ฮาโหลสาวๆเธอเคยมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับกันบ้างมั้ยคะถ้าใครที่เคยเป็นนั้น เธอจะรู้ว่ามันทรมานมากๆ อึดอัดสุดๆโดยเฉพาะในคืนที่พรุุ่งนี้เป็นวันพิเศษ ที่เราเข้านอนเร็วมากๆ แต่เกือบจะเช้าตาก็ยังค้าง นอนไม่หลับ แน่นอนว่าการนอนไม่หลับนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ ไม่ว่าใครก็คงมีช่วงเวลาแบบนี้กันทั้งนั้นแต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้มันยืดเยื้อจนเกินไปเพราะนอกจากเราจะไม่มีแรงในการทำสิ่งต่างๆ แล้ว มันยังเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน หงุดหงิดโมโหง่ายอีกด้วยดังนั้นรับรองว่าทำแล้วนอนไวขึ้นแน่นอน เอาล่ะ ถ้าเราพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
#1 ใจเย็นๆ และผ่อนคลาย
เรารู้ว่า
เมื่อเธอนอนไม่หลับ สิ่งที่เธอทำก็คือ " การคิดฟุ้งซ่าน "
โดยเฉพาะถ้าวันต่อไปเป็นวันสำคัญด้วยแล้วล่ะก็ เธอจะยิ่งคิดมากเป็นพิเศษ เช่น คิดว่าแล้วพรุ่งนี้จะมีแรงมั้ย โทษตัวเองว่าทำไมนอนไม่หลับ บลาๆ สารพัดเรื่อง แต่ความจริงก็คือถ้าเธอสังเกตให้ดี
เธอจะพบว่ายิ่งเราคิดมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งนอนไม่หลับ
ดังนั้นทำตัวตามสบาย อย่าฝืนตัวเองมากจนเกินไปนะคะ และขอให้จำไว้ว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ใครๆ ก็สามารถนอนไม่หลับได้ มันคือเรื่องธรรมชาตินะคะ
#2 อาบน้ำอุ่น
เมื่อเธออาบน้ำอุ่น หรือแช่น้ำอุ่นก่อนนอนมันจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกายของเรา ซึ่งเมื่ออาบน้ำเสร็จ มันก็จะทำให้ร่างกายของเราจะเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้สมองเข้าสู่โหมดของการพักผ่อนได้ไวขึ้นเรียกว่าหัวถึงหมอนก็นอนเลยค่ะ โดยต้องบอกเลยว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลดีมากๆ สำหรับเรา โดยเราแนะนำว่าเธอควรปรับอุณหภูมิน้ำอุ่นให้สูงประมาณ 37 องศาเซลเซียสเพราะถ้าน้ำเย็นเกินไปก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าที่ควร ในทางกลับกันถ้าสูงเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวแห้งได้ ดังนั้นหลังอาบน้ำก็อย่าลืมทาครีมที่ผิวด้วยนะคะ
#3 ลองปิดสมอง
ส่วนใหญ่อาการนอนไม่หลับของเรา มักเกิดจากการที่เรามีความเครียด และคิดมากจนเกินไป ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนเข้านอน ( หรืออาจจะก่อนอาบน้ำร้อน )
ก็ให้เธอเขียนบันทึกความคิดทั้งหมดของเธอลงไปในกระดาษ
เขียนทบทวนตลอดทั้งวัน เ
พียงเท่านี้เมื่อสาวๆ ล้มตัวลงนอนความคิด เรื่องวุ่นวายในสมองของเธอก็จะหายไป
แต่ถ้าความคิดเหล่านั้นยังคงอยู่ ก็แนะนำว่า
ให้ลองคิดหาถึงเป้าหมายดีๆ ที่เธอต้องการทำ รวมถึงเตือนตัวเองว่าเราไม่ได้สามารถควบคุมทุกอย่างได้
แล้วเธอก็จะค่อยๆ ปล่อยวางมันได้นะคะ
#4 ปิดโทรศัพท์
ยิ่งมืดเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งนอนหลับได้มากขึ้นเท่านั้น สาเหตุเป็นเพราะโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์หรือทีวีนั้น
ปล่อยรังสีแสงสีน้ำเงิน หรือบลูไลท์ออกมา โดยมันจะเข้าไปยับยั้งเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนในร่างกายที่ทำให้เรานอนหลับ
ดังนั้นก่อนนอนสักครึ่งชั่วโมงก็ให้ปิดทุกอย่างให้หมด ทำให้มันมืดสลัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะนอนหลับได้ไวขึ้นแล้วนะคะ
#5 อ่านหนังสือ
สิ่งที่ทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นก็คือการอ่านหนังสือ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะหนังสือนั้นเคลือบไปด้วย " ยานอนหลับ " แบบที่ใครๆ พูดกัน แต่เป็นเพราะ
การอ่านนั้น สามารถลดความเครียดของเราได้เป็นอย่างดี
โดยมันจะ
ทำหน้าที่ในการดึงเราออกจากสิ่งที่ทำให้เราหนักใจ
ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ดังนั้นถ้าใครเป็นสายหนอนหนังสือก็ห้ามพลาด แต่ทั้งนี้แนะนำว่า
ให้อ่านหนังสือเนื้อหาเบาๆ ผ่อนคลาย ที่ไม่น่าตื่นเต้นมากนักมากอ่านจะดีกว่า
ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นนอนไม่หลับแทนนะคะ ( เพราะต้องอ่านให้จบเล่มก่อนถึงจะนอนได้! อิอิ )
#6 งดกาแฟตั้งแต่เที่ยง
สาวๆ รู้หรือไม่ว่าคาเฟอีนนั้นมีผลกับเรานานถึง 6 ชั่วโมง?ดังนั้นแนะนำว่าพยายามดื่มคาเฟอีนให้น้อยที่สุดโดยแก้วสุดท้ายนั้นไม่ควรเกินเวลาบ่าย 2 โมง ไม่อยากนั้นคาเฟอีนจะมีผลต่อระบบภายในของเราทำให้เราดีด ไม่อยากนอน นอกจากนี้ยังแนะนำว่าให้เลือกจิบเครื่องดื่มชาสมุนไพรร้อนๆ ที่ไม่มีคาเฟอีน ในตอนเย็นจะดีกว่า เพราะบางตัวมีคุณสมบัติที่ทำให้เรานอนหลับได้จริงๆ นะคะ เช่น ชาคาโมมายล์ เป็นต้น
#7 ลองหาอาหารเสริมมาทาน
วิธีนี้อาจจะต้องได้รับการปรึกษาจากหมอหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ โ
ดยอาหารเสริมที่ช่วยได้ก็คือ
" แมกนีเซียม "
โดยมันถือเป็นแร่ธาตุที่ช่วยต้านความเครียดและมีผลต่อการสงบประสาทโดยตรง โดย
แนะนำว่าให้กินแมกนีเซียมก่อนนอนประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมันจะช่วยกระตุ้นทำให้เรานอนหลับง่ายขึ้น
นะคะ
นอกจากนี้ " เมลาโทนิน " และ " แอล - ธีอะนีน " ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าเรื่องพวกนี้จำเป็นต้องปรึกษาหมอก่อนทุกครั้งนะคะ ห้ามซื้อมาทานเองอย่างเด็ดขาดค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับ 7 วิธีแก้อาการนอนไม่หลับ ที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ สำหรับสาวๆ คนไหนตาค้างจนถึงเช้าบ่อยๆ ก็ลองเอาไปใช้กันนะคะ รับรองว่าเธอจะหลับง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ
เอาล่ะ แล้วครั้งหน้าก็อย่าลืมติดตามเรานะคะ วันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย
Cr. TIPS TO FALL ASLEEP FASTER (AND STAY THAT WAY)
http://www.savingeveryday.net/10-tips-fall-asleep-faster-stay-way/