ฮาโหลสาวๆ
ถ้าพูดถึง " โลชั่น " และ " โทนเนอร์ " สาวๆ หลายคนยังมีความสับสนกันอยู่นิดหน่อย โดยในประเทศญี่ปุ่นโลชั่นบำรุงเขาจะเรียกว่า kesho-sui ( 化粧水 ) โดยลักษณะเนื้อสัมผัสของมันนั้นจะเหมือนน้ำ ที่ใช้ทาก่อนบำรุงผิวซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามันคือ " โทนเนอร์ " แต่ความจริงก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะโลชั่น หรือน้ำตบของญี่ปุ่นนั้นจะทาด้วยการตบเบาๆ ลงบนผิวหน้าตรงข้ามกับโทนเนอร์ ที่จะเทลงบนสำลีแล้วเเช็ดหน้าให้สะอาดซึ่งนี่คือเคล็ดลับที่ทำให้สาวๆ ญี่ปุ่นหน้าเด็ก หน้าใสวันนี้เราก็เลยจะมาชี้เป้า 7 แบรนด์น้ำตบดีๆ จากญี่ปุ่น ที่น่าไปซื้อตามกันรับรองว่าแต่ละแบรนด์เริ่ดมากจริงๆ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลนยดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. Kose Sekkisei Lotion
Sekkisei นั้นเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของแบรนด์ Kose ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ของ Sekkisei
ถือว่าเป็นตัวยอดฮิตของแบรนด์นี้ก็คือ " โลชั่น " หรือ " น้ำตบ " ของเขานี่ล่ะ
ซึ่งเขาก็เคลมมาว่า Kose Sekkisei Lotion ตัวนี้ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งจากนิตยสารและเว็บไซต์ความงามากมาย
สำหรับเราโลชั่นตัวนี้
ใช้แล้วก็แห้งซึมไวดี ใช้ต่อเนื่องแล้วผิวหน้ากระจ่างใสและชุ่มชื้นขึ้น
แต่ขอ
ตัดคะแนนตรงที่
มันผสมแอลกอฮอล์ ดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับคนที่แพ้ง่าย
แพ้แอลกอฮอล์นะคะ ขอเตือนไว้เลย
2. Hada Labo Gokujun Hyaluronic Lotion
ต้องบอกเลยว่าถ้าเธอไม่รู้จักตัวนี้ เธอก็เอาท์มากๆ เพราะเจ้าน้ำตบตัวนี้โด่งดังมากๆ ( โด่งดังมาหลายต่อหลายปี ) ซึ่งมันก็หลายสูตรให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะสีทอง สีแดง สีน้ำเงิน บลาๆ แ
ต่ที่เราชอบที่สุดก็เห็นจะเป็นสูตรดังเดิมของเขา
เพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าแล้ว
มันยังให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ทาลงบนผิวแล้วให้ความรู้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้นทันที
ไม่เหนียวเหนอะหนะ ข้อดีอีกอย่างคือ
เจ้าตัวนี้มันไม่มีกลิ่นมากวนใจ
ดังนั้นใช้แล้วสบายๆ ผิว พร้อมบำรุงในขั้นต่อไปค่ะ
3. Naturie Hatomugi Lotion Skin Conditioner
ถ้าเธอคิดว่า 2 ตัวแรกที่เราพูดถึงไปนั้น มีราคาสูงเกินไป เราขอแนะนำ Hatomugi แทน
เพราะโลชั่นตัวนี้ เป็นโลชั่นที่ราคาถูกมากๆ ก็อย่างที่เห็นว่าขวดใหญ่ๆ นั้น ราคาแค่หลักร้อยต้นๆ
ซึ่งด้วยความใหญ่ที่เองที่ทำให้ครองใจผู้หญิงหลายคนรวมถึงเราเองด้วย
โดยสำหรับตัวเราแล้ว เราว่ามันก็ให้ความชุ่มชื้นระดับหนึ่ง
แต่ข้อเสีย ( สำหรับเรา ) คือไม่มีความหนืด ไม่ลื่น มันก็เลยให้ความรู้สึกเหมือนเอาน้ำเปล่ามาตบๆ เข้าหน้าธรรมดาๆ เท่านั้นค่ะ
ดังนั้นเราก็เลยไปแอบไปอ่านรีวิวของคนญี่ปุ่นมา ซึ่ง
ส่วนใหญ่เขาจะแนะนำให้ใช้แบบพอกหน้าจะมากกว่า
คือให้เทลงบนสำลี แล้ววางไว้บนหน้าประมาณ 3 ถึง 10 นาที แ
ละเมื่อเราได้ลองทำแล้ว เราก็ชอบแบบที่ใช้พอกหน้า มากกว่าการใช้แบบที่เป็นน้ำตบ
นะคะ
4. Nameraka Honpo Sana Tonyu Isoflavone Lotion
คือต้องบอกว่า ตัวนี้ที่ญี่ปุ่นนั้นเขาเคลมหนักมาก บอกว่าในประเทศญี่ปุ่น เจ้าโลชั่นตัวนี้จะขายออกในทุกๆ 5 วินาที และผู้หญิงทั่วประเทศญี่ปุ่น 1 ใน 3 คน เลือกใช้!!
โห..เคลมหนักขนาดนี้ ไม่ลองคงไม่ได้แล้ว ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าเจ้าตัวนี้ มันมีส่วนผสมของนมถั่วเหลือง หรือไอโซฟลาโวนที่จะช่วยปรับปรุงผิว
โดย
หลังจากใช้ เราก็ต้องบอกว่าประสิทธิภาพของมันอยู่ในระดับกลางๆ
คือ
ให้ความชุ่มชื้น ทำให้หน้ามันน้อยลง
แต่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับสาวแพ้ง่ายเท่าไหร่
นะคะ แต่สิ่งที่เราประทับใจ ก็เห็นจะเป็นราคาที่ไม่แพงมาก ดังนั้นสาวคนไหนที่งบน้อย และไม่ค่อยมีปัญหาผิวก็ลองใช้ตัวนี้ได้นะคะ
5. Shiseido FT SENKA Facial Lotion from Facial Serum , Refresh
Senka เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของแบรนด์ชิเซโด้ โดยโลชั่นตัวนี้ถูกพัฒนามาจาก " เซรั่มที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่น " โดยเจ้าตัวนี้ได้รับรางวัลให้เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ดีที่สุดในปี 2554 โดย @cosme
เพราะราคาไม่แพง แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผิวของสาวๆ ดูสดใสขึ้น
ซึ่ง
สิ่งที่เราชอบมากๆ ของตัวนี้ก็คือเรื่องของความชุ่มชื้น
ทาปุ๊บ รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น เหมาะมากสำหรับสาวผิวแห้ง แต่ขณะเดียวกันก็คือทาแล้วซึมไวมาก ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ลองใช้ ก็ไปลองกันนะคะ
6. ORBIS Aqua Force Lotion M
ORBIS Aqua Force Lotion เป็นโลชั่นตัวดังที่ขายมายาวนานมากๆ ในประเทศญี่ปุ่น
โดยมันจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวหน้าของเรามีสุขภาพดี
เตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงขั้นต่อไป ข้
อดีของโลชั่นตัวนี้ก็คือ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
นอกจากนี้ คนผิวธรรมดาถึงผิวแห้งก็ใช่ได้ แต่สำหรับสาวผิวมันก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะเขามีสูตร Aqua Force Lotion L ให้เธอไปเลือกใช้กันนะคะ ดังนั้นใครที่มีผิวแห้งมากๆ ต้องไปลองใช้ตัวนี้นะคะ
7. Muji Light Toning Water
จริงๆ แล้ว สำหรับตัวสุดท้ายที่เราจะพูดถึงนี้ จะถือว่าเป็นโลชั่นก็ไม่ถูกนัก
เพราะข้างขวดเขาก็เขียนว่า " โทนเนอร์ "
แต่สำหรับเราคนที่มีความขี้เกียจสูงมาก ก็มักจะรวบเอาขั้นตอนโลชั่นและน้ำตบเข้าไปด้วยกัน ดังนั้นเราก็เลยขอนับว่าตัวนี้เป็นโลชั่นไปด้วยก็แล้วกัน
สาเหตุที่เราชอบตัวนี้ก็คือมันมีราคาไม่แพง
ใช้มากแค่ไหนก็ไม่รู้สึกเปลือง ไปญี่ปุ่นที่ไร ต้องไปขนกลับมา
ที่สำคัญคือเนื้อสัมผัสเบาเหมือนน้ำ แต่กลับให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก
ดังนั้นถ้าสาวๆ กำลังมองหาโลชั่นเนื้อบางๆ ไม่เหนียวหน้า เราก็แนะนำว่าให้ลองตัวนี้นะคะ
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับโลชั่นน้ำตบทั้ง 7 ตัวที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ หรือถ้าใครยังมีตัวไหนที่อยากให้เราลองใช้ ก็ลองบอกกันมาได้ เราจะรีบไปหาข้อมูลมาให้สาวๆ อย่างแน่นอน เอาล่ะ วันนี้ไปแล้วนะคะ ครั้งหน้าเราจะมีอะไรก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ วันนี้ไปแลวค่ะ บาย
Cr.5 Best Japanese Facial Lotion (Toner)
http://itisapieceofcake2011.blogspot.com/2016/01/the-best-japanese-lotion-toner.html
Cr.3 Best Affordable Japanese Facial Lotion, Keshosui
https://itisapieceofcake2011.blogspot.com/2019/03/3-best-affordable-japanese-facial.html
