รูปภาพ:

สวัสดีค่ะ และแล้วลมหนาวก็ได้จากลาจากเราไปไกลแสนไกล แงงง TwT แต่ตอนนี้ก็ยังฤดูหนาวอยู่ + ฟังกรมอุตุเขาว่า ลมหนาวอาจจะพัดผ่านกลับมาอีกครั้ง เพราะงั้นไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เราเลยขอมาอัพเดตสกินแคร์ดูแลผิวหน้าหนาวที่ช่วงก่อนหน้านี้เราได้ใช้เป็นรูทีนสำหรับใครที่จะไปเจออากาศหนาว/แห้งที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศสามารถเข้ามาเก็บลิสต์ข้อมูลเตรียมตัวช่วยให้ผิวชุ่มชื้น+บอกลาริ้วรอยไว้ได้เลยค่า

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/QASF/20200130071846.png

ใครไม่แคร์แต่สกินแคร์นะ ผ๊ามผ่ามมม!จะบอกว่าในรูปนี้ + มีตกหล่นนิดหน่อยชิ้นนึงคือ ตัวช่วยบำรุงผิวในช่วงหน้าหนาวนี้ (ถึงจะไม่ค่อยหนาวแล้วแต่ก็ใช้ได้ถ้านอนแห้งแอร์หรือเป็นชาวผิวแห้ง-ผิวผสม)

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/K17D/20200130071933.png

THREE Balancing Cleansing Oil R (185ml/1,900.-) และ Balancing Foam R (150ml/1,600.-)ตัวช่วยทำความสะอาดผิวคู่บุญคู่ใหม่ ถ้าได้ลองเซ็ตเก่าแล้วติดใจ คู่ใหม่ก็ต้องมาแล้ววว ส่วนผสมเปลี่ยนจากเดิมที่ธรรมชาติมากแล้ว แต่ตอนนี้ดันส่วนผสมธรรมชาติ จาก ออยล์88%>100% จากโฟม 90%>98%เนื้อสัมผัสออยล์มีความเบา และไม่เลื่อมเท่าตัวก่อน สีเข้มขึ้น ส่วนโฟมมาเป็นรูปแบบฟองโฟมสีขาวเนื้อเบาเลย ไม่แห้งตึงเท่าตัวก่อนส่วน กลิ่นทั้งคู่เปลี่ยนจากแนวซิตรัสอโรม่ามาคล้ายพวกชาสมุนไพรมากขึ้นความรู้สึกตอบในฐานะที่เป็นชาวผิวผสมคือใช้แล้วชอบมาก ทำความสะอาดผิวได้ดี รู้สึกผิวสะอาดแต่สมดุลความชุ่มชื้นไม่เสียไป แอบชอบมากกว่าคู่ก่อนเล็กน้อย ตรงที่ออยล์คลีนเมคอัพได้ง่ายกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เบาสบายผิวกว่าเดิม ส่วนโฟมก็ให้ความสบายผิว+ใช้ง่ายขึ้น ไม่รู้สึกแห้งเท่าตัวก่อน แต่แอบคิดว่าตัวเดิมใช้ได้นานกว่าตัวนี้นิดนุง โดยรวมคือ ชอบ!

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/r0Mb/20200130072002.png

LANCOME Tonique Confort (200ml/ประมาณ1,200)โทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง ฉายาน้องนมชมพูววว ที่ไปโดนมาช่วงงานที่เขาจัดตรงพารากอน มีส่วนผสมเด็ดจากน้ำผึ้ง ช่วยเติมความชุ่มชื้นและคลีนผิวให้สะอาดขึ้นอีกระดับ + Sweet Almond Extract ปรับผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ฯลฯ ไม่มีแอลเนื้อสัมผัสเป็นเหมือนน้ำนมสีชมพูที่มีน้ำหนักนิดหน่อย ไม่ได้เหลว+เบาขั้นน้ำเปล่า มีกลิ่นหอมน้ำหอมพอสมควรความรู้สึกเป็นโทนเนอร์ที่ดีมากกๆๆ ใครที่เคยใช้หรือสัมผัสนางมาก่อนน่าจะชอบเหมือนกัน ให้ฟีลลิ่งที่ละมุนผิวมั่กๆ หลังเช็ดผิวแล้วรู้สึกผิวมีความนุ่มขึ้นจริงๆ เขาว่าใช้เช็ดผิวหรือเป็นตัวน้ำตบก็ได้ แต่ส่วนตัวใช้เป็นโทนเนอร์ เช็ดแล้วผิวสะอาดขึ้น(วันไหนล้างหน้าไม่สะอาดก็มีคราบติดสำลีมาด้วยฮือ) ความชุ่มชื้นในผิวไม่เสียไป แถมช่วยเติมความชุ่มชื้นไปอีก ใช้ช่วงหน้าหนาวคือดือออ แต่ไม่หนาวก็ใช้ได้นะคะนี่ใช้ตลอดเลย ติดนิดเดียว แลดูจะหมดไวนิดนึง กะปริมาณใช้บ่ถูกเลย

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/LHCO/20200130072041.png

Alteya Organic Rose Water (100ml/780.-)สเปรย์น้ำแร่ Rose Water สายพันธ์ Rosa Damascena ผ่านการกลั่นกรองระบบไอน้ำ จนได้น้ำกุหลาบแท้บริสุทธิ์ เขาว่างั้นนะ ส่วนผสมก็เป็นน้ำกุหลาบบริสุทธิ์ 100% เลย มีสารอาหารจากวิตามิน A, B3, C, D, E, K แร่ธาตุและอาหารผิวต่างๆ เช่น แคโรทีน, ฟลาโวนอยด์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น + ฟื้นฟูผิวจากพิษเนื้อสัมผัสเป็นน้ำแร่ใส ไม่มีสี คล้ายน้ำเปล่าแต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว มีกลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆความรู้สึกชอบที่นางเอนกประสงค์ + พกไปฉีดเติมความชุ่มชื้นระหว่างวันได้ นี่วันนึงก็ฉีดไปหลายฟึ่ช แต่ก็ยังไม่พร่องเยอะเท่าไหร่ นี่ชอบเอาไว้ฉีดก่อนและหลังแต่งหน้า สบายผิวดี ถ้าบำรุงกลางคืนก็ไว้ขั้นตอนแรกหลังเช็ดผิวเลย ช่วยเติมความชุ่มชื้นผิวได้เบาๆ + ผ่อนคลายจากกลิ่นและความสดชื่น จริงๆ เขาว่า ใช้ผสมอาหารกับเครื่องดื่มได้แต่นี่ยังไม่เคยลอง

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/gImH/20200130072116.png

PLANTSTORY Bioganic Essence (100ml/1,150.-)เอสเซนส์เนื้อเบาที่ช่วยปรับผิวอ่อนล้าให้แลดูกระจ่างใส ส่วนตัวเราเขาส่งมาให้ลองใช้ มีส่วนผสมจาก Job’s Tear extract หรือลูกเดือย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวเรียบเนียน + Artichoke Leaf extract ต้านอนุมูลอิสระ + Organic Chamomile extract ต้านอนุมูลอิสระ ปลอบปละโลมผิว + ฯลฯเนื้อสัมผัสเป็นเอสเซนส์สีขาวบางเบา ทาแล้วเหมือนน้ำนมค่อนข้างเหลว และซึมไว แอบได้กลิ่นน้ำหอมชัดเล็กน้อยความรู้สึกค่อนข้างเหมาะกับคนที่ชอบอะไรเบาสบายผิว แต่ในช่วงหน้าหนาวใช้เดี่ยวตัวเดียวเราว่าไม่พอ แต่ถ้าใช้เพิ่มเติมก่อนลงเนื้อหนักก็โอเคอยู่ ช่วยเติมความเนียนนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ใช้ติดต่อกันแล้วรู้สึกผิวกระจ่างใสขึ้นเบาๆ

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/GKfd/20200130072147.png

PAÑPURI REVIVE ArunaYouth™ Complex Bakuchiol Age Delay Night Oil (30ml / 3,200.-)ปกติเราก็ขาดออยล์ไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ยิ่งหน้าหนาวคือไม่ต้องพูดถึง แต่ตัวนี้เป็นตัวใหม่ที่ใช้มาได้เกือบเดือน ออยล์ตัวนี้มีส่วนผสมจากธรรมชาติ + ออร์แกนิค ถึง 100% เลยเด้อ ตัวเด็ดอยู่ที่ Bakuchiol ที่มีในส่วนผสมของออยล์อันนี้ โดยการทำงานของ Bakuchiol ที่ทุกคนเข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ ช่วยดูแลผิวเหมือนเรตินอล แต่เป็นเรตินอลที่ได้จากธรรมชาติ ช่วยลดเรือนริ้วรอย + กระตุ้นคอลลาเจน + ช่วยดูแลผิวที่อักเสบ แต่อ่อนโยนกับผิวมากกว่า เคยอ่านรีวิวของพี่ปูเป้ในเพจของเค้า เขาบอกว่าสามารถใช้ร่วมกับวิตเอได้ มีแนวโน้มเสริมการทำงานกัน และ ArunaYouth™ Complex ส่วนผสมที่สกัดมาจากดอกมะลิ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง ช่วยทั้งเรื่องดูแลริ้วรอยและให้ผิวแข็งแรงขึ้นเนื้อสัมผัสเป็นออยล์ที่เนื้อเบาดีเลยค่ะ ใส และจะมีสีน้ำเงินอ่อน เป็นสีจากน้ำมันที่ผสมกัน ไม่หนักผิว กลิ่นมีความผ่อนคลายละมุนๆ เป็นกลิ่นมะลิที่สดชื่นๆ เราใช้เป็นขั้นตอนหลังทาเซรั่มหรือจะทาทับสกินแคร์พวกน้ำก็ได้น้า เพราะซึมเข้าผิวเร็ว ไม่ค่อยทิ้งความมันไว้เท่าไหร่นะคะความรู้สึกส่วนตัวชอบทั้งเนื้อสัมผัส-กลิ่น-ส่วนผสมตั้งแต่ที่ได้อ่านคนอื่นๆ ป้ายยา เรื่องการเติมความชุ่มชื้นสำหรับผิวผสมที่นอนห้องแอร์เป็นประจำ เราจะผิวแห้งแบบไม่รู้ตัว นี่ว่ามันมีความพอดี ไม่เหนอะหนะผิว แต่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้ดีเลย คือหน้ายังมีความนุ่มๆ ของผิวอิ่มน้ำอยู่ ผิวมีความฟูมากขึ้น เป็นอีกตัวที่ช่วยให้ผิวรอดในช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาเลย ส่วนเรื่องริ้วรอยของเราปกติแล้วยังไม่มีเท่าไร แต่ที่ใช้มาหน้ามีความเนียนขึ้น จับแล้วรู้สึกผิวนุ่มและเด้งมากขึ้นนะคะ ปล. แอบนวดผิวตามบล็อกเกอร์ Gadgetlily ด้วย ไม่ได้ผสมออยล์ตามเขา แต่ลองวิธีการใช้ออยล์นวดผิวตามแล้วคือดีมากกก เครียดอย่างเดียวคือ ถ้าใช้หมดช่วงไม่มีเงินนี่ร้องเลยนะแม่

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/qR0W/20200130072215.png

ขอพูดทั้ง 3 ตัวแบบสั้นๆ นะคะ บางตัวเคยพูดถึงไปแล้วในรีวิวเก่าๆ สามารถย้อนอ่านได้เลยเด้อPhilosophy Take A Deep Breath (60ml/1490.-)มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและออกซิเจนให้ผิวได้พักผ่อน เอ้าาา ไปอยู่ไหนมา เขาดังข้ามปีแล้วนี่พึ่งลอง นางเป็นเจลครีมที่ใช้สารจากธรรมชาติเป็นตัวแอคทีฟ เช่น ใบข้าวบาร์เล่ย์ กักเก็บออกซิเจน+ฟื้นฟูผิวป้องกันมลภาวะ + สารต้านอนุมูลอิสระอีกหลากหลาย เช่น โสม กาแฟเขียว ชาเขียว ผลไม้ตระกูลส้ม ฯลฯ ปราศจากน้ำมัน เนื้อสัมผัส เป็นเจลครีมที่หน้าตาเป็นครีมสีขาวอมเขียวนิดๆ เนื้อเบาสบายผิว ปาดลงบนผิวแล้วจะสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นและเย็นสบายผิวนิดๆ ส่วนตัวไม่รู้สึกมันหรือเหนอะหนะผิวแม้แต่น้อย (แต่ยังไม่เคยลองใช้ตอนเช้าช่วงอากาศร้อนปกติ) ความรู้สึก ชอบฟีลลิ่งมันดีมั่กก ไม่ได้ถึงขั้นซึมไว แต่เนื้อค่อนข้างเบา สบายผิว นวดๆ ทาๆ บนผิวตอนกลางคืนให้ซึมลงผิวแล้วผิวดูอิ่มน้ำฉ่ำโกลว์มากๆ + มีความดูสดใส ดูเฟรชมากขึ้น กลบความหมองลงเบาๆ อาจจะเพราะผิวดูเปล่งมาจากข้างใน มีความปลอบปละโลมผิวจากการระคายเคืองเบาๆ ด้วย ชาวผิวผสมแบบเราชอบเลยยย .BURT’S BEES Intense Hydration Night Cream With Clary Sage (50ml/1,780.-)ตัวนี้เป็นไนท์ครีมสุดเข้มข้นที่ทางแบรนด์ส่งมาให้ลอง มีส่วนผสม Clary Sage + Mafura Butter + Tucuma Butter ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้น + Bitter Orange Peel Extract ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความเปล่งปลั่ง + ฯลฯ เนื้อสัมผัส เป็นครีมสีขาวเข้มข้นมากกก กลิ่นคือ ธรรมชาติจริงไรจริง ควรไปลองดมที่เคาท์เตอร์ก่อนสอยค่ะ ความรู้สึก เข้มข้นจริง เหมาะกับผิวแห้งมาก ช่วงหนาวๆ ทาไปคือผิวไม่แห้งเลย แต่จะให้โปะอาจจะไม่ไหวเพราะเนื้อค่อนข้างมีน้ำหนักพอสมควร ทาแล้วได้ความฟู + ตื่นมาผิวจะนุ่มเนียนและชุ่มชื้นขึ้นฝุดๆ .ERI EDEN Rejuvenating Sleeping Mask (1,350.-/50ml.)สลีปปิ้งมาสก์เขาให้มาลองเหมือนกัน มีส่วนผสมเด็ดเยอะมาก เช่น Rose of Jericho ช่วยเรื่องชุ่มชื้น ทั้งเติมเต็มและกักเก็บน้ำให้ผิว + Sodium Hyaluronate กักเก็บความชุ่มชื้น + Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract + Scutellaria Baicalensis Root Extract ปลอบปละโลมผิว ฯลฯ เนื้อสัมผัส เป็นเจลทาแล้วเปลี่ยนเป็นเอสเซ้นส์ ค่อนข้างเบา ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ความรู้สึก จะบอกว่า ดีจริง คนอื่นบอกว่าดียังไงนี่คือ ไม่เถียง ไม่หือ ไม่อือ เลยนะ ส่วนตัวใช้แล้วปรับสมดุลความชุ่มชื้นในผิวได้ค่อนข้างดี + ปลอบปละโลมผิวโอเคเลย ช่วงที่หนาว+อากาศแห้งคือโปะทุกวัน ช่วยให้ผิวค่อยๆ ดีขึ้นได้จริง บอกก่อนว่า 3 ตัวนี้เราไม่ได้ใช้พร้อมกัน เนื่องจากว่า อากาศไม่ได้หนาวเย็นหรือแห้งมากเฟ่อขนาดนั้น เราจะเลือกหยิบบางตัวมาใช้ ถ้าวันไหนผิวแห้งมาก หน้าตึงไม่ต้องพึ่งโบท็อกซ์กันไปเลย ก็จะหยิบ BURT’S BEES มา ตัวเดียวจบ แต่ส่วนใหญ่จะหยิบตัว PHILOSOPHY มาทาก่อนแล้วตามด้วย ERI EDEN หรือตัวใดตัวหนึ่งในสองตัวนี้มากกว่าค่ะ

รูปภาพ:https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet.in.th/upload/webboard/newImages/Y8Du/20200130072311.png

CARMEX Classic Moisturising Lip Balm (10g./135.-)สุดท้ายค่ะ สำหรับใครที่บอกให้เก็บปากไว้แตกหน้าหนาว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่ปากไม่แตก (สรุปคนอ่านกระทู้จบเดินมาตบตอนนี้เลยจ้ะแม่555) จริงๆ ปกติเราไม่ใช่คนที่ปากแห้งลอกง่ายอยู่แล้ว แต่ตัวนี้มีคนซื้อมาฝาก ได้โอกาสเปิดใช้ช่วงหนาวนี้พอดี เหมือนจะเห็นว่าในไทยมีขายนะคะส่วนผสมไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะหลักๆ เป็น Petrolatum หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ Petroleum Jelly เติมเต็มความชุ่มชื้นและเรียบเนียนให้ริมฝีปาก + ความเย็นอ่อนจาก Menthol + มีกลิ่นหอมหวานเบาๆ จาก Parfum หรือน้ำหอม ฯลฯเนื้อสัมผัสเป็นบาล์มขุ่นออกเหลืองนิดๆ ที่มีความข้นเบาๆ เหมือนครีม ได้กลิ่นหอมหวานเบาๆ พอทาลงบนริมฝีปากจะรู้สึกเย็นในระดับหนึ่งความรู้สึกเป็นตัวเดียวในกรุจริงๆ ที่ให้ความชุ่มชื้นมาก อย่างที่บอกว่าปกติเราเป็นคนที่ปากไม่ค่อยแห้งเท่าไหร่ เคยใช้แต่พวกลิปเป็นแท่งง่ะ นานๆ จะถึงขั้นลอกเลยตอบไม่ได้ว่า ช่วยแก้ปากลอกได้มั้ย แต่ส่วนตัวที่เคยใช้มาจนผ่านหน้าหนาวก็ยังไม่เคยสัมผัสกับอาการปากแห้งลอกเลย (ถ้าทาเป็นประจำนะคะ) โดยรวมเราว่า เป็นลิปมันอีกตัวที่ดือในวันที่ดือหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้แก่สาวๆ ผิวแห้ง-ผิวผสม/คนที่ต้องเดินทางต่างประเทศไปเจออากาศหนาวบ่อยๆ นะคะ ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าในบทความถัดไปในเร็วๆ นี้นะคะ สวัสดีค่ะรักรักรัก <3

รูปภาพ: