จุดเริ่มต้นของความรักครั้งใหม่

Error: geo_location

สวัสดีค่ะทุกคน! หลายๆ คนคงต้องมีความรักกันมาบ้าง แต่กว่าจะผ่านจุดๆ นั้นกันมาได้ทุกคนคงต้องเสียน้ำตากันมาบ้างแล้วเพราะรักกันใหม่ๆ มันก็จะดี แต่เมื่อมันมาถึงจุดนึงที่จะต้องหยุดก็เจ็บกันไม่น้อย ค่ะ! ตอนเขียนบทความนี้ก็เสียน้ำตาเหมือนกันค่ะ

แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน

!!เข้าเรื่องค่ะ!!

เรื่องราวที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มชาวคาซัคสถาน และ สาวชาวไทยที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จีนแล้วไปเจอกันโดยบังเอิญ (เราไม่ใช่คนเขียนนิยายดังนั้น เราขอเล่าตามความเป็นจริงนะคะ ถ้าไม่รู้เรื่องหรือผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

รูปภาพ:

จุดเริ่มต้นทุกอย่างเกิดจากที่เราอยากมาเรียนที่จีนนี่เองเลยขอทุนแล้วได้ทุนมา

เจอกันครั้งแรก!!

เราได้เข้ามาเรียนวันแรก แล้วในกลุ่มแชทของเราคุยกันว่า ''วันนี้ตามสอบที่ไหน'' ก็มีผู้ชายคนนึงส่งตอบเรามาว่า ''สอบที่ห้องเรียนคาบที่ 2" เราก็ไม่ได้อะไรก็ขอบคุณเขาไป พอมาในห้องถึงเวลาสอบเราก็ไปสอบคนแรกแล้วเราก็กลับมานั่งที่ แล้วก็มีผู้ชายคนนึงวิ่งเข้ามานั่งในห้องข้างหน้าเรา และเขาก็หันมาถามเราว่า

''พร้อมที่จะสอบรึยัง''

"สอบแล้ว''เราตอบ

เขาก็อ๋อพยักหน้า ก็เจอกันครั้งเเรกไม่มีอะไรมากค่ะ เขาค่อนข้างที่จะหน้าตาดี แต่ส่วนตัวเราไม่ได้ชอบคนหล่อขนาดนั้นเพราะเราค่อนข้างที่จะไม่มั่นใจในตัวเองเลย

โมเมนต์เบาๆ

หลังจากเจอกันครั้งเเรกเขาก็มีทักเราบ้างแต่ ก็เงียบเลยเพราะเขาเป็นคนที่ไม่สนใจผู้หญิงเลย และ เมินที่จะคุยกับผู้หญิงในคลาสตลอด เราก็ไม่ได้เครียดอะไรเพราะตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจเขามาก

แต่มีวันนึงเรามีเรียน 1 คาบ ในวันนั้นพอถึงเวลาพักเราก็นั่งฟังเพลงในห้อง ซึ่งปกติพวกคน คาซัค รัสเซีย ทุกคนทุกประเทศจะชอบออกไป enjoy ข้างนอกตามภาษาเด็กนอกพบปะ แต่เราเป็นคนไทยคนเดียวในห้องเลยไม่รู้จะคุยกับใครมากเพราะพวกผู้หญิงในชั้นส่วนใหญ่เป็นพวกสาวคาซักสวยๆ และค่อนข้างที่จะถือตัว เราก็จะมีแต่ผู้ชายมาคุยด้วยแต่ก็จะม่อๆ หน่อย

และเเล้ว! ผู้ชายคนนั้นก็เดินผ่านเราซึ่งเราก็เมินเขาก็เลยมาดึงเเขนเสื้อเราเพื่อที่จะทักเรา จนเราเขินเพราะเขาน่ารักมาก ผู้หญิงในห้องก็มองใหญ่และจิกเรา ส่วนพวกผู้ชายที่เคยมาคุยกับเราก็มองหน้าเราตลอด

หลังจากนั้นเราก็มีแชทคุยกันบ้าง แล้วก็เกิดชอบกันขึ้นมาเเต่เราก็ไม่ได้คบกันเเต่ก็เหมือนเป็นแฟนกัน

จุดพีค!

ผ่านจากการคุยกันมานานหลายเดือนก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเรียนจบ แค่รอใบประกาศออกก็กลับบ้านได้เลย หรือใครยังอยู่ต่ออีกนิดนึงแล้วค่อยกลับก็ได้ เราจบแล้วว่างก็เลยไปเดินช้อปที่ Fuzimiao เพื่อซื้อของฝากก่อนกลับไทย และแล้วผู้ชายคนนั้นก็แชทมาว่าอีก 3 วันเขาต้องกลับแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเขาต้องกลับช้ากว่านี้ เราก็ยืนอ่านแบบจุกๆ เพราะมันกะทันหันมาก ก่อนกลับเราเลยรีบวิ่งไปซื้อของขวัญให้เขา (ลูกอม) แต่สุดท้ายกลับห้องเราก็มาทำเองด้วยส่วนนึง

รูปภาพ:

ความบังเอิญ

ระหว่างทางกลับเราลงจาก BTS มา เราก็จะเดินกลับหอแล้วก็มีผู้ชายคนนึงวิ่งมา พอมองใกล้ๆ ก็คือเขานั่นเอง เขาหยุดเพื่อทักเรา แล้วเราก็เเยกกัน

1 วันก่อนคืนสุดท้าย

คืนนั้นที่เรากลับหอเราก็เตรียมทำของขวัญให้เขาอย่างตั้งใจมากๆ เพื่อจะให้เขาอีกวัน แล้วพี่ๆ ในหอปาร์ตี้กัน ซึ่งปกติก็จัดในห้องเรานี่แหละค่ะ เราก็กินเบียร์จนเมาร้องไห้ แล้วด้วยความเมาเราไม่รู้เรื่อง ส่งข้อความบอกเขาให้เจอกันข้างล่างหอเพื่อที่จะเอาของขวัญที่เราทำไปให้

ด้วยความเมาอ่ะเนาะ เราได้ถือตุ๊กตาหมีไปด้วยตัวใหญ่มากลงไปข้างล่องหอ โดยมีพี่ผู้ชายคนลาวที่สนิทมาส่ง พอเราเจอหน้าผู้ชายคนนั้นเราก็สร่างและรู้เรื่องทันที่จะหนีกลับขึ้นห้องก็ไม่ทันแล้ว

เขาชวนเราไปเดินเล่นแถวๆ หอ คือด้วยความที่ชอบเขามากก็เลยตัดสินใจไป จริงๆ เราก็แอบกลัวเเต่ก็ไว้ใจเขา พวกเราไปนั่งที่เก้าอี้ข้างสระน้ำใน ม. จากนั้นก็คุยกันเเต่ ขอไม่เล่ารายละเอียดนะคะ แล้วตอนที่เขากำลังจะจูบเราเขาก็ชะงักแล้วถามเราว่า

''ผมล่วงเกินคุณไปรึป่าว ถ้าไม่สบายใจก็บอกนะ''

เพื่อนๆ ว่าไงคะ จูบไม่จูบ ติ๊กตอกๆๆๆ ติ๊งงงง จูบจ้า! จะเหลือหรอ และเเล้วคืนนั้นก็ผ่านไป สุดท้ายเราคุยกันว่าพรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวด้วยกันค่ะ

รูปภาพ:

คืนสุดท้ายของเรา

คืนนี้เป็นคืนที่เราไปเที่ยวกัน เพื่อนเขา 1 คน พี่สาวเรา 1 เเละเราไปด้วยกันที่ Nanjing eyes พวกเราเที่ยวกันถึง 5 ทุ่ม จากนั้นก็คุยกันว่าวันนี้จะไปเที่ยวคลับกันต่อ เราก็ไปกัน จริงๆ เราเป็นคนไม่ชอบเต้นก็เลยยืนดู

จังหวะนั้นเขาเลยจับมือ เราพาเรากระโดดเต้นเเล้วพอเที่ยงคืน คือมันเป็นวันเกิดเราที่เราไม่บอกเขา เเต่พี่สาวเรากระซิบบอกก่อนหน้านี้ตอนอยู่บนรถเเท็กซี่ (ซึ่งตอนนั้นเราก็งอนที่เขาแอบคุยไรกันเราถามไม่บอก)

ต่อๆๆ พอเที่ยงคืนเขาก็มากระซิบที่หูเราว่า Happy birthday เราก็ดีใจมากเพราะเราไม่คิดว่าจะหลอกพาเรามาที่นี่แล้วบอกเราแบบนี้ ก่อนกลับเรามานั่งรอเขาหน้าคลับแล้วพอคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะไปแล้วน้ำตาก็ซึม เขาออกมาเห็นพอดีก็เลยกอดปลอบเรา ตอนที่นั่งแท็กซี่กลับ เราก็หลับคาอกเขา เขาเปิดเพลงรัสเซียให้เราฟังแล้วก็หอมแก้มเราข้างซ้าย ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังจำได้แล้วไม่ให้ใครหอมเลย 5555

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

จากลา

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เราไปลากันตรงตึกซึ่งเราก็ลงมาในชุดนอนเลย ส่วนเขาก็ลากกระเป๋าจัดเต็มพร้อมกลับมาก เขากอดเราแล้วก็บอกว่าไม่ร้อง (อ๊ากกกกจะอ้วกแล้วเขียนเองเลี่ยนเอง) จากนั้นก็จับหัวเราจุ๊บผาก 1 ที เหมือนในหนังเลยจ้า ย๊ากก แล้วเราก็บอกลาแล้วเดินแยกจากกัน

เราขึ้นลิฟต์ก็ร้องไห้ไปด้วย สาวรัสเซียข้างๆ ก็มองว่าอีนี่เป็นไร พอเข้าห้องมาเจอพวกพี่ๆ ก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็ขอขึ้นเตียงก่อนแล้วก็ร้องไห้หนักมากจนตาบวม พี่ๆ เลยจัดปาร์ตี้ให้เลย เราก็เละจ้า จริงๆ ก็ดีขึ้นเเต่ก็ไม่เคยลืมเขาเลย

เขากลับไปก็ทำแต่งาน เราก็เข้าใจ แต่ว่าเขาก็เป็นคนเงียบๆ อยู่แล้ว อ่านไม่ตอบบ้าง แล้วก็กลับมาตอบทีหลัง เราเลยรู้สึกว่าเราต้องมูฟออนอ่ะ เราจะไม่จมอยู่กับความรักจอมปลอม (มั้งนะ) ก็เลยไม่ทักไปอีก

เขาก็ง้อเราเอง แต่ตอนนี้เรารักตัวเองมากขึ้นแล้ว อยากมีชีวิตที่ดีเราเลยตัดเขาออกเหมือนเลิกกัน เขาก็ทำให้รู้สึกว่าเขาตัดเราก่อนนะเราเลยตัดเขา เพราะปกติเรารักใครถ้าเขาไม่ทำให้เราผิดหวังก่อน เราจะไม่มีทางตัดเขาก่อนแน่นอน แล้วทุกอย่างมันก็จบ

ข้อคิดเบาๆ (มีสาระอยู่น้าา)

เรารักใครเรารักได้ค่ะ แต่เราต้องรักตัวเองและอยู่กับปัจุบัน ลองมองดูค่ะปัจจุบันของเราสามารถชี้ไปที่ตัวเขาได้มั้ยว่าเขาจะอยู่กับเราไปตลอด อย่าชี้ไปที่รูปภาพหรือคลิปวิดีโอเก่าๆ ค่ะ

รักกับความจริงนะคะ ไม่รักกับความจำ

ยอมรับความจริงให้ได้ว่าไม่มีเขาแล้ว

ยิ่งเรายอมรับได้มากเท่าไหร่เราจะดีขึ้นเองค่ะ


เราเขียนเรื่องนี้เพราะว่าความรักครั้งนี้มันเป็นบทเรียนที่สำคัญในชีวิตเราอย่างนึงเลย เราเข้าใจนะคะว่าเราพูดไปบางคนอาจบอกว่า

ยาก ทำไม่ได้ ทำได้เเล้วก็พูดได้สิ

ใช่ค่ะเพราะสิ่งที่เราแนะนำทุกคน เราทำจริง พอเราทำได้เราถึงมาเล่าและเเนะนำทุกคนได้ค่ะ

และ

ที่เราทำได้เพราะเราเปิดใจ

ค่ะ เราได้ข้อคิดพวกนี้มาจาก ขุนเขามีคำตอบ ค่ะ เเนะนำว่าให้ไปฟังกันนะคะในกรณีที่เสียใจจนไม่รู้จะทำไง เเต่ที่สำคัญสุดคือ

อย่าลืมเปิดใจรับฟังนะคะ