1. SistaCafe
  2. รู้แล้วทำด่วน! “5 Daily Steps ล็อคผิวสวยสู้ฝุ่น ” มาเปลี่ยนผิวพังให้ปังไม่หยุดกันเถอะ!

สาวๆSistaCafeทุกคนเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ? ยังไหวกันอยู่ไหมคะ ? ช่วงนี้เรียกว่าหนักหน่วงทั้งในเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกายรวมไปถึงความสวยความงามเลยก็ว่าได้เพราะบ้านเรากำลังเผชิญกับวิกฤตใหญ่หลายสิ่ง ไล่ไปตั้งแต่ปัญหามลภาวะอย่าง" ฝุ่น PM 2.5 "มาจนถึงวิกฤตโรคระบาดอย่าง" Covid-19 "ที่สร้างความหวาดหวั่นอยู่ในตอนนี้


จากเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งจำเป็นจนเปรียบเหมือนกับอวัยวะชิ้น 33 เลยก็ว่าได้ค่ะ เราทุกคนต้องสวมใส่เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพไม่ให้สูดดมฝุ่นหรือรับไวรัสเข้าไปในร่างกาย และแน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาสำหรับสาวๆ อย่างเราก็คือ" ปัญหาผิวหน้า "ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อผิวเราอย่างร้ายแรง รวมไปถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยทั้งวันก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวระคายเคือง เกิดการอุดตันนอกจากนั้นยังอาจมีปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ ความหมองคล้ำเอย ริ้วรอยเอย แค่คิดก็ปวดใจรอแล้ว


ทุกคนก็ยังไม่รู้ได้ว่าวิกฤตเหล่านี้จะอยู่กับเราไปอีกนานเท่าไร นอกจากเพื่อนๆ จะป้องกันในเรื่องสุขภาพแล้วก็ต้องรู้จักรับมือไม่ให้ทั้งฝุ่นและการใส่หน้ากากอนามัยมาทำร้ายผิวของเราด้วยวันนี้เราเลยจะขอมาแชร์“ 5 Daily Steps ล็อคผิวสวยสู้ฝุ่น ”จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลยค่าา┗(^0^)┓



“ 5 Daily Steps ล็อคผิวสวยสู้ฝุ่น ”

▶ 1. เริ่มต้นด้วยรีมูฟเวอร์และทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด

การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญ

เพราะถ้าผิวหน้าของเราสะอาดหมดจด ก็จะช่วยลดการอุดตัน ลดปัญหาผิวอื่นๆ ที่จะตามมาได้ แม้ว่าตอนนี้ทุกคนจะใส่แมสก์ออกจากบ้านแต่เชื่อว่าสาวๆ อย่างเราก็ยังอดไม่ได้ที่แต่งหน้าอยู่ดี ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำเลยก็คือ

การเช็ดหน้าด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์เพื่อลบเมคอัพออกให้หมดสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่ได้แต่งหน้าก็ควรหาคลีนซิ่งมาเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเช่นกันนะคะ

เพราะถึงจะไม่มีเมคอัพแต่ก็ยังมีสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่ติดอยู่บนผิวหน้าของเรา อย่ามองข้ามเลยเชียวล่ะ เพราะการล้างหน้าอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการดูแลความสะอาดผิวหน้าที่แท้จริงน้า



เมื่อเราเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าในขั้นแรกแล้ว สเต็ปต่อไปก็คือการล้างหน้า

การล้างหน้าที่ถูกต้องคือต้องล้างตามแนวขน


จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกไม่ให้อุตันในรูขุมขน

รวมไปถึงการเลือกโฟมล้างหน้าก็สำคัญนะคะ ควรเลือกที่ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกและเหมาะกับสภาพผิวของเราด้วยถึงจะดีที่สุด



ส่วนตัวเราเลือกใช้Trylagina Collagen Micellar Foamingอยากขายของเพื่อนๆ เลยเราชอบตรงที่เนื้อโฟมของเขาเป็นมูสละเอียด ล้างแล้วฟินหน้ามากๆ ตอนล้างหน้ารู้สึกว่าผิวหน้าสะอาดหมดจดจริงๆอาจเป็นเพราะเขามีเทคโนโลยีMicellarช่วยดูดซับสิ่งสกปรกแถมทางแบรนด์ยังเคลมว่ามีPollustopที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 เข้ากับช่วงนี้พอดี(ซื้อมาลองเพราะข้อนี้เลย) หลังจากใช้ไปสักพักก็รู้สึกได้นะคะ ไม่ค่อยคันหน้าจากการเจอฝุ่นเหมือนช่วงแรกๆ อ่อใครที่ผิวแพ้ง่ายก็ไม่ต้องกลัวเพราะเป็นสูตรอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิวด้วยจ้าโดยรวมโฟมล้างหน้าตัวนี้ก็ทั้งช่วยทำความสะอาด ปกป้องผิวจากมลภาวะแล้วก็ยังช่วยบำรุงผิวด้วยAloe vera extract ด้วยค่ะ ผิวเนียนนุ่มทันทีที่ล้างเลยเริ่ดๆ ลองไปหามาใช้กันดูนะคะ



▶ 2. ใช้โทนเนอร์หรือน้ำเกลือเช็ดหน้าอีกครั้ง

ย้ำอีกทีว่าการทำความสะอาดผิวหน้าสำคัญสุดๆ ถึงแม้เราจะเช็ดด้วยคลีนซิ่งและล้างหน้ามาแล้วก็ตาม แต่เพื่อความมั่นใจในความสะอาดหมดจดจริงๆ เพื่อนๆ จึง

ควรใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง หรือจะเลือกใช้ น้ำเกลือทางการแพทย์ เช็ดแทนก็ได้เช่นกันค่ะ

เพราะว่าน้ำเกลือเป็นน้ำที่สะอาดมาก ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ 100% เวลานำมาเช็ดหน้าจึงช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น ลดการติดเชื้อ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ระคายเคืองผิว และไม่ทำให้รูขุมขนกว้าง รวมถึงยังช่วยให้มีการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากน้ำเกลือช่วยเช็ดความมันออกจากใบหน้าได้อีกด้วยค่ะ



แต่ควรใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดหลังล้างหน้าแล้วเท่านั้น ( ใช้แทนหรือใช้หลังโทนเนอร์นะคะ )

และสำหรับสาวๆ ผิวแห้งแนะนำว่าให้เลือกใช้เป็นโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวมากกว่าการใช้น้ำเกลือเช็ดค่ะ




▶ 3. ใช้เซรั่มบำรุงผิว

ในช่วงที่ปัจจัยรอบข้างทำร้ายผิวหน้าเราหนักมากขนาดนี้ การบำรุงผิวด้วยครีมอาจยังไม่เพียงพอ จุดนี้ต้องใช้สกินแคร์แบบฟูลคอร์สไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

" เซรั่ม "ขาดไม่ได้เลยนะคะเวลานี้

เพราะเซรั่มเป็นสกินแคร์ที่มีความเข้มข้นกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไป จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพสูง เน้นการฟื้นบำรุงแก้ไขปัญหาผิวจริงๆ และยังสามารถซึมซาบสู่ผิวได้เร็วและล้ำลึกกว่า

แม้ใช้ในปริมาณไม่มากแต่ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ



แน่นอนว่าวันนี้เราก็มีเซรั่มบำรุงผิวที่ดือออ มาแนะนำให้เพื่อนๆ ไปลองหามาใช้กันด้วย อย่าง


" Trylagina Ultimate Collagen Serum "

หลังจากได้ทดลองใช้แล้วรู้สึกชอบ เลยขอส่งรีวิวจุกๆ ประกอบการตัดสินใจ ลองไปดูกันเลยค่ะ ^^



" Trylagina Ultimate Collagen Serum "

" Trylagina Ultimate Collagen Serum "


เป็นเซรั่มบำรุงผิวที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว ช่วยกักเก็บน้ำและเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ปรับผิวให้กระจ่างใส และยังช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยอีกด้วยค่ะ

โดยมีส่วนผสมจากธรรมชาติเข้มข้นหลายสิ่ง ได้แก่



▪ Soluble Collagen

หรือคอลลาเจนปลาทะเลน้ำลึกจากฝรั่งเศส

ช่วยให้ผิวกระชับ กักเก็บน้ำและคงความชุ่มชื่นให้ผิว


▪ FRENCH POLYNESIA EXOPOLYSACCHARIDE

เป็น Highly purified Exopolysaccharide ที่ได้จาก Kopara ซึ่งเกิดจากจากการสะสมทับถมกันเป็นชั้นๆ ของจุลินทรีย์ สามารถปกป้องตัวเองจากรังสียูวี โดย Kopara จะผลิตสาร exopolysaccharide (EPS) ขึ้นมาเพื่อเป็นโล่ปกป้องตัวเอง ซึ่งสารตัวนี้แหละค่ะที่จะ

ช่วยแอนตี้ออกซิแดนซ์ต่อสู้กับมลภาวะ PM 2.5 ที่ทำร้ายผิวต่างๆ และยังช่วยฟื้นบำรุงผิว ลดความหมองคล้ำอีกด้วย


▪ EPS SEAFILL

สารสกัดบริสุทธิ์จากแพลงตอนน้ำลึก

ช่วยฟื้นบำรุงริ้วรอยลึกให้กลับมาเรียบเนียน


▪ SAND LILY EXTRACT

สารสกัดจากดอกไม้สีขาว

ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย



นอกจากนั้น

Trylagina Ultimate Collagen Serum

ยังมีนวัตกรรม

AGE DEFENSE INTELLIGENT CAPSULE

ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกแบบในรูปของแคปซูลอัจฉริยะ บรรจุด้วยสารเปปไทด์ที่

ช่วยเรื่องลดริ้วรอย ร่องลึก ฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาวน์อย่างเป็นธรรมชาติ



• • วิธีใช้ Trylagina Ultimate Collagen Serum • •

วิธีการใช้

Trylagina Ultimate Collagen Serum

หลังจากที่เช็ดทำความสะอาดหน้าด้วยคลีนซิ่ง , ล้างหน้า และเช็ดหน้าอีกครั้งด้วยโทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว เมื่อมาถึงสเต็ปการบำรุงด้วยสกินแคร์

แนะนำว่าให้ใช้ Trylagina Ultimate Collagen Serum ทาเป็นตัวแรกเลยค่ะ โดยทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอนนะคะ

หลังจากนั้นก็ตามด้วยครีมหรือสกินแคร์ตัวอื่นๆ ได้เลย



• • ผลลัพธ์การใช้ Trylagina Ultimate Collagen Serum • •

รีวิวเนื้อผลิตภัณฑ์ :


ส่วนแรกเราขอรีวิวเนื้อผลิตภัณฑ์กันก่อนค่ะ

จะเป็นเนื้อครีมเจลสีขาวขุ่น แลดูเป็นเซรั่มเข้มข้น แต่เกลี่ยง่ายแล้วก็ซึมซาบลงผิวเร็วมากๆ ส่วนตัวไม่รู้สึกเหนอะหนะหรือหนักหน้าเวลาใช้

เราแค่แต้มเซรั่ม 5 จุดลงบนใบหน้าไม่ต้องเยอะมากก็สามารถทาได้ทั่วบริเวณผิวหน้าแล้วค่ะ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนทาแล้วรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย



หลังจากลองทาเซรั่ม


Trylagina Ultimate Collagen Serum

สิ่งที่รู้สึกได้ทันทีหลังทาเลยก็คือ ผิวดูชุ่มชื่นฉ่ำน้ำมากๆ แลดูเปล่งปลั่งไม่แห้งกร้านเหมือนผิวได้รับการฟื้นฟูบำรุงขั้นสุด ผิวหน้านุ่มนิ่มเย็นสบาย

ยิ่งโบกก่อนนอนเช้าตื่นมารู้สึกผิวดีพร้อมสู้มลภาวะขึ้นมากๆ เลยค่ะ

สรุปผลการใช้งาน :ก่อนใช้จะเห็นได้ว่าผิวเราดูหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื่น บางจุดมีริ้วรอยบุกด้วยแต่หลังจากลองใช้Trylagina Ultimate Collagen Serumต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์ รู้สึกได้ว่าผิวได้รับการฟื้นบำรุงให้ชุ่มชื่นแลดูเรียบเนียน พอออกไปเจอกับมลภาวะ แสงแดดข้างนอกก็รู้สึกว่าผิวเราแข็งแรงขึ้น ไม่ระคายเคืองผิวเหมือนช่วงแรกๆ นอกจากนั้นยังแอบรู้สึกว่าผิวแลดูใสขึ้นด้วย ริ้วรอยบางจุดที่มีก็แลดูจางลงส่วนตัวผลลัพธ์ค่อนข้างเป็นที่พอใจสำหรับเราเลยค่ะ


▶ 4. บำรุงผิวให้ล้ำลึกขึ้นด้วยการมาส์ก

บำรุงต่อไม่รอแล้วน้า นอกจากเรื่องสกินแคร์ที่ต้องพิถีพิถันแล้วช่วงนี้แนะนำให้เพื่อนๆ มาส์กหน้าเป็นประจำอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะเพราะว่าการมาส์กหน้าถือเป็นการบำรุงผิวขั้นกว่า สามารถบำรุงได้ล้ำลึกและวิธีนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวเราได้อย่างรวดเร็วทันใจเลยค่ะโดยควรมาส์กหน้าอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเลือกมาส์กหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของเราแต่ถ้าหากช่วงนี้ใครที่มีปัญหาแพ้ฝุ่น ขาดความชุ่มชื่น ก็ควรเลือกมาส์กที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวและเหมาะกับผิวแพ้ง่ายไปก่อน เช่นมาส์กที่มีส่วนผสมของ ชาเขียว , สาหร่าย หรือว่านหางจระเข้เป็นต้นค่ะ วิธีนี้จะช่วยปรับสภาพผิวเราให้กลับมาเป็นปกติได้นะคะ


▶ 5. ทากันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

แค่ก้าวขาออกจากบ้านผิวหน้าเราก็โดนทำร้ายรัวๆ แล้วค่ะ ถ้าบำรุงอย่างดีแต่ไม่ได้ป้องกันต่อ ผิวก็พังอยู่ดีนะคะ ข้อสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งเพราะครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวเราจากแสง UV ตัวการที่ทำร้ายให้ผิวคล้ำเสีย นอกจากนั้นครีมกันแดดยังช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอย เพราะต้นเหตุของริ้วรอยมาจากแสง UVA ที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวของเราทำให้เกิดริ้วรอยตามมา ยังไม่รวมปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือแม้แต่อาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วยรู้แบบนี้ยิ่งต้องห้ามลืมทาครีมกันแดดเลยนะคะสำหรับครีมกันแดดที่เราใช้อยู่ประจำจะเป็นตัวนี้ค่ะTRYLAGINA Collagen UV Expert SPF50+ PA++++สามารถปกป้องผิวได้ทั้ง UVB และ UVA และยังครอบคลุมถึงรังสีที่ทำร้ายผิวลึกที่สุดอย่าง UVA I และ UVA II ด้วย นอกจากปกป้องผิวจากแสงแดดแล้วเขายังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวไปในตัวด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นAlteromonas ferment extractช่วยให้ผิวเรียบเนียน,Ascorbyl tetraisopalmitateปรับผิวให้กระจ่างใส,Crocus chrysanthus bulb extractกระตุ้น fibroblast สร้างคอลลาเจน และ อิลาสติน,Vitamin Eให้ความชุ่มชื้นและยับยั้งการระคายเคืองและHydrolyzed collagenป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยรักษาความยืดหยุ่นให้กับผิว เรียกว่าเป็นครีมกันแดดตัวโปรดของเรา ทั้งเกลี่ยง่าย คุมมัน กันแดดดี แถมยังมีฟีเจอร์บำรุงผิวไปในตัว ตอนนี้ขาดไม่ได้เลยค่ะ



ในช่วงวิกฤตทั้งมลภาวะ ฝุ่นควัน รวมไปถึงโรคระบาดแบบนี้ เรายังคงต้องใช้ชีวิตภายใต้หน้ากากอนามัยกันต่อไป

นอกจากสุขภาพร่างกายที่ต้องดูแลแล้ว สาวๆ ก็อย่าละเลยลืมดูแลสุขภาพผิวหน้าของเราให้มากขึ้นด้วยนะคะ

พอผ่านช่วงนี้ไปความสวยของเราจะได้ไม่หายตามไปด้วยไง

เริ่มจากลองหมั่นทำตาม 5 Daily steps ที่เราแนะนำวันนี้ก่อนเลย

ใส่ใจในเรื่องความสะอาดให้มากขึ้น ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิว และสุดท้ายอย่างลืมปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดด้วยนะคะ



แต่ถ้าใครอยากได้ตัวช่วยดูแลผิวอย่างล้ำลึก ลองหาTRYLAGINA ULTIMATE COLLAGEN SERUMมาช่วยฟื้นบำรุงผิวให้สุขภาพดี

อย่างเป็นธรรมชาติพร้อมสวยสู้ฝุ่น หรือจะลองใช้ครบเซ็ทแบบเราดูก็ได้นะคะ กู้ผิวพังหมดปัญหาผิวตามมาแน่นอน ปกติ

ขนาด 30 กรัม ราคา 2,900 บาทสามารถหาซื้อได้ที่


>>>

https://www.facebook.com/TrylaginaBrand/

หรือTel. : ✆1577Line@ : @brights (มี @ ด้วยนะคะ)



เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้