากมาย ส่วนใหญ่จัดโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เป็นอาสาสมัครค่ะ พวกเขาต้องการแนะนำวัฒนธรรม ประเพณีและสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในเกาหลี เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมอย่างหนึ่งให้นักท่องเที่ยว แต่กำไรคือ เขาจะได้เพื่อนใหม่เป็นชาวต่างชาติด้วยยังไงล่ะแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ไกด์ระดับโปร แต่ก็ถือเป็นเพื่อนคุยเพื่อนเที่ยวในต่างแดนได้ดี คุยดีๆ อาจได้เพื่อนต่างชาติกลับไปติดต่อกันหลังกลับไทยก็เป็นได้ พากินพาเที่ยว สนุกกันให้เต็มที่ไปเล้ย! เว็บไซต์ที่หาเพื่อนเที่ยวในเกาหลีที่แนะนำคือ Meteor Youth, FreeTourSeoul, และ SeoulMate ค่ะ
6. ได้ตัวอย่างทดลองใช้เมื่อซื้อเครื่องสำอางในเมียงดง " ฟรี "
ข้อนี้สาวไทยน่าจะคุ้นเคยกันดี กับการซื้อเครื่องสำอางแบบที่เรียกได้ว่า " โกย " ในย่านเมียงดงของเกาหลี ( บางร้านเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวไทยด้วยการจ้างพนักงานคนไทยเลยล่ะ ) และสิ่งที่ทำให้สาวๆ ว้าวที่สุด คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก " ได้ซองเครื่องสำอางมาลองใช้ฟรี " ไม่ได้แถมแค่ซองสองซองนะจ๊ะ แต่ให้แบบเต็มกำมือ!แม้เธอจะยังไม่ทันซื้อของอะไร แค่เดินเข้าไปในร้าน พนักงานก็พร้อมจะยื่นตัวอย่างทดลองใช้ให้ฟรีๆ เป็นค่า " เดินดูของ " ดังนั้นหากอยากได้ของฟรี แค่เดินเข้าไป รับของฟรี เดินเข้าไปอีกก็ได้รับอีก พนักงานจะไม่ตั้งคำถามใดๆ มีแต่แจก แจก แจกอย่างเดียวเท่านั้น * ตาเป็นประกายลุกวาว *ข้อแนะนำ : แม้เธอจะไม่ได้ไปแถวเมียงดง ก็ยังรับซองเครื่องสำอางฟรีหลังจากซื้อเครื่องสำอาง / สกินแคร์ทุกยี่ห้อในเกาหลี แค่ขอ พนักงานก็ให้แล้วล่ะค่ะ
7. อาหารลองชิมจากซูเปอร์มาร์เก็ต " ฟรี "
ขึ้นชื่อว่าเป็นคน ไม่ว่าชนชาติไหนก็ชื่นชอบ " อาหารฟรี " ด้วยกันทั้งนั้น! ( แต่ถ้าอร่อยด้วยก็จะดีมาก ) ในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของประเทศเกาหลี จะมีการตั้งบู๊ทให้ลองชิมอาหารถ้วยจิ๋วๆ ที่ตักแบ่งแยกออกมา
อาหารที่มักจะนำมาให้ทดลองชิมก็มีแป้งต๊อก, จับแช, บุลโกกิ, คาลบิ, แฮมุลทังและอื่นๆ อีกมากมายที่พวกเขาอยากจะขาย! แม้เธอจะไม่ได้ซื้ออาหารที่กล่าวมาใส่ตะกร้า เขาก็ยังให้ฟรี แค่เดินเข้าไปและขอลองชิมเท่านั้นเอง ถ้าอร่อยก็ซื้อกลับบ้านได้โดยไม่ต้องห่วงว่า มันจะอร่อยหรือเปล่านะ? ไปถึงเกาหลีแล้วอย่าเขินอาย เดินไปขอชิมได้เลยค่ะ
8. เสื้อผ้าและของใช้ในบ้านมือสอง " ฟรี "
ถ้าเธอต้องย้ายสำมะโนครัวมาอยู่เกาหลีแบบถาวร / เรียนหรือทำงานที่ต้องอยู่นานหลายปี แน่นอนว่าต้องทำสัญญาเช่าห้องพัก แต่ก็ได้แค่ห้องเปล่า ต้องหาเสื้อผ้า ตู้เตียงเอาเอง ชีวิตเศร้าไปอีก -.- ไม่มีใครขนตู้เก่าๆ มาจากไทยหรอก ต้องมาหาซื้อเอาดาบหน้าที่นี่ แต่ไม่กลัวจะต้องเสียเงินเยอะ เพราะเรามีเว็บไซต์ craigslist มาแนะนำค่ะ
เว็บไซต์นี้จะเป็นสื่อกลางของคนต่างชาติ ระหว่างคนที่กำลังย้ายออกจากเกาหลี - คนที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่เกาหลี คนย้ายออกจะเตรียมทิ้งเฟอร์นิเจอร์ที่เคยใช้ แต่จะทิ้งไปเฉยๆ ก็กระไรอยู่ พวกเขาจึงมาประกาศหาคนรับช่วงต่อในเว็บไซต์
แม้จะต้องวัดดวงว่าจะมีของที่เราต้องการหรือไม่ / คุณภาพของจะแย่หรือเปล่า / แย่งของดีกับผู้ใช้คนอื่นๆ แต่ก็ยังดีกว่านอนบนพื้นปูนแข็งๆ ไม่มีหมอนให้หนุน ไม่มีหมอนข้างให้กอดหรอกน่า จริงไหม =w=
ถ้าสนใจ เข้าไปดูที่เว็บไซต์
http://seoul.craigslist.co.kr/
ได้เลยค่ะ
9. อินเตอร์เน็ตไวไฟในกรุงโซล " ฟรี "
อย่างที่รู้กันว่า ประเทศเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวไปไวเหมือนกระโดด โดยเฉพาะการทำสิ่งต่างๆ ด้่วยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือไวไฟ Wi-fi นั่นเอง!ไวไฟส่งสัญญาณมาจากเร้าท์เตอร์ ในเกาหลีมีเร้าท์เตอร์ยอดนิยมหลายแบบ แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ เร้าท์เตอร์บางชิ้นจะตั้งพาสเวิร์ดแบบง่ายๆ ติดมากับเครื่อง และบางคนก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเปลี่ยนรหัสใหม่! ถ้าโชคดีมากพอ สุ่มๆ หมายเลขดูอาจจะได้เล่นอินเตอร์เน็ตฟรีก็เป็นได้ แฮ่!แต่ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายใจ ไม่โอเค.... ( เป็นนางเอกละครที่แท้จริง ) ก็ยังมีฟรีไวไฟแบบถูกกฎหมายให้เลือกเล่นมากมาย เช่น หากเธอไปจิบกาแฟในร้าน มักจะมีรหัสไวไฟเขียนอยู่ข้างใต้ใบเสร็จแทบทุกร้าน แค่ใส่รหัสก็เล่นได้เลยบางสถานที่ในกรุงโซลจะมีป้ายเขียนว่า " free wifi " ให้เล่นฟรีๆ เรียกได้ว่าเดินไปที่ไหนก็เจอ เพราะประเทศนี้มีจุด Wi-fi hotspot ถึง 10,000 จุดเลยทีเดียว และแน่นอนว่าฟรี! ไม่มีเปิดหน้าให้สมัครสมาชิกหรือล็อกอินใดๆ ทั้งสิ้น แค่กด Connect ก็ท่องโลกออนไลน์ได้คล่องปรื๋อเหมือนอยู่ไทยเลยค่ะ ^^
========================
อ่านแต่ละข้อแล้วก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ( นิดหน่อย ) ว่า อย่างน้อยโลกนี้ก็ไม่ได้ทุนนิยมจนเกินไป ยังพอมีบางอย่างที่ให้ฟรี เป็นน้ำใจให้กับเพื่อนมนุษย์บ้าง *ปาดน้ำตา* หลายข้อมาจากกลุ่มอาสาสมัครที่ไม่หวังผลตอบแทนและกำไร เช่น คอร์สสอนภาษา, โทรศัพท์ช่วยนักท่องเทีย่ว, เป็นไกด์ทัวร์รอบกรุงโซล แม้จะมองได้ว่าเขาต้องการเผยแพร่วัฒนธรรม แต่ก็ทำให้เรามีความรู้รอบตัว จำไว้ก็ไม่เสียหลายหรอกนะ ><
ในประเทศไทยเองก็มีเรื่องทำนองนี้อยู่บ้าง เช่น สอนภาษาไทยให้ต่างชาติฟรี, เป็นไกด์พาชมสถานที่สำคัญในกรุงเทพฟรี แต่ที่เจอบ่อยสุดคือต่างชาติถามทาง -.- ( ใช่ไหม สารภาพมาซะดีๆ ) ถือว่าแลกเปลี่ยนความไม่รู้ซึ่งกันและกัน
อย่าปล่อยให้วันหยุดของเธอต้องเหี่ยวเฉา ไม่ต้องรอให้รวยก็เก็บเงินไปเที่ยวเกาหลีได้ ว่าแล้วก็แบกเป้ไปหาประสบการณ์ให้ชีวิตกันดีกว่า ^^
========================
Cr. : 10 Things to Get Absolutely FREE in Seoul! [ seoulistic ]
http://seoulistic.com/things-to-do-in-korea/10-things-to-get-absolutely-free-in-seoul/
บทความที่เกี่ยวข้อง
8 สถานที่สุดโรแมนติกในโซล <♥ In Love In Seoul ♥>
https://sistacafe.com/summaries/1042
8 Street Food สุดอร่อยของเกาหลี ในย่าน "มยองดง"
https://sistacafe.com/summaries/8277
ไปเกาหลีห้ามพลาด! 6 แบรนด์เครื่องสำอาง ที่โต๊ะเครื่องแป้ง Pantip แนะนำ
https://sistacafe.com/summaries/7044