สวัสดีค่ะ วันนี้บีบีกลับมาอีกแย้ว กลับมากับการแต่งหน้าลุครับปริญญา
ที่ต้องออกมาแต่งลุคนี้ เพราะบีเองก็เพิ่งรับปริญญามาหมาดๆ และแต่งหน้าเองด้วย มีวันที่พลาดบ้าง วันที่มึนบ้าง หน้าเละ เหงื่อตกบ้าง เลยแว้บมาแชร์ประสบการณ์การแต่งหน้ารับปริญญาค่ะ เผื่อจะเป็นอุทาหรณ์และเคล็ดลับสำหรับใครไปในตัว

อันดับแรกที่บีจะเตือนเลยคือรองพื้นต้องเป๊ะจริงค่ะ5555 วันซ้อมที่บีใช้บีบีนี่บอกเลย หน้าเยิ้มมาก เจอแดดศาลายาแล้วเหงื่ออาบหน้า หลุดหมดเลยค่ะ
อย่างที่2 สำคัญไม่แพ้กันคืออย่าแต่งหน้าหนาเกิน!!บีแอบสังเกตเห็นเพื่อนบัณฑิตหลายคนแล้ว ว่าแต่งหน้าหนาไปนี้ดดดด ตอนแต่งมาเรียน แบบอ่อนๆ ยังสวยกว่าแต่งแล้วอีก ( แรงโนะ )
อย่างที่3ขนตาต้องระวังอันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเลยจ้าา วันรับจริง ขนตาบีดันกระพือจนหลุดออกมา ทีนี้หากาวไม่ได้ ปรากฎต้องลอกออก ดึงขนตาออก อายไลเนอร์กับอายแชโดว์ก็หลุดออกมาด้วย เศร้าจัง ฮืออออ
เอาล่ะ เข้าเรื่อง มาดูการแต่งหน้ารับปริญญาในแบบฉบับของบี ที่เรียกได้ว่าเซฟและกันเหนียวสุดๆ เพราะบีเขียนจากประสบการณ์ตัวเองล้วนๆ เลยค่ะ ว่าแต่จะมีอะไร มาดูกันนนน

Skin Silky Soft Stay
Revlon ColorStay
Lavome Easy Killing Eyeliner
NARS blush bronzer duo #orgasm
Naked smoky
Lavome Orea Orea Tattoo Tint
Cherub Illamasqua
Drawing Eye Brow Duo

บีเน้นที่เครื่องสำอางน้อยชิ้น ขอจินตนาการถึงการประหยัดงบเนอะ เพราะหลายคนเรียนจบมา งานการยังไม่มีทำ ประหยัดไว้ก่อน เซฟสุดดด
***รองพื้นสำคัญมาก ตัวนี้บีใช้ Revlon ColorStay ค่ะ ถูกและดี แน่น หนาเตอะ ( เอ๊ะ ดีหรือไม่ดีนะ แต่มันอยู่ทน จงซื้อเหอะะะะ ) บีชอบที่หน้าเป๊ะ และคุมมันมากก เหมือนเกิดมาเพื่องานรับปริญญาโดยเฉพาะเลยค่ะ ดังนั้น เหล่าว่าที่บัณฑิตจงสอยมา เพราะมันจะคุ้มค่ากับคุณ

แต่ถ้าใครอยาก
ประหยัดงบ
จบในขั้นตอน ใช้แป้งของ
Skin Silky Soft Stay
แป้งพัฟจากญี่ปุ่น ก็โอเคเลยยยย ตบระหว่างวันเพิ่มเติมนิดหน่อย ก็อยู่ทนทาน คุมความมันได้ดีค่ะ เนื้อแป้งโปร่งใส เข้ากับทุกสีผิว บีว่ามันปลอดภัยดี แอบเห็นบัณฑิตบางคนหน้าลอย โน๊วโนวโนวววว ไม่โอเคเลย TT
ตัวนี้ให้หน้าเนียนใสเหมือนสาวญี่ปุ่นค่ะ และยังมีสารกันแดดด้วย มีส่วนผสมจากแร่ธาตุจากธรรมชาติ และวิตามิน อี ช่วยบำรุงผิวไปในตัวค่ะ

มี 2 สีให้เลือกค่ะ สี 01 สำหรับผิวขาว สี 02 สำหรับผิวสองสี บีใช้เบอร์ 02 นะคะ

วันที่รับปริญญา บีใช้รองพื้นกับแป้งนะคะ แต่ลองลงให้ดู ระหว่างข้างซ้ายลง
Skin Silky Soft Stay กับข้างขวา ลงทั้งแป้ง ทั้งรองพื้น
จริงๆ ทั้งสองไม่ต่างกันมาก แต่ข้างขวาที่มีรองพื้นด้วย เมื่อผ่านไป 3-4 ชั่วโมง จะเยิ้มน้อยกว่า เมื่อเทียบกับซ้ายค่ะ

ต่อด้วยการเขียนคิ้ว
อันนี้บีว่าใครเขียนแบบไหนแล้วเข้ากับตัวเอง ก็เขียนเลย แต่ต้องเลือกที่ติดทนสักหน่อย เพราะส่วนใหญ่คิ้วเป็นอะไรที่หลุดหายง่ายมาก จากประสบการณ์ตรงนะคะ เพราะเป็นคนหางคิ้วไม่ค่อยมีนั่นเอง ดังนั้นเลยหลายขั้นตอน ***ทั้งแบบดินสอ ถมทับด้วยแบบฝุ่น แล้วตามด้วยมาสคาร่าคิ้วอีกที แนะนำว่าใครมีแบบแทคทูที่ติดทนหลายวัน ก็ใช้ไปก่อนสเต็ปอื่นๆ จะดีมาก
แอบกระซิบว่าดินสอเขียนคิ้วของอินทูดี้ดีมากกกติดทนนานอันดับต้นๆของตระกูลดินสอเขียนคิ้วเลย

มามะแต่งตากันสักหน่อย
ใช้พาเลทที่มีแล้วกัน บีว่าโทนออกทองๆ น้ำตาลๆ เข้าได้กับทุกสีผิว และเป็นอะไรที่สุภาพมากที่สุดแล้ว ดังนั้นบีเลยเลือกแต่งโทนนี้ค่ะ

ใช้สี 1 ( ใครไม่มีพาเลทนี้ ให้ใช้สีที่ออกน้ำตาลทอง ทอง หรือเหลืองทอง หรือเทาออกทอง ลงนะคะ ) ลงให้ทั่วเปลือกตาเลยค่ะ
จากนั้นใช้สี 2,3 ผสมกัน ( ใครไม่มี ใช้สีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเทา น้ำตาลส้ม ประมาณนี้ ในการลงหางตา และไล่มาตรงกลางตา ) เบลนด์ให้ฟุ้งๆ เข้ากับสี 1 ที่ลงไปค่ะ
เสร็จแล้ว ง่ายมากเลย แต่บีจะบอกว่าง่ายแต่ปังนะ เพราะโทนออกทองๆ แบบนี้ เข้ากับสีผิวได้เกือบทุกเฉด ใครแต่งก็ขึ้น เป็นอะไรที่เบสิค แต่กันตายมากๆ ค่ะ

เอาเศษเหลือๆ ลงตาล่างด้วยนะคะ จะได้ดูเชื่อมกัน

กรีดอายไลเนอร์และอัดมาสคาร่ากันค่ะอันนี้ก็ตามทรงตาของแต่ละคนแต่บีว่าเลือกยี่ห้อที่ไม่แพนด้าสักหน่อยดีกว่า( เมย์เบลลีนตัวนี้ ถูกและดีค่ะ ) เหงื่อออกแบบนี้อันตรายมากๆ ค่ะ บีว่าเว้นๆ พวกอินไลเนอร์ไปดีกว่า เพราะส่วนใหญ่ไม่รอดสักแบรนด์ ลองใช้อายไลเนอร์ค่อยๆ ไล่ตาข้างในแบบไม่ระคายเคือง น่าจะเอาอยู่มากกว่าค่ะ
บีไม่ติดขนตาปลอมในลุคนี้นะคะเพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ยังหลอนอยู่ เลยคิดว่าเน้นมาสคาร่าปัดขนตาฟูๆ ก็พอแล้วค่ะ ( ประสบการณ์ขนหวลุก ขนตากระพือหลุดออกมา และหากาวติดไม่ได้ )

ไล้ดั้ง งัดดั้ง และสร้างกรอบหน้า อันนี้ก็แสนสำคัญและห้ามพลาดค่ะ เพราะเวลาถ่ายรูปจะทำให้ดูสวย มีมุมหน้า มีเบ้าดีขึ้นมาทันทีค่ะ เคล็ดลับคือ เลือกบรอนเซอร์ให้เข้ากับสีผิวเราค่ะ เช่น ถ้าผิวขาวก็อย่าไปใช้บรอนเซอร์ที่เข้มเกิน เพราะจะหลอกตามากๆ ค่ะ

ทาลิปกัน แอบเห็นหลายคนปากแดงแจ๊ดดด เอาจริงสีหลากหลายแบบนี้ก็โอเค แต่วันรับจริง อาจทำให้ลุคเราสุภาพๆ ด้วยสีโทนนู้ด และหาทิ้นที่ติดทนๆ มาใช้สักแท่งก็โอเคเลย แบบนี้ค่ะ

ปล. สี Cherub ของhttps://th-th.facebook.com/Illamasqua.th/มันดีมาก กันตายไปอีก เข้ากับทุกคนค่ะ
ปัดแก้มกัน บีเลือกใช้สีโทนพีชๆ จริงๆออกชมพู หรือส้มก็สวยเหมาะและเอาอยู่กับทุกคนนะคะ ปัดให้เข้ากับรูปหน้าเราก็โอเคแล้วเป็นอันจบขั้นตอนค่ะ เน้นสวยสุภาพ ติดทน ติดดี ดูดี และปลอดภัยที่สุด ไม่อยากให้ใครมาพลาดแบบบีจริงๆ เลยขอแอบแนะนำไว้ค่ะมาดูรูปแบบวิดีโอกันดีกว่า
ยินดีล่วงหน้า กับบัณฑิตทุกคนค่ะ ขอให้ทั้งเก่งและสวย เป็นที่ภูมิใจของตัวเอง และพ่อแม่ค่ะ ^^
บทความที่เกี่ยวข้อง

เอาให้เริ่ด!!! รวมสไตล์การแต่งหน้ารับปริญญาของเหล่าดาราเซเลบไทย ว่าจะปังจะเริ่ดแค่ไหน
https://sistacafe.com/summaries/13547

รวม ทรงผมรับปริญญา 26 ดาราไทย สวย เรียบร้อย ดูดี
https://sistacafe.com/summaries/4089

รวมไอเดีย ทรงผมรับปริญญา เก๋ได้ ทั้งผมสั้น ผมยาว!
https://sistacafe.com/summaries/1045