สวัสดีค่ะทุกคน☺
เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดในช่วงนี้ส่งผลกระทบให้สถานพยาบาลโรงพยาบาล และ สภากาชาดไทยเลือดลดลงเป็นจำนวนมากจึงอยากจะขอเชิญชวนมาร่วมกันบริจาคโรหิตเพื่อให้เลือดเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยเราได้นำสถานที่รับบริจาคโลหิตและคุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิตมาฝากกันค่ะ
❤..........❤..........❤..........❤..........❤
สถานที่รับบริจาคโลหิต
สภากาชาดไทย

สามารถบริจาคโลหิตได้ที่
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
ศูนย์รับบริจาคโลหิตและพลาสมา
สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม บางแค
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร02 256 4300
โรงพยาบาลราชวิถี

นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังมีหน่วยรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่จึงขอเชิญชวนองค์กร หน่วยงาน หรือบริษัทที่มีจำนวนผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปติดต่อขอให้ทางโรงพยาบาลออกหน่วยเคลื่อนที่ไปรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่ได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02 354 8108 ต่อ 3026
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

โรงพยาบาลศิริราช

โรงพยาบาลรามาธิบดี

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ห้องบริจาคโลหิต โรงพยาบาลรามาธิบดี
ชั้น 2 อาคารหลัก (อาคาร 1)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร
02 201 1229 ต่อ 202
ชั้น 3 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร
02 200 4208
คุณสมบัติผู้บริจาคโลหิต
1.อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ผู้ที่มีอายุ 17 ปี
ไม่ถึง 18 ปี ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง
2.
ผู้บริจาคโลหิตเป็นครั้งแรก ถ้าอายุเกิน 55 ปี – 60 ปี
และให้อยู่ในดุลพินิจของแพทย์ และ พยาบาล
4.
น้ำหนักตั้งแต่ 45 กิโลกรัม ขึ้นไป
5.
สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมที่จะบริจาคโลหิต
6.
นอนหลับพักผ่อนเพียงพอในเวลาปกติของตนเอง
ในคืนก่อนวันที่มาบริจาคโลหิต
7.
ไม่มีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคตับโรคปอดโรคเลือด
โรคมะเร็งหรือมีภาวะโลหิตออกง่ายและหยุดยาก
8.
ไม่มีอาการท้องเสีย ท้องร่วง ใน 7 วันที่ผ่านมา
9.
สตรีไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
10.
น้ำหนักต้องไม่ลดผิดปกติในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
11.หากรับประทานยาแอสไพรินยาคลายกล้ามเนื้อหรือยาแก้ปวดอื่น ๆต้องหยุดยามาแล้ว 3 วันถ้าเป็นยาแก้อักเสบหรือยาอื่น ๆต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน
12.ไม่เป็นโรคหอบหืด, ผิวหนังเรื้อรังวัณโรค หรือภูมิแพ้อื่น ๆ
13.
ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวานหัวใจ, ตับ, ไต, มะเร็ง,
ไทรอยด์โลหิตออกง่าย-หยุดยาก หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ
14.
หากถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนหรือรักษารากฟัน
ต้องทิ้งระยะอย่างน้อย 3 วัน กรณีผ่าฟันคุด
ให้เว้นอย่างน้อย 7 วันจนกว่าแผลจะหายสนิทไม่มีอาการอักเสบ
15.
หากเคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ต้องเกิน 6 เดือนผ่าตัดเล็ก ต้องเกิน 7 วัน
16.ท่านหรือคู่ครองของท่านต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์
17.
ต้องไม่มีประวัติยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษต้องเกิน 3 ปี และมีสุขภาพดี
18.
หากเจาะหู, สัก, ลบรอยสักหรือฝังเข็มในการรักษาโดยใช้เครื่อมือร่วมกันหรือในสถานที่ที่มีคุณภาพความสะอาดต่ำอาจติดเชื้อโรคทางกระแสโลหิตจึงควรงดบริจาคอย่างน้อย 1 ปี
แต่หากกระทำด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่สะอาดปราศจากเชื้อ โดยผู้ชำนาญและเป็นวัสดุที่ใช้ครั้งเดียวเฉพาะตัวเว้นระยะเวลาให้แผลอักเสบหายสนิทอย่างน้อย 7 วัน
19.หากมีประวัติเจ็บป่วยและได้รับโลหิตของผู้อื่นต้องเกิน 1 ปี
20.หากมีประวัติเป็นมาลาเรียถ้าเคยเป็นต้องหายมาแล้วเกิน 3 ปีหากเคยเข้าไปในพื้นที่ ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชุมต้องทิ้งระยะอย่างน้อยเกิน 1 ปี จึงบริจาคโลหิตได้
22.
หากเคยพำนักอยู่ในประเทศอังกฤษรวมระยะเวลา 3 เดือน
ในระหว่างปี พ.ศ.2523-2539หรือ เคยพำนักในยุโรปรวมระยะเวลา 5 ปี
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523-ปัจจุบัน งดรับบริจาคโลหิตถาวร
23.
หากเคยได้รับวัคซีน เพื่อป้องกันโรค หรือเคยรับเซรุ่ม
ระยะเวลาที่งดรับบริจาคโลหิตขึ้นกับชนิดขอบวัคซีนหรือ เซรุ่ม
24.
สตรีอยู่ระหว่างมีรอบเดือนไม่เป็นข้อห้ามในการบริจาคโลหิต
ถ้าขณะนั้นสุขภาพแข็งแรงมีโลหิตประจำเดือนไม่มากกว่าปกติ
ไม่มีอาการอ่อนเพลียใด ๆ
ตรวจความเข้มข้นโลหิตผ่านก็สามารถบริจาคโลหิตได้
25.
ก่อนบริจาคโลหิต ควรงดอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่
ข้าวข้าวหมู ของทอด ของหวาน แกงกะทิต่าง ๆ เป็นต้น
❤..........❤..........❤..........❤..........❤