สมัยนี้ การไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่าย ทำให้สาวๆ หลายคน แม้กระทั่งหลินเองได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับเค้าบ้าง


( ต้องขอขอบคุณปะป๊ามากนะคะที่ไว้ใจให้หลินได้ไปเที่ยว ^0^ )


รูปภาพ:

แต่ด้วยความกระเปิ๊บกระป๊าบ เป็นชะนีไทยไปต่างแดน ย่อมที่จะมีสัมภาระเยอะ ทำให้..................

ลืม กระเป๋า กล้อง ไว้ บน รถ บัส เข้าเมืองงงงงงง......


รูปภาพ:http://i.imgur.com/XCvxeo2.jpg

หลินรู้ตัวว่าลืมกระเป๋ากล้องก็ตอนลงรถบัสมาแล้ว TToTT ทำไงดีล่ะ ? ? ?

ในใจมี 2 ทางเลือก คือ Let it Gooooo ~ กับ จะไปฝ่าฝันตามหาของคืน ( แต่นี่มันต่างแดนนะเทอววววว ) โถ่ว เริ่มต้นทริปก็เจอปัญหาซะแล้ว พูดตรงๆ เซ็งเลย( หลังจากนี้จะไม่มีรูปนะคะ เพราะกระเป๋ากล้องหายไปไม่มีกล้องถ่ายเลย เศร้าาา )

หลินเลือกแบบหลังคือ จะฝ่าฝันไปเอา แล้วจะไปเอาไงล่ะ ? สงสัยต้องเล่นบท โคนันเสียแล้ว

โชคดีจริงที่ซื้อซิมไป มีอินเตอร์เน็ต ก็เสิร์ชหาเบอร์โทรของบริษัทรถบัสที่เราไปมา จากนั้น


1. โทรไปแจ้งบริษัทขนส่งหรือรถบัสที่เราโดยสาร

2. เค้าก็จะสอบถาม สายที่เราขึ้น เวลาที่เราลงจากรถ สถานีที่เราลง บริเวณที่นั่งที่เราลืมของไว้ ลักษณะของสิ่งของ เบอร์โทรเราที่จะให้เค้าติดต่อกลับมา ( ซึ่งควรจะจำเบอร์โทรให้ได้ แต่ตอนนั้นหลินไม่รู้ หาเบอร์โทรไม่เจอ ไม่สามารถบอกเค้าได้ แต่เค้าก็สามารถติดต่อกลับมาได้ สงสัยจะดูข้อมูลจากเบอร์ที่หลินโทรไป )

3. ทางบริษัทก็จะแจ้งกลับมาว่า เดี๋ยวได้เรื่องอย่างไรจะติดต่อกลับมานะ แต่เค้าก็จะไม่รับปากว่าจะได้คืนมั้ยนะ


รูปภาพ:

ระหว่างรอ ร้อ รอ ความหวังเล็กๆ จากเจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่ง หลินก็นอยด์ๆ แหละ แบบอะไรว้า มาหายตอนนี้แล้วจะถ่ายรูปยังไงงงง ก็เลยแวะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม ขอให้ท่านช่วยเหลือหน่อย

ภายในเย็นวันนั้น เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า เจอของที่มีลักษณะคล้ายคลึง กับที่หลินได้แจ้งไว้ อยากจะให้มาช่วยยืนยันหน่อยได้มั้ย (

กรี๊ดดดดดด เจอแล้วววววววว

) แต่ตอนนั้นหลินไปไม่สะดวกจริงๆ เลยขอไปพรุ่งนี้แทนเพราะต้องไปที่บริษัทขนส่งเจ้านั้น ซึ่งอยู่ตรงสนามบินที่อยู่นอกเมืองออกไป


ตอนนั้นนึก โอ้ววว เจ้าแม่กวนอิม ท่านศักดิ์สิทธิมว้ากก เพราะตอนนั้นก็แทบจะไม่หวังแล้วว่าจะได้คืน ก็แหม ของมันมีราคา เนอะ


แต่ตอนนั้นที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเจอของ เค้าจะให้หมายเลข เพื่อนำมารับสิ่งของ ( แสดงว่ามีคนลืมบ่อยสินะ ฮี่ๆๆๆๆ ถึงมีการจัดระเบียบอย่างดี ) และ เจ้าหน้าที่ก็จะถามนะว่าเราจะมารับกี่โมง เพราะ เค้าจะได้ส่งของที่เจอไปสำนักงานที่สนามบินให้เราไปรับ หลินก็แจ้งไปว่าจะไปกี่โมงๆ

พอวันรุ่งขึ้นก็ไปรับ แจ้งเลขพัสดุกับเจ้าหน้าที่ เค้าก็จะนำของมาให้เราตรวจสอบ และทำการบันทึกข้อมูลของเราได้แก่ หน้าพาสปอร์ตไว้เป็นหลักฐาน แล้วจากนั้นก็รับของมาสวยๆ

เย้ หลินก็ได้ของคืนเรียบร้อยแว้วววววววว


ความสะเพร่าครั้งนี้สอนให้รู้ว่า สติเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าหลินไม่มีสติคงไม่รู้จะทำไง ( ตอนนั้นเจ้าของห้องได้ปลอบใจว่า ทำใจเถอะนะ ยูวววว ไม่น่าจะได้คืน ไอแอมโซซอรี่ แดท ไอ แคนท์ เฮลพํแอนี่ทิ่ง พร้อมตบบ่า ฮือออ ) และ ภาษาสำคัญมากกก เพราะ หลินต้องใช้ภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ เพื่อสื่อสารให้ได้

เห็นมั้ยคะ ไปเที่ยวต่างประเทศ ของหาย ก็ยังพอหาของคืนได้

อยากให้อุทาหรณ์เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ

เดี๋ยวครั้งหน้า หลินมีประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ๆ มา จะมานำแชร์ให้เพื่อนได้รู้กันนะคะ

และขอกล่าวคำว่า

ส วั ส ดี ค่ า า า า า า า า า า า า


บทความที่เกี่ยวข้อง