1. SistaCafe
  2. #งี่เง่าจนแฟนขู่ขอเลิก! 7 วิธีเลิกนิสัย 'โลกหมุนรอบตัวเอง' ของสาวๆ เมื่อมีแฟน ให้รักยืนยาวตลอดรอดฝั่ง

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafe' จอมวีน ขี้เหวี่ยง 'ทุกคนนนนกี่ครั้งแล้วที่คุณแฟนตัวดีอยากจะขอลาออกจากตำแหน่ง' แฟน 'เพราะทนนิสัยงี่เง่าเอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลของเธอไม่ไหว?? ก็เข้าใจนะว่าในฐานะผู้หญิงบอบบางน่ารักน่าทะนุถนอม ( ? ) ก็อยากให้ผู้ชายมาเอาใจ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ซึ่งบางคนก็ติดมาจากที่บ้าน เป็นน้องคนเล็กหรือลูกคนเดียวที่พ่อแม่ตามใจตลอดเวลา ( ก็ลูกเขาอะเนอะ ) แต่พอเปลี่ยนมาอยู่สถานะคนรัก เธอก็ดันเอานิสัยนี้มาด้วยน่ะสิ ถ้าพูดง่ายๆ ก็เห็นแก่ตัวนั่นแหละค่ะ(;⌣̀_⌣́)แฟนจะเหนื่อย เบื่อ เพลีย เครียดยังไงไม่สน ต้องมาทำตามที่เธอต้องการก่อน ทะเลาะจนจะเลิกก็หลายครั้งหลายครา จนความสัมพันธ์ใกล้จะพังทลายเต็มที จนวันนึงเธอก็รู้สึกผิด อยากแก้ไขรูรั่วนี้ให้ดีขึ้น ให้สองคนได้จับมือกันไปต่อ แต่จะเริ่มซ่อมจากตรงไหนก่อนดีล่ะ??ถ้าสาวคนไหนอยู่ในสถานการณ์นี้แล้วยังคิดไม่ตก ขอเชิญมาอ่าน' 7 วิธีเลิกนิสัยโลกหมุนรอบตัวเองเมื่อมีแฟน ให้รักยืนยาวตลอดรอดฝั่ง 'จะจับมือใช้ชีวิตคู่ต่อ หรือต้องแยกทางใครทางมัน รู้กันในบทความนี้เลย!


1. อย่างแรก ต้องยอมรับตัวเองก่อนว่า ' นิสัยไม่ดีจริงๆ '

ความผิดจะได้รับการแก้ไขไม่ได้เลย ถ้าตัวต้นเหตุไม่รู้ว่า ' ตัวเองทำผิดจริงๆ ' เสียก่อน แน่นอนว่าเป็นเรื่องยาก หลายคนในโลกนี้ก็ยังทำไม่ได้ กับการมองตัวเองหน้ากระจกแล้วยอมรับว่า' ฉันมันนิสัยไม่ดีจริงๆ นั่นแหละ '


แต่มันก็คือขั้นแรกของการเรียนรู้! ไม่ว่าจะความสุข เหงา เศร้า ทุกข์ เราต้องรู้ว่าข้อเสียของตัวเองคืออะไร แล้วจึงจะพร้อมพัฒนาตัวเอง ก้าวไปสู่ขั้นต่อไปได้นั่นเอง



ถ้ายังไม่กล้าถามแฟนตรงๆ เพราะกลัวการปะทะ ลองเริ่มจากลิสต์ข้อดี-ข้อเสียของตัวเองลงในกระดาษ เพื่อไม่ให้เป็นการอวยตัวเอง แนะนำให้ถามตรงๆ กับพ่อแม่ พี่น้องที่บ้าน แก๊งเพื่อน หรือผู้ใหญ่ที่สนิทกันว่าเธอมีนิสัยไหนที่ควรปรับปรุงบ้าง ( แต่ข้อแม้คือถ้าเขาพูดออกมาแล้ว ก็ต้องยอมรับให้ได้ด้วยนะ )

ยิ่งถามหลายคนยิ่งดี เพื่อดูว่าข้อเสียไหนที่ทุกคนเห็นตรงกัน ตรงนั้นแหละที่เธอต้องรีบปรับปรุงด่วนที่สุด เพราะมันจะกระทบความสัมพันธ์ถึงจุดแตกหักอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วค่ะ

2. ลองคิดในมุมของแฟนว่า ถ้าโดนทำนิสัยแบบนี้ใส่ จะรับได้หรือเปล่า

ข้อนี้ก็ง่ายๆ เลย คิดในทฤษฎีย้อนกลับว่า ถ้าเธอไม่ใช่ฝ่ายที่งี่เง่า แต่สลับตำแหน่งเป็นคุณแฟนของเธอนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ เธอเหนื่อยมาจากเรียนหรือทำงานก็ไม่สนใจ ชอบออกคำสั่งให้ทำนั่นนี่ให้ พอบอกยังไม่พร้อมก็ตะคอกใส่ งอน หน้าตาบูดบึ้ง ไม่คุยด้วยเป็นสัปดาห์

แบบนี้เธอจะทนอยู่ด้วยได้หรือเปล่า? เชื่อว่าหลายคนก็ส่ายหน้าและพร้อมตอบทันทีเลยว่า ' ไม่ ' เอ้า ก็รู้ตัวเองนี่นา แล้วทำไมไปกระฟัดกระเฟียดกับแฟนล่ะ?



อยากให้ความสัมพันธ์ฉันคู่รักยืนยาว การเข้าใจอีกฝ่าย หรือที่โบราณเรียกว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา ยังใช้ได้เสมอไม่ว่ายุคไหน มนุษย์ทุกคนมีหัวจิตหัวใจ แม้แฟนของเธอจะเป็นผู้ชายนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่เชื่อเถอะว่า ในสมองเขาก็ต้องเจ็บจี๊ดหรือเสียใจกับสิ่งที่เธอทำอยู่แน่นอน ซึ่งผู้ชายบางคนไม่มีสัญญาณเตือนด้วย เก็บสะสมอย่างเดียว รู้อีกทีเธอก็โดนบอกเลิกแล้วเรียบร้อย

ดังนั้นในครั้งต่อไปที่เธอคิดจะเหวี่ยง กรี๊ด หรืองอนไร้เหตุผลใส่เขา ก็คิดด้วยว่าเธออยากมีแฟนที่ทำแบบนี้ใส่เธอด้วยไหม จะได้ยุติธรรม? ถ้ามีคำตอบในใจ ก็จะได้รู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้นกับเขาอีกค่ะ



3. เปิดโอกาส นั่งจับเข่าคุยอย่างจริงจัง ให้แฟนระบายความในใจออกมา

ถ้ารู้ตัวว่ามีบรรยากาศมาคุ เหมือนมีควันดำๆ ลอยเหนือเธอทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา มันจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม 100% แน่นอน ถ้าไม่มีพิธีกรรมที่เรียกว่า ' การเปิดใจคุย '

ตอนคุยจริงๆ คงไม่ยากเท่าไหร่ แต่ตอนจะเกริ่นเริ่มน่าจะยากมากๆ สำหรับซิสหลายคน ( เราเองก็เป็น ) แต่ยังไงก็ต้องรวบรวมความกล้า เธอเองยังวี้ดๆ แว้ดๆ ใส่เขาแบบไม่ต้องคิดได้เลย เขาเองก็ควรมีสิทธิ์จะรีแอ็กตอบโต้กับสิ่งที่เราพูดเหมือนกัน



เลือกมาสักวันที่เธอพร้อม สูดลมหายใจลึกๆ ทำใจให้สบาย แล้วพูดไปเลยว่า" เรารู้ว่าตอนนี้ระหว่างเรามันอึดอัด เธออยากเปิดใจหรือระบายอะไรไหม พูดได้เลย เราไม่โกรธ "ใช้น้ำเสียงเรียบ ธรรมดาที่สุด เพื่อให้เขากล้าพูดความจริงออกมา

ถ้าแรกๆ เขายังอ้ำอึ้งอยู่ก็ไม่ต้องไปเค้น บางคนอาจต้องให้เวลาเขาหน่อย แต่สุดท้ายถ้าเขารู้สึกว่าไว้ใจเธอได้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะพรั่งพรูออกมาเอง คราวนี้จะได้รู้กันไปเลย ว่าปัญหาที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่




4. เมื่อเริ่มจะงี่เง่า ให้ฉุกคิดสักนิดว่า ' เธอไม่ได้ถูกทุกเรื่องนะ '

นิสัยคนเราไม่ได้แก้กันง่ายๆ ถ้าพื้นเพเธอเป็นคนเอาแต่ใจ ยึดความคิดตัวเองเป็นหลัก อยากวีนทุกคนที่ไม่ได้ดั่งใจ ถึงพยายามยับยั้งตัวเองแค่ไหน ก็คงมีบางสถานการณ์ที่เธอน็อตหลุดจนอยากจะกรี๊ดออกไปว่า" โอ๊ย เธอมันโง่ แค่ฟังความเห็นของฉันก็จบแล้วไหม "

แต่ก่อนที่จะหลุดคำเหล่านั้นออกไป เราขอให้เธอเบรกความคิดนั้นไว้ก่อน เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนถูกทุกเรื่อง ยิ่งคนที่ชอบมั่นๆ เนี่ย บางทีอาจเป็นคนที่รู้น้อยที่สุดแล้วก็ได้ ใครจะรู้



ในครั้งหน้าที่เธอเตรียมจะแว้ดด่า หรือข่มแฟน ให้ฉุกคิดสักนิดว่า" เดี๋ยวก่อน... หรือที่แฟนพูดมาจะถูก มันก็ดูมีเหตุผลนะ "หรือ" เออ หรือฉันจะคิดผิด "ที่พูดมาทั้งหมดคือให้เธอเปิดใจกว้างมากขึ้น


เพราะมุมมองของแต่ละคนต่างกัน ยิ่งบางประเด็นที่เป็นนามธรรมมากๆ มันยิ่งไม่มีฝ่ายไหนผิดถูกชัดเจนด้วยซ้ำ ปรับตัวเองให้ฟังความเห็นคนอื่น เคารพพื้นเพที่มาของเขาให้มากขึ้น เผลอๆ ความสัมพันธ์อาจจะดีขึ้นพรวดพราดเลยก็ได้นะ



5. เปิดใจให้กว้าง ยอมรับความคิดเห็นจากฝั่งตรงข้าม อย่ายึดติดในกรอบแคบๆ

ถึงจะเป็น ugly truth หรือความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากรับฟัง แต่มนุษย์แทบททุกคนมีอคติส่วนตัว ที่จะเข้าข้างสิ่งที่ตัวเองคิด กระทำ และอิงทุกสิ่งอย่างที่' ถูกต้อง 'จากที่ตัวเองรับรู้ เข้าใจ จากสังคมที่ตัวเองเติบโตขึ้นมา ทั้งที่โลกภายนอกมันกว้างใหญ่กว่านั้นมาก


ยิ่งถ้าอยู่ในกลุ่มที่มีค่านิยม ทัศนคติเดียวกันหมดมาตั้งแต่เกิดจนโตหลายสิบปี ก็ไม่แปลกที่จะกลายเป็นคน ' แคบ ' และตัดสินผู้อื่นไปก่อน พอมีแฟน ถ้าแฟนคิดต่างจากตัวเองก็ด่าทันที ฉันถูกสุด เธอสิผิด!



หากมีการคุยหรือถกเถียงประเด็นอะไรสักอย่างขึ้นมา โดยเฉพาะประเด็นที่หาจุดลงชัดเจนไม่ได้ เช่น ศาสนา ความเชื่อ ไสยศาสตร์ การเมือง หากแฟนคิดต่างกับเธอ ขอให้ใจเย็นๆ แทนที่จะฉอดใส่จนเขาไม่อยากพูดกับเธออีก ลองให้เขาบอก' เหตุผลที่ตอบแบบนั้นออกมา 'เสียก่อนว่าสามารถทำความเข้าใจได้ไหมเพราะบางคนเขาก็เกิดและโตมากับ mindset ที่เรานึกไม่ถึงจริงๆ ตราบใดที่ไม่บิดเบี้ยวขนาดผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ผิดมนุษยธรรม เห็นดำเป็นขาวแบบสุดขั้ว บางทีการละไว้แล้วไม่ต้องไปยุ่งกับมัน อาจจะดีกับชีวิตคู่มากกว่าก็ได้นะคะ

6. หากต้องตัดสินใจอะไรสำคัญๆ ลองถามความเห็นแฟนดูบ้าง

สาวๆ หลายคนใช้ชีวิตต่อสู้ ดิ้นรน แก้ปัญหาต่างๆ มาด้วยตัวเองตั้งแต่เด็กจนโต บางคนต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งข้อดีก็มีตรงที่เป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบสูง แต่บางรายก็จะพ่วงมาด้วยนิสัยชอบควบคุม ความคิดของฉันดีที่สุด เพราะฉันคิดแบบนี้ไง ฉันถึงพาครอบครัวรอดมาได้ ( เชื่อเถอะว่ามีคนคิดแบบนี้จริงๆ )

พอมีแฟนที่ควรแชร์ความคิดกันก็ไม่ชิน จะทำอะไรก็ใช้ความคิดตัวเองนำไปก่อน บางเรื่องต้องปรึกษากันสองคน เธอก็ตัดสินให้แล้วเรียบร้อยเสร็จสรรพซะงั้น



เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเธอทำทุกสิ่งได้ด้วยตัวเองแล้ว เขาจะค่อยๆ ห่างออกมา เงียบ ห่างเหิน เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้ว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายก็อาจไปถึงจุดแตกหักในสักวัน ลองเริ่มกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น


ในครั้งหน้าที่มีการตัดสินใจ อาจจะเป็นเรื่องเล็กอย่างเลือกสีรองเท้า หรือเรื่องใหญ่อย่างลาออก เปลี่ยนที่ทำงาน ให้เขาออกความเห็นดูบ้าง แม้ว่าสุดท้ายแล้วก็อาจไม่ได้ใช้ความคิดเขาหรอก แต่อย่างน้อยก็ให้พื้นที่เขาได้พูด ให้ความสัมพันธ์ไม่เผด็จการจนเกินไป ดีกับสองฝ่ายในระยะยาวแน่นอน เชื่อเรา



7. ให้พื้นที่ส่วนตัวกับแฟน อย่าทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเกินไป

หนึ่งในนิสัยของคนที่เห็นแก่ตัว โลกหมุนรอบตัวเอง คือเห็นคนรอบตัวโดยเฉพาะแฟนเป็น ' สิ่งของในครอบครอง ' ที่ต้องทำตามใจเธอทุกอย่าง สั่งให้มาต้องมา ต้องตัวติดกับเธอ 24 ชั่วโมง จะมาอารมณ์เสียหน้าบูดใส่ไม่ได้ ถึงมีนัดสำคัญอะไร ถ้าเธออยากให้มาหาก็ต้องมา


แรกๆ รักยังหวานก็ยังพอมองข้ามได้อยู่หรอก แต่ผ่านไป 2 ปี 3 ปีก็ยังนิสัยเดิม เพื่อนฝั่งผู้ชายเลิกคบหมด งานการไม่คืบหน้า ( เผลอๆ ไม่มีงานทำ ) เพราะต้องคอยวิ่งตามพระประสงค์เจ้าหญิง มันก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ เธอก็คงไม่อยากวิ่งคอยรับใช้ใครหรอกใช่ไหมล่ะ?



อยากให้รักยืนยาว ต้องเลิกนิสัยอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ' ตลอดเวลา 'ให้ได้ก่อน ความรักของคนสองคนก็เหมือนวงกลมสองวงที่ทับซ้อนกัน มีพื้นที่ของเธอ พื้นที่ของเขา และพื้นที่ของ' เรา 'ถ้าทุกตารางเมตรมีเธอแทรกอยู่เต็มไปหมด แม้จะเป็นคน extrovert ชอบสังคมแค่ไหนก็อึดอัด


เพราะทุกคนก็อยากมีพื้นที่ส่วนตัว ให้เขาไปมีชีวิตของเขา เจอเพื่อนฝูง ทำสิ่งที่ชอบโดยไม่ต้องมีเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวบ้าง เชื่อเถอะว่า ในบางโมเมนต์ การห่างกันยังดีกว่าอยู่ด้วยกันเสียอีก



----------------------------------------


ความสัมพันธ์ของคนสองคน จะหยุดลงหรือได้ไปต่อ หลักสำคัญลำดับต้นๆ คือการ ' ใส่ใจความรู้สึกของอีกฝ่าย ' ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชายหรือหญิงก็ตาม เดี๋ยวนี้ชายหญิงมีสถานะทางสังคมแทบไม่ต่างกัน และมีการรณรงค์ถึงระบบชายเป็นใหญ่ที่ครอบงำกันมาช้านานว่า " ผู้ชายต้องแข็งแกร่ง ไม่ต้องมีความรู้สึกก็ได้ แค่เลี้ยงภรรยากับลูกได้ก็พอ " แต่ที่จริงเพศชายก็มีความรู้สึก มีความอ่อนไหว อยากทำตามความต้องการของตัวเองเช่นกัน ( ไม่นับผู้ชายที่เห็นแก่ตัวนะ )



การที่เธอทำให้เขาต้องคอยรองรับอารมณ์อยู่ตลอดเวลา แรกๆ ก็รับได้ นานวันเข้ามันจะกลายเป็นพิษหรือ Toxic Relationship ที่ยิ่งอยู่ยิ่งเหนื่อย สุดท้ายก็ต้องโบกมือลาจากกัน ดังนั้นสาวๆ ทั้งหลายลองลดทิฐิลง เข้าหาเขา ให้โอกาสเขาแสดงตัวในฐานะ ' คนรัก ' มากกว่า ' ผู้รับใช้ ' ให้มากขึ้น เชื่อว่าความรักของเธอจะกลับมาสวยงาม หวานชื่นขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน ( ˘⌣˘)♡(˘⌣˘ ) สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้านะค้า บ๊ายบายยย °˖✧◝(⁰▿⁰)◜✧˖°


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1