สวัสดีสาวๆ ชาวซิสต้าคาเฟ่ทุกคนนะคะ
~ นี่เป็นบทความแรกของเรานะคะ เราจะมารีวิวการไปเลเซอร์ขนรักแร้ครั้งแรกในชีวิตของเราค่ะ!
เกริ่นก่อนเลยว่าปกติเรามักจะใช้วิธีการกำจัดขนด้วยการโกนนะคะ แต่เนื่องจากไม่อยากทนกับปัญหาทนทุกข์อย่างมีดโกนบาด หรือตุ่มหนังไก่ รักแร้ดำใดๆ เราจึงศึกษาหาข้อมูลแล้วพบว่าวิธีการเลเซอร์กำจัดขนเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งเลยค่ะ
หลังจากที่กักตัวมานานเป็นเดือนๆ ก็ได้ฤกษ์ออกไปเลเซอร์กันแล้วค่ะ!
ก่อนจะไปทำเลเซอร์เราได้ลองค้นหาข้อมูลและสำรวจมาเป็นเดือนๆเลยแหละว่าเราจะไปทำที่คลีนิกไหนดี เราทั้งเสิร์ชและสอบถามข้อมูลแต่ละคลีนิกด้วยตัวเอง เราอยากได้ที่ที่เดินทางสะดวก ราคาไม่แพงมากและไม่เจ็บค่ะ! อันนี้สำคัญสำหรับเรามากเพราะเรากลัวเจ็บค่ะทู๊กค๊นนนน
จนกระทั่งเราได้พบกับคลีนิกแห่งหนึ่งซึ่งใกล้บ้านเรามากและมีโปรโมชั่นทดลองครั้งแรกแถมทรีเม้นต์บำรุงรักแร้ให้ขาวใสอีกด้วย เราจึงติดต่อจองไว้กับคลีนิกแล้วบอกเขาว่าขอลองครั้งแรกก่อนถ้าเวิร์คค่อยซื้อเป็นคอร์สค่ะ (ฮา)
พอถึงวันที่เรานัดไว้เราหลงค่ะ (กรี๊ด) เราขึ้นลิฟต์ผิดชั้นจนต้องเดินลงบันไดมาแถมพี่พนักงานก็ใจดีเดินมารับด้วยค่ะ พอมาถึงคลีนิกก็จะมีแบบสอบถามให้ทำเกี่ยวกับโควิท-19 ว่าเราได้เดินทางไปต่างประเทศหรือใกล้ชิดกับคนที่เคยเป็นโรคมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ติ๊กช่องไม่ใช่ให้หมดเลยค่ะ
จากนั้นก็จะเป็นใบกรอกประวัติต่างๆ และมีให้เซ็นสัญญาเข้ารับการรักษา มีการพูดคุยกับพี่พนักงานว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ มีการขายคอร์สเล็กน้อยเพราะการเลเซอร์ต้องทำอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลค่ะ
เมื่อพูดคุยกันเสร็จแล้วเขาก็จะพาเราไปทำทรีตเม้นต์ก่อนอย่างแรกค่ะ
พอมาถึงห้องทำทรีตเม้นต์เขาก็จะให้เราเปลี่ยนไปใส่ชุดคลุมโดยถอดเพียงเสื้อตัวนอก ไม่ต้องถอดเสื้อในนะคะ เสร็จแล้วก็จะนอนลงบนเตียงและโชว์รักแร้ของเราให้เขาดูค่ะ (อาย)
เขาจะโกนขนรักแร้ให้เราทั้งสองข้างก่อนจะเช็ดด้วยผ้าเปียกและผ้าแห้ง เขาจะอธิบายทุกขั้นตอนให้เราฟังตลอดว่าจะทำอะไรบ้าง จนมาถึงตอนโปะตัวทรีตเม้นต์เขาก็จะบอกว่าเย็นนะคะ เย็นจริงค่ะ เราชอบมากฟีลเย็นเจี๊ยบ จากนั้นเขาก็จะใช้เครื่องนวดที่เหมือนเอาไว้นวดหน้ามานวดตรงรักแร้ของเราทีละข้าง ข้างละ7นาทีค่ะ ตัวทรีตเม้นต์จะนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดนะคะ ช่วยบำรุงให้รักแร้ของเราขาวใสค่ะ
พนักงานก็จะถามเราว่ารู้สึกจี๊ดมั้ย แต่เราไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่เลยค่ะ ออกจะสบายด้วยซ้ำแถมในห้องมีเปิดเพลงสบายๆ เล่นเอาเราเกือบหลับแต่ดีที่พี่เขาจะชวนคุยอยู่ตลอดทำให้ไม่ง่วงมากค่ะ
จบจากทรีตเม้นต์สุดสบายเราก็จะย้ายไปห้องเชือด เอ้ย! ห้องเลเซอร์กันค่ะ โดยคนยิงเลเซอร์ก็จะเป็นคนเดียวกับที่ทำทรีตเม้นต์ให้เรานะคะ พอมาถึงก็นอนลงบนเตียงเหมือนเดิมและสวมแว่นสีดำป้องกันแสงเลเซอร์ค่ะ
พี่พนักงานก็จะอธิบายให้ฟังว่าเครื่องยิงเลเซอร์ตัวนี้เป็นตัวรุ่นใหม่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้นและจะทำการยิงควบคู่กับการเป่าลมเย็นเพื่อไม่ให้เรารู้สึกร้อนค่ะ สามารถขอปรับความเย็นได้ สามารถถามคำถามพี่พนักงานได้หมดเลยนะคะ พี่เขายินดีตอบแถมยังชวนพูดคุยไม่ให้เรารู้สึกเกร็งอีกด้วย
การยิงเลเซอร์จะกินเวลาข้างละ 2-3 นาทีและแต่ขนาดพื้นที่ ถ้าเป็นรักแร้ก็จะเร็วหน่อย พอเริ่มยิงเขาก็จะบอกว่าเริ่มแล้วนะคะ พอยิงปุ๊บจึ้กแรก..
เราไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะแทบไม่เจ็บเลยรู้สึกเหมือนคนเอาดินสอกดมาจิ้มเบาๆซะมากกว่าแต่พอมาช่วงตรงกลางเริ่มเหมือนมีมดกัดเท่านั้นพอมาข้างซ้ายเราเจ็บกว่าข้างขวาค่ะแต่เป็นความเจ็บในระดับทนได้ มีสะดุ้งเล้กน้อยค่ะ ถ้าใครเจ็บทนไม่ไหวสามารถบอกให้พี่เขาหยุดได้นะคะแต่เราบอกให้พี่ทำต่อเลย เราทนได้ค่ะ เพื่อความสวยอะเนอะ
หลังจากยิงเลเซอร์เสร็จเขาก็บอกข้อห้ามหลังทำว่างดการทาโลชั่น ใช้โรลออนหรือสครับใดๆ ตรงรักแร้และงดถูสบู่ประมาณสี่วันหลังทำ บางคนทำแล้วอาจจะมีอาการแดงตรงที่ทำแต่มันจะหายไปในเวลาครึ่งชั่วโมง
ซึ่งเราทำเสร็จแล้วมันไม่แดงหรือบวม ไม่คันใดๆด้วยค่ะโชคดีมาก เขามีการโทรมาเช็คอาการหลังทำหนึ่งวันว่ามีอาการคันมั้ยแต่เราไม่มีเลยค่ะและรู้สึกว่าตรงบริเวณที่ทำเหมือนจะเนียนขึ้นอีกด้วย หลังจากนี้ต้องรออีกสองสัปดาห์ให้ขนมันหลุดออกมา พี่พนักงานก็บอกว่าต่อไปขนมันจะขึ้นช้าและถ้าทำติดต่อกันขนก็มีสิทธิ์ที่จะหายไปเลย แบบหนึ่งปีงอกหนึ่งเส้นอะไรแบบนี้ค่ะ
จบไปแล้วกับการรีวิวนะคะ เราประทับใจมากเลยตัดสินใจซื้อคอร์สกับทางคลีนิกไปถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็จะมาอัปเดตให้ทุกๆ คนดูกันนะคะ ขอบคุณที่อ่านรีวิวจนจบค่า