สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeสายชิลล์ ( และหุ่นพัง ) ทั้งหลาย ╮(︶▽︶)╭' อยากผอมแหละ แต่ไม่อยากออกกำลังกาย 'น่าจะเป็นความในใจของผู้หญิงหลายๆ คน ( รวมถึงเราด้วย อิอิ! ) แหม น้ำหนักก็เยอะแหละ ไขมันรอบพุงก็มีกรุบกริบ แต่ใช้ชีวิตยุ่งวุ่นวายมาทั้งวันแล้ว ปวดหัวกับโปรเจกต์งาน ตีกับเพื่อนร่วมงาน ทุ่มพลังทั้งหมดไปกับการเดินทางไปกลับจากออฟฟิศ/ มหาลัยมากพอแล้ว จะให้แบกสังขารไปฟิตเนสอีกก็ไม่ไหวบางทีฝืนไปก็วิ่งบนลู่เหนื่อยๆ ไม่ถึงสิบนาที หรือยกเวทไม่ถึงสิบครั้งก็จะตายแล้วอะ เหนื่อย เหมือนวิญญาณจะหลุดจากร่างให้ได้ ไม่เอาละ เปลี่ยนวิธีดีกว่า หุ่นก็อยากเป๊ะ แต่ออกกำลังก็ไม่ใช่ทาง เอ้อ แล้วจะผอมยังไงดีล่ะนี่??ใครๆ ก็รู้แหละว่า อยากลดความอ้วนก็ต้องทำทั้งคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันไป แต่ความลับที่หลายคนอาจไม่รู้คือ' อาหาร 'คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำหนักลดเป็นหลัก ถ้าจัดการมื้ออาหารดีๆ และขยับแข้งขาบ้าง ( ที่ไม่ใช่การออกกำลังจริงจัง ) ก็ทำให้หุ่นสวยเพรียวได้เหมือนกันแม้จะต้องใช้เวลานานกว่าปกติก็ตาม ถ้าคิดว่ารับได้กับเงื่อนไขนี้ ก็มาทำตาม' 7 ทริคไดเอทสไตล์สาวขี้เกียจ 'ในชีวิตประจำวันในบทความนี้กันเลยค่ะซิส (*¯ ³¯*)♡
1. ดื่ม 'กาแฟดำ' ทุกครั้งที่อยากกินของหวาน
เคยสังเกตไหมว่า ทำไมเครื่องดื่มของสาวๆ เกาหลีที่หุ่นผอมเพรียวบางกันเยอะมาก มักจะมีเมนูโปรดเป็น ' iced americano ' หรือเรียกภาษาไทยง่ายๆ ก็คือกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล นั่นเพราะกาแฟเพียวๆ มีคาเฟอีนสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานอย่างเต็มที่มากขึ้น
อีกทั้งไม่มีส่วนผสมของนม ครีมเทียมและน้ำเชื่อม ตัวผงกาแฟเองแทบจะไม่มีแคลอรี่เลย จึงเหมือนดื่มน้ำเปล่าเพียวๆ สาวเกาหลีบางคนดื่มแบบ decaf ( สกัดคาเฟอีนออก แต่ยังมีรสขมเหมือนกาแฟทั่วไปอยู่ ) ตอนก่อนนอนด้วยซ้ำ
สรรพคุณของกาแฟดำมีมากมาย ทั้งเป็นยาระบายอ่อนๆ ไม่ทำให้ท้องผูก ขับถ่ายได้ดี เพียงดื่มช่วงเช้าหลังตื่นนอน, ช่วยระงับความหิว เพราะรสขมๆ ที่ติดปลายลิ้นจะทำให้ไม่อยากกินของหวานหรือของจุกจิก ทำให้ลดแคลอรี่ส่วนเกินต่อวันได้ชะงัด
ยังไม่นับประโยชน์ด้านสุขภาพที่ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยชะลอวัย ป้องกันโรคมะเร็ง และบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ ดังนั้นจะไปคาเฟ่หรือร้านอาหารครั้งต่อไป สั่ง ' กาแฟดำ ' ไว้ก่อนจะดีที่สุดค่ะ
2. พก 'ผักหั่นชิ้นเล็กๆ' ใส่กล่องไปทั่วทุกที่
สาวๆ บางคนมีอาการ ' เหงาปาก ' จนติดเป็นนิสัย ไม่ใช่คนช่างเม้าท์อะไรหรอก แต่ต้องมีอะไรเคี้ยวใส่ปากตลอดเวลา หลายคนพกขนม เยลลี่เคี้ยวหนึบหรือลูกอมหวานๆ ไว้ในกระเป๋าก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เวลาเบื่อๆ เซ็งๆ หรือเครียด อยากได้อะไรเคี้ยวระบายอารมณ์ ก็หยิบขนมพวกนี้แหละมากิน
โดยไม่ได้สนใจว่าถุงนึงให้พลังงานเท่าข้าวครึ่งจาน บางทีไม่ได้หยุดแค่ถุงเดียวซะด้วย เคี้ยวเช้า สาย บ่าย เย็น สรุปได้พลังงานส่วนเกินเหมือนกินข้าวเพิ่มไปสองจาน จะไม่อ้วนยังไงไหวล่ะคะซิสขา
ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาเลิกเคี้ยวจุบจิบได้จริงๆ ก็เปลี่ยนชนิดอาหารจากขนมหวานน้ำตาลท่วมเหล่านั้นเป็น ' ผักผลไม้สดหั่นแท่ง ' เช่น แครอท แตงกวา ใส่กล่องทัปเปอร์แวร์ติดตัวไปทำงาน หิวเมื่อไหร่ก็หยิบมาแทะได้ตามสบาย ข้อดีคือผักเหล่านี้มีไฟเบอร์สูง แคลอรี่ก็แสนจะต่ำเตี้ยติดดิน กินจนอิ่มตื้อยังไงพลังงานก็แทบไม่กระดิก
แถมยังช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย และยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง, ต้านการอักเสบในร่างกาย เป็นต้น แค่ลองกินดูสักเดือนสองเดือน รับรองว่าเห็นความต่างในสัดส่วนชัวร์ๆ ค่ะ
3. กินอาหารที่ 'ไม่มีเนื้อสัตว์' อย่างน้อย 1 มื้อต่อวัน
สาวๆ หลายคนเรียกได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่แท้ทรู ต้องมีเนื้อสัตว์อยู่ในทุกมื้ออาหาร ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนเยอะเกินไป ทำให้ได้แคลอรี่ส่วนเกินโดยไม่จำเป็น เมื่อกินแบบนี้ต่อเนื่องโดยไม่ได้ออกกำลังเพิ่มเติม
น้ำหนักอาจพุ่งขึ้นแบบรุกคืบทีละนิดเดือนละครึ่ง-1 กิโล จึงไม่แปลกที่พอเข้าสู่ปีใหม่ น้ำหนักก็เลขใหม่ด้วยเช่นกัน หมายถึงอ้วนขึ้นนั่นแหละค่ะ ไม่มีความหมายแฝง #กระซิก
ลองปรับพฤติกรรมง่ายๆ จากการกำหนดให้ 1 มื้ออาหารต่อวันต้อง ' ไม่มีเนื้อสัตว์ใดๆ ปนอยู่เลย ' จะเป็นเช้า เที่ยง หรือเย็นก็ได้แล้วแต่สะดวก เน้นกินอาหารที่ทำจากพืช ( plant-based ) จะดีมาก เพราะแคลอรี่ค่อนข้างต่ำ มีไฟเบอร์ที่อิ่มนานกว่า และไม่ทำให้ท้องอืด มีแก๊ส ไม่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนอีกด้วย
หากเริ่มเบื่อผักผลไม้สดแล้ว เราแนะนำเป็น' เนื้อแฮมเบอร์เกอร์ปั้นก้อนที่ทำจากพืช 'ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่หลายยี่ห้อให้รสชาติเหมือนเนื้อจริงๆ ทำให้อรรถรสในการกินยังคงอยู่ ไม่ทรมาน จะซื้อในซูเปอร์มาย่างเองก็ได้ หรือถ้าไม่อยากทำเอง ร้านอาหารวีแกน มังสวิรัติก็มีหลายเมนูที่ทำจากเนื้อเหล่านี้ให้ลองชิมค่ะ
4. ไม่ดื่ม 'น้ำอัดลม/ชา/กาแฟใส่น้ำตาล' ทุกชนิด
สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวเพิ่มน้ำหนักให้อ้วนขึ้น ไขมันส่วนเกินล้นหลามได้ง่ายที่สุด มงอันดับหนึ่งต้องยกให้ ' น้ำตาล ' ผู้หญิงหลายคนไม่ได้กินข้าวเยอะเลย เหลือข้าวติดจานตลอด แต่เป็นเจ้าแม่ชานมไข่มุก ( ต้องหวาน 100% ด้วยนะเดี๋ยวไม่อร่อย )น้ำหวาน น้ำอัดลมต่างๆ หาดื่มได้ตลอดทั้งวัน สุดท้ายมาเริ่มรู้สึกตัวตอนกระโปรงหรือเสื้อเชิ้ตตัวเดิมเริ่มคับแน่น ติดกระดุมตัวสุดท้ายไม่ลง ซิปรูดขึ้นไม่สุด หน้าท้องเริ่มก่อตัว เพราะน้ำหนักพุ่งทะยานเกินพิกัดแล้ว ยังไม่รู้ตัวอี๊กกก
วิธีที่เริ่มทำได้ง่ายที่สุด ตั้งแต่ตอนนี้เลยก็คือ ' ลดน้ำตาลในสิ่งที่กินให้มากที่สุด ' โดยเฉพาะเครื่องดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม ควรเลือกที่ไม่ใส่น้ำตาลเลยจะดีที่สุด เพราะอะไรก็ตามที่เป็นน้ำแล้วใส่น้ำตาลลงไปเพิ่ม ก็เหมือนเธอกรอกแคลอรี่ส่วนเกินใส่ปากรัวๆนอกจากน้ำตาลจะไม่มีสารอาหาร แร่ธาตุใดๆ แล้ว ยังกระตุ้นให้ร่างกายหิว กินจุกจิกบ่อยขึ้นอีกด้วย ถ้าแรกๆ ยังติดรสหวานอยู่ ก็ใช้สารให้ความหวานอย่างหญ้าหวานและสตีเวียไปก่อนได้ แต่ถ้าใส่เยอะเกินไป ก็ทำให้ร่างกายโหยหาความหวาน ไดเอทไม่สำเร็จอยู่ดี ถ้าจิตแข็งพอ ไม่ใส่อะไรเลยจะดีกว่า
5. ทำงานที่ใช้ 'โต๊ะทำงานแบบยืน (Standing Desk)'
สาเหตุหนึ่ง ( เรียกว่าสาเหตุหลักเลยดีกว่า ) ที่สาวออฟฟิศส่วนใหญ่น้ำหนักขึ้นหลังเรียนจบ นัดแก๊งมาเจอกันอีกที 3-5 ปีหลังจากนั้น บางคนอาจไซส์ใหญ่ขึ้นจนตกใจ เพราะชีวิตคนวัยทำงานนั่งโต๊ะแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานเลยน่ะสิ!
นั่งแหมะติดโต๊ะ ทำงานที่เจ้านายสั่งตั้งแต่เช้าจรดเย็น 8 ชั่วโมง++ เผลอๆ มีโอทีนั่งต่อจนดึก ได้ขยับตัวบ้างก็ตอนลุกไปเข้าห้องน้ำ เก็บของลงลิฟต์กลับบ้านเท่านั้นแหละ หลายครั้งเครียดงานก็หาของหวานเข้าปากอีก ไขมันมาเยือนเลยจ้า
ถ้าบริษัทของสาวๆ คนไหนค่อนข้างยืดหยุ่นเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงาน หรือตอนนี้ทำงานที่บ้าน work from home อยู่แล้ว เราขอเสนอไอเทมดีๆ อย่าง ' โต๊ะนั่งทำงานแบบยืน ' ที่มีพื้นที่เหมือนโต๊ะปกติทุกอย่าง แต่ไม่มีเก้าอี้ ให้เธอได้ยืนทำงานทั้งวัน
มีงานวิจัยเผยว่า แค่ยืนเฉยๆ 6 ชั่วโมงก็เผาผลาญเพิ่ม 54 แคลอรี่ต่อวัน อาจจะฟังดูน้อย แต่ถ้าบอกว่า 1000 แคลอรี่ต่อเดือน ฟังดูเข้าใกล้ความผอมมากขึ้นรึยัง? ไม่ต้องทำอย่างอื่นเพิ่มเลย แค่เปลี่ยนจากนั่งเป็นยืน ผ่านไป 3-4 เดือนเธอก็รู้สึกตัวเบาขึ้น น้ำหนักลดลงได้แล้วค่ะ
6. ทำอาหารกินเองที่ 'ถ่ายรูปสวย' และ 'สารอาหารสูง' แบบ 2in1
2021 แล้ว อยู่ในยุคโซเชียลเต็มตัว ถ่ายอะไร โพสต์อะไรลงไปก็ มีคนจับตามอง จึงมีเทรนด์หนึ่งเรียกว่า Instagram Food หรือการจัดจานให้สวยเพื่อถ่ายรูปลงไอจีโดยเฉพาะ ทำกันทั้งคนทั่วไปและร้านอาหารต่างๆ ที่โฆษณาลงอินเตอร์เน็ต รูปที่จัดสี องค์ประกอบของอาหารสวย ก็มักจะได้ยอดไลก์หลักพันหลักหมื่นเสมอ
สาวๆ ทั้งไทยและเทศที่ไดเอทอยู่มากมายที่เปิดแอคเคาท์เพื่อลงรูปอาหารสุขภาพ แต่สียังสวยน่ากินโดยเฉพาะ แล้วทำไมจะไม่เข้าร่วม เป็นหนึ่งในนั้นดูบ้างล่ะ?
หัดทำอาหารเองแบบโฮมเมด เพื่อถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลบ้างสิ ไม่จำเป็นต้องมีทักษะสูงอะไรมากมายก็ได้ค่ะ แค่จัดจานสลัด 5 สี มีสีม่วง เขียว เหลือง แดง ขาว รวมๆ กันก็ดูน่ากินแล้ว
นอกจากมีรูปไว้ดูเป็นหลักฐาน เป็นไดอารี่อาหารว่าวันๆ กินอะไรบ้างแล้วนั้น ยังเป็นทริคทางจิตวิทยา กระตุ้นให้เธอทำอาหารที่สารอาหารสูงและหลากหลายเมนู เพื่อให้แอคเคาท์มีรูปที่ไม่ซ้ำ และเป็นตัวอย่างให้คนที่ฟอลโลว์อยู่ได้ด้วย อาหารที่น่ากินและเฮลตี้ระดับสิบ เธอเองก็เริ่มทำได้!
7. ถ้าต้องกินอาหารนอกบ้าน ให้ 'กินแค่ครึ่งเดียว' เสมอ
ชีวิตสาวๆ อย่างเราจะให้ทำอาหารโฮมเมดทุกมื้อตลอดเวลาก็คงไม่ไหว เบื่อรสมือตัวเองแย่ ยิ่งอายุยังน้อย มีเรื่องให้ต้องใช้ชีวิตมากมาย ทั้งไปเที่ยว ไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน หรือเป็นสายคาเฟ่ตะลุยกินเมนูใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าหลีกเลี่ยงการกินอาหารนอกบ้านที่คนอื่นทำไม่ได้
เราไม่มีทางรู้ว่าหลังครัวเขาใส่อะไรลงไปในอาหารจานนี้บ้าง กะแคลอรี่ชัดเจนไม่ได้ ถ้ากินหมดจานก็กลัวอ้วน แต่ถ้าไม่กินเลยก็เกินไปหน่อย คงดูเป็นตัวประหลาดในโต๊ะแน่ๆ ให้สั่งแต่น้ำเปล่ามันก็จะทรมานเกิน เมนูแคลอรี่ต่ำก็ไม่ได้มีให้สั่งทุกร้าน เอ๊ะ ยังไงดีน้า?
ไม่ยากเลย ทริคของเราไม่ต้องสั่งเมนูแปลกๆ ไม่ใส่โน่น ไม่เติมนี่ ที่หวาดเสียวแม่ครัวจะขว้างตะหลิวใส่ หรือดื่มแต่น้ำเปล่าจนเพื่อนมองแบบสมเพช จะสั่งอะไรมาก็ช่าง ขอให้สาวๆ ยึดหลักการ' กินแค่ครึ่งเดียว 'โดยใช้ช้อนปักขีดเส้นแบ่งที่จาน และกินแค่ครึ่งใดครึ่งหนึ่งของจานนั้นก็พอ
ถ้ากินแค่ครึ่งนึง อย่างมากก็แคลอรี่เท่ากินข้าวปกติทั่วไป เซฟไปได้หลายร้อยแคลอรี่เลย แถมยังอิ่มแบบพอดีๆ ไม่อิ่มจนจุกเท่ากินหมดจานอีกด้วย ปล่อยให้อาหารเหล่านั้นเป็นเศษลงถังขยะไป ดีกว่าไปสะสมเป็นไขมันตามตัวซิสนะคะ #บีบมือ
--------------------------------
อยากหุ่นสวย แต่ไม่ได้ออกกำลังเผาผลาญไขมันเป็นเรื่องเป็นราว สามารถทำให้เป็นจริงได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ อย่างทั้ง 7 ข้อในบทความนี้ จะใช้ชีวิตแบบกินแต่ของหวาน ไขมันสูงปรื๊ดทุกมื้อตลอดเวลา แล้วภาวนาให้น้ำหนักลงก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน -_-หลักๆ ก็เน้นควบคุมอาหาร เลือกกินสิ่งที่มีประโยชน์ ผักผลไม้น้ำตาลต่ำอย่าให้ขาด ดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยในการกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่ม และใช้เวลาช่วงทำงานให้เบิร์นแคลอรี่ส่วนเกินออกจากตัวบ้างเท่านั้นเอง ง่ายมาก ใครก็ทำได้แน่นอน
แม้น้ำหนักจะไม่ลงฮวบเหมือนคนที่มีแพลนไดเอทอย่างเคร่งครัด แต่อย่างน้อยน้ำหนักจะไม่เพิ่มไปกว่าเดิม และถ้าเธอค่อยๆ เพิ่มความแข็งแรงและไปออกกำลังกายให้จริงจังมากขึ้น น้ำหนักในฝัน สัดส่วนโค้งเว้า ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปขอเตือนนิดนึงว่า ถ้ายังไม่ไหวก็ทำแบบนี้ไปก่อน แต่ถ้าคิดว่าตัวเองฟิตได้เมื่อไหร่ ก็อย่าละเลยการออกกำลังกายน้า อย่างน้อยก็ช่วยปั้นหุ่นให้สวยขึ้นและมีสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ (☆ω☆)
Cr. 50 Ways to Lose Weight Without Exercise [eatthis.com]
https://www.eatthis.com/how-to-lose-weight-without-going-to-the-gym/
Cr. Health Benefits of Black Coffee [webmd.com]
https://www.webmd.com/diet/health-benefits-black-coffee#1