7 วิธีสครับหน้าแบบผิด ๆ ที่เผลอทำกันมาตลอดโดยไม่รู้ตัว!!

สครับผิว วิธีขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสียแล้ว เพื่อเผยผิวใหม่ที่ใสและสวยกว่า! แต่รู้มั้ยว่าที่เราสครับกันอยู่ทุกวันนี้ ทำผิดหลายคนเลยทีเดียวเชียว สครับเม็ดๆ นี่ แค่เห็นก็ไม่คิดว่าจะมาถูบนหน้าได้อยู่แล้ว และถ้ายิ่งทำผิดวิธีมันจะแย่ขนาดไหน คิดดูจิ เพื่อไม่ให้เป็นการพลาดยาวนาน เรามารู้กันซะตั้งแด่วันนี้เลยดีกว่าว่า

7 วิธีสครับที่ไม่ควรทำ แต่คนชอบเผลอทำกันนี่มันมีอะไรบ้าง!

สครับเปล่าๆ ไม่ใช้น้ำ

ทุกครั้งที่จะสครับต้องให้หน้าเปียกน้ำก่อน อย่าเผลอสครับทั้งที่หน้าแห้งๆ หน้าเปล่าๆ ไม่เปียกเด็ดขาด เพราะเม็ดสครับมีขนาดเพียงพอที่จะทำร้ายผิวหน้าได้ การใช้น้ำจะช่วยหล่อลื่นสครับให้ถูได้ง่ายขึ้น ทำให้ไม่บาดหน้าจนเกินไป

ใช้สครับผิดประเภท

ขึ้นชื่อว่าสครับเหมือนกันก็ใช่ว่าจะใช้ด้วยกันได้หมด เพราะมันมีทั้งสครับตัวและสครับผิวหน้า ถ้าจะสครับหน้าต้องจำไว้เลยว่า หลักสำคัญที่สุดคือความอ่อนโยน สครับที่ใช้แล้วไม่ทำร้ายผิว มีความนุ่มนวล จึงจะเหมาะกับสครับหน้า แต่ถ้าเม็ดสครับมีขนาดใหญ่ ไม่ละเอียด และแข็ง ห้ามใช้กับหน้าเด็ดขาด แต่ถ้าสครับตัวก็พอได้ ฉะนั้นดูดีๆ นะคะ ว่าที่ซื้อมานั่นสครับตัวหรือสครับหน้า รวมถึงการทำสครับแบบ DIY ด้วย ถ้าทำเสร็จออกมาแล้ว สครับเป็นเม็ดใหญ่ๆ ห้ามใช้กับหน้าเด็ดขาดดดดดดดดดดดด

สครับทั้งๆ ที่ผิวสกปรกอยู่

คาดว่าหลายคนต้องพลาดข้อนี้ ไหนๆ การสครับก็ทำเพื่อให้ผิวใส สะอาดอยู่แล้ว งั้นก็ล้างทั้งๆ ที่ผิวเปื้อนๆ นี่แล๊!! แต่ถ้าทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ผิดมากๆ เพราะการสครับทั้งๆ ที่ผิวยังไม่ได้ล้าง จะทำให้รูขุมขนอุดตันจากฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนทั้งหลาย ฉะนั้นถ้าจะสครับผิว ต้องสครับหลังจากที่ผิวสะอาดแล้วเท่านั้นนะจุ๊!

สครับ..สครับ..สครับบบบบบบบ!!!!

เอ้า! ขัดๆ ถูๆ อยู่นั่น กลัวหน้าจะไม่ใสรึง้ายยยยย หลายๆ คนคิดว่าการสครับผิวเป็นเหมือนสกินแคร์ที่ต้องทำทุกวัน ผิวจะได้สวยๆ เร็วๆ หึ.. ไม่อ่ะ การสครับผิวมากเกินไปจะทำให้ผิวรู้สึกเหมือนโดนทำร้าย แต่ที่สุดแล้วต้องไม่โดนทำลายยยยย ( คิดเสียงพี่ตูนนะ ) แต่ความเป็นจริงแล้วคนละเรื่องเลย เพราะถ้าอยากจะสครับให้ได้ผล ต้องแบ่งวันสครับประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็พอแล้ว นอกนั้นก็ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ปกติก็พอ

นวดสครับผิดวิธี

หลายคนรู้แค่ว่า ควรจะสครับ แต่ไม่รู้วิธีสครับ ส่วนใหญ่จะสครับในทิศทางขึ้นลงสั้นๆ เหมือนถูผิว แต่ความจริงแล้ว เราควรจะสครับผิวเบาๆ โดยการใช้ปลายนิ้วนวดวนเป็นวงกลมเล็กๆ แล้วปล่อยทิ้งไว้ 15-20 วินาที แล้วค่อยล้างออก อย่าลืมนะว่าต้องทำอย่างเบามือ เพราะถ้าหากเราถูแรงๆ แทนที่จะเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพื่อเผยผิวนุ่มสวยมีออร่า จะกลายเป็นกำจัดผิวดีๆ ของตัวเองด้วยน่ะสิ

ผิวตรงไหนมีปัญหา ต้องยิ่งสครับ!!

ถ้าทำแบบนี้ล่ะก็ เตรียมตัวผิวเสียไปยาวๆ เลย บางทีเราอาจจะรู้สึกเป็นกังวลกับผิวบางที่ที่มันหยาบ หรือมีปัญหาอะไรสักอย่าง เลยเกิดนึกว่างั้นก็สครับออกไปสิ มันจะได้เป็นผิวใหม่สวยๆ ไง เอ้อ! คิดได้นะ 555 ถ้าผิวมันผิดปกติยิ่งต้องหยุดเลยนะคะ เพราะนั่นเป็นส่วนที่อ่อนแอ อาจเกิดอาการระคายเคืองอะไรบางอย่าง ถ้าไปขัดไปถูมันจะยิ่งแย่ ก็บอกแล้วไงว่าการสครับมันรุนแรงกว่าที่คิด ถึงได้ให้ทำแค่อาทิตย์ละ 2 ครั้งก็พอ นั่นก็ถือว่ามากแล้วด้วยซ้ำนะน่ะ แต่ตรงข้อศอกถ้าเห็นว่ามันหยาบๆ ดำๆ ด้านๆ อันนั้นขัดไปเถอะ เพราะมันหยาบเป็นปกติอยู่และ ช่วยทำให้มันนุ่มผิดปกติหน่อยนะ 555

มอยส์เจอร์ไรเซอร์เหรอ ช่างเห๊อะ!

การสครับก็คือการสครับ ไม่ได้หมายความว่าพอสครับแล้วผิวจะสวยเต่งตึงเพอร์เฟกต์! ไม่ต้องทำอะไรมากแล้ว ก็อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่าการสครับเป็นการรบกวนผิวอย่างหนึ่ง ซึ่งบางทีอาจทำให้ผิวหน้าแห้งตึง รู้สึกไม่สบายผิวหน้าเท่าไหร่ การทาครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังสครับหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วยดูแลรูขุมขนบนผิวหน้าที่เพิ่งสะอาดใหม่ๆ ให้นุ่มนวล ชุ่มชื่น ถือเป็นวิธีการปิดที่ถูกต้อง

หลักควรจำของการสครับเลยคือ

ละเอียด นุ่มนวล และไม่บ่อย

อะไรที่ดูแล้วเป็นการทำร้ายผิวหน้าจนเกินไปให้รีบหยุดทำนะคะ ไม่งั้นจากผิวที่ไม่ได้เป็นอะไรมากจะกลายเป็นแย่ลง แต่ถ้าทำถูกวิธี จากผิวหมองๆ ก็จะดูเปล่งออร่าได้เลยนะ