สวัสดีค่า สาวๆ SistaCafe ทุกคน
ช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงที่ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้ต่างมีความสุขและสนุกสนานกับสิ่งรอบตัว โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นจะมีกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเอาใจสาวขาช๊อปเป็นประจำทุกปีในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ( ปีนึงจัดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ) นั่นก็คือ " Lucky Bag " หรือ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า " fukubukuro "
พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ทางร้านค้าและแบรนด์ต่างๆจะบรรจุสินค้าลงไปในถุงและซีลปากถุงให้เรียบร้อย ไม่มีรูปภาพหรือคำอธิบายมาให้ว่าข้างในนั้นมีของอะไรบ้าง ซึ่งคนซื้ออย่างเราจะ ไม่มีทางรู้จนกว่าจะได้ซื้อกลับไปและไปเปิดลุ้นดูเองที่บ้านค่ะ
ขอบอกเลยว่าความสนุกมันอยู่ตรงนี้เนี่ยแหละว่า ในถุงที่เราซื้อมานั้นจะมีสินค้าตัวไหนที่จะถูกใจบ้าง ชอบรึเปล่า คุ้มค่าคุ้มราคากับที่เสียเงินไปมั้ย ถือว่า เป็นการเสี่ยงโชคลุ้นเอาตามชื่อเลยค่ะ ถ้าได้ของที่ดีและถูกใจก็ถือว่าถุงนั้นเป็น " Lucky Bag " !
คราวนี้เลยจะมาแนะนำให้ดูเป็นบางแบรนด์กันว่าข้างใน Lucky Bag มีสินค้าอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง คิดว่าตอนนี้เพื่อนๆ อยากจะรู้กันแล้วใช่มั้ยล่า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปดูและลุ้นพร้อมกันเลยคร่าา
1. Canmake
มาเริ่มที่กับเครื่องสำอางที่น่ารักทั้งราคาและแพ็กเกจซึ่งต่างถูกอกถูกใจทั้งสาวไทยและสาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ Canmake นั่นเอง มาดูกันว่า Lucky Bag ปีนี้ ของ Canmake มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ถุงสีชมพูน่ารักๆ บ่งบอกความคาวาอี้ของแบรนด์

ด้านในประกอบไปด้วย ( เรียงจากซ้ายไปขวา )
1.มาสคาร่าย้อมคิ้วสีน้ำตาล
2.ยาทาเล็บชนิดเจลสีชมพู ( ยาทาเล็บรุ่นนี้กำลังมาแรงในญี่ปุ่นค่ะ เพราะว่าไม่ต้องทา top coat ซ้ำอะไรให้วุ่นวาย ก็จะได้เล็บที่เงางาม ติดทน และสีสันสวยงามด้วย )
3.ประกายวิ้งๆ สำหรับทาตา
4.อายแชโดว์สี่สี โทนชมพูน้ำตาล
มาดูถุงอื่นของแบรนด์นี้กันบ้าง
1.มาสคาร่าชนิดฟิล์มกันน้ำรุ่น GOKU BUTO Volume Curl [ 04 Antique Chocolate Rose ]
2. ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น Powder Eyebrow
3.Canmake Four Shiny eyes ( อายแชโดว์ 4 สี )
4.บลัชครีม Cream Cheek สีแดงน่ารักสดใส
5.ลิปกลอส Candy Wrap Lip สีชมพูเข้ม
2. Emoda
มากันต่อกันที่แบรนด์ที่เอาใจสาว GAL อย่างแบรนด์ Emoda ขอบอกว่าเครื่องสำอางยี่ห้อนี้คุณภาพดีมากและมักได้รับการตีลงในนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่นเป็นประจำ


ด้านในก็จะประกอบไปด้วย ขนตาปลอม ลิควิดอายไลน์เนอร์ อายแชโดว์ ลิปสติก ลิปกลอส รองพื้น แค่ในถุงๆ เดียวก็ได้มาตั้งหลายชิ้น ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากเลยค่ะ บางถุงได้ของทั้งหมด มูลค่าเกินกว่าราคาที่ซื้อมาอีกนะ

ถ้าเป็น Lucky bag ราคาหมื่นเยน ก็จะได้เครื่องสำอางหลายชิ้นเลยทีเดียวตามที่เห็นในรูป ถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียวถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไป งานนี้ฟินอย่างเดียว !
3. Cezanne
ต่อไปมาต่อกันที่แบรนด์ Cezanne กันบ้าง เป็นแบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่นที่ถือว่าราคาไม่สูงมากแต่คุณภาพดีทีเดียว ในไทยก็หาซื้อได้ไม่ยากแล้วค่ะ พบได้ที่ร้านในห้างสรรพสินค้าทั่วไป เช่น Watsons เป็นต้น

เห็นได้เยอะมาหลายชิ้นขนาดนี้ ราคาเพียงแค่ 500 เยน เท่านั้น ! ถือว่าถูกและคุ้มมว๊ากก ได้มาตั้งสารพัดชิ้น ไม่ว่าจะเป็นอายไลเนอร์ มาสคาร่าย้อมคิ้ว หรือ eyebrow coat เพื่อให้ป้องกันไม่ให้สีคิ้วหลุดลอกง่ายๆ รวมราคาทั้งหมดแล้วน่าจะพันกว่าเยนด้วยซ้ำ ถ้าใครไปเห็นถุง Lucky Bag ของ Cezanne ที่ญี่ปุ่น ให้คว้ามาเลยแบบไม่ต้องลังเล

นอกจากนี้ยังได้ Cream Cheek มาอีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม หาไม่ได้ในยี่ห้ออื่นนะจ๊ะสาวๆ

อันนี้ Lucky bag ของ Cezanne อีกถุง ราคา 540 เยน ได้เครื่องสำอางมาสารพัดชิ้นตามรูปเลยค่ะ ถุงเดียวแทบจะแต่งได้ทั้งหน้าแล้วนะเนี่ย
4. Palgantong
สำหรับยี่ห้อ Palgantong ที่รู้จักกันในหมู่สาวไทยดี นั่นก็คือ แป้งฝุ่นในตำนานที่มีนิคเนมว่า ' แป้งป่าตอง ' นั่นเอง แต่แบรนด์นี้เค้าก็มีสินค้าอื่นๆ อีกด้วยเช่นกัน หน้าตา Lucky bag ของ Palgantong ในปีนี้จะจัดอะไรมาบ้าง ไปชมกันเลยจ้า

เห็นได้มาตั้งหลายชิ้นสารพัดสารเพขนาดนี้ เชื่อมั้ยว่ารวมๆ กันแล้วจะอยู่ในราคา 6,000 เยน แต่ถุงนี้ได้มาในราคาเพียง 1,500 เยน เท่านั้น ! แถมแป้งฝุ่นป่าตองยังได้แพ็กเกจลิมิเต็ด เป็นรูปมายเมโลดี้ด้วย จัดหนักจัดเต็มกันขนาดนี้ พลาดไปต้องเสียใจแน่ๆ
5. SK-II

Lucky bag สกินแคร์ไฮเอนด์อย่าง SK-II ถือว่าให้มาหลายชิ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตบพิเทร่าอันโด่งดัง คลีนซิ่ง โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ แผ่นชีทมาส์กสำหรับมาสก์หน้า แต่ถ้าให้แค่นี้อาจจะแพ้แบรนด์อื่น เพราะฉะนั้นขอแถมสำลีเช็ดหน้า 30 แผ่น และคอร์สตรวจสภาพผิวฟรี ขอย้ำว่าฟรี ! ใครได้ถุง Lucky bag ปีนี้ของ SK-II ไป รับรองว่าต้องเป็นปีที่ผิวสวยกันแน่นอน
6. SHU UEMURA

Lucky bag ของแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดัง ชู อุเอมูระ ( SHU UEMURA ) ที่มาในราคา 12,000 เยน ก็จะได้สินค้าตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ แถมยังได้ตั้งหลายชิ้นและยังได้เจ้าคลีนซิ่งออยล์ขวดใหญ่มาด้วย ก็ถือว่าเป็นถุงที่คุ้มค่าทีเดียวเลยค่ะ
7.KIEHL'S
มากันที่สกินแคร์ทางฝั่งยุโรปที่ถูกใจทั้งสาวเอเชียตะวันออกและสาวตะวันตก อย่างยี่ห้อคีลส์ ( KIEHL'S ) ด้วยแพ็กเกจที่เรียบๆ แต่ดูหรูหรา ดูสะอาดปลอดภัย และหลายผลิตภัณฑ์คุณภาพดีมาก มาดูกันว่าปีนี้ทาง KIEHL'S จะใส่อะไรมาใน Lucky bag ค่ะ

โอ้โห ขอบอกเลยว่าใส่กันมาเต็มมากทั้ง แชมพู คอนดิชันเนอร์ โฟมล้างหน้า บอดี้สครับ โทนเนอร์ เซรั่ม และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เห็นได้เยอะขนาดนี้ ราคาถุงละ 10,000 เยนเท่านั้น ใครเป็นสาวกคีลส์ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
8. L'OCCITANE en provence
มาถึงสกินแคร์สัญชาติฝรั่งเศสอีกแบรนด์ที่คุณภาพและชื่อเสียงก็สูสีกับคีลส์ นั่นคือ " ล็อกซิทาน " นั่นเอง ทาง L'OCCITANE ก็จัดเต็มไม่ให้น้อยหน้าแบรนด์อื่นๆ เช่นกัน มีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยจ้าาา

ใครชอบทาครีมน่าจะฟินกันไม่น้อยเลยล่ะ เพราะเขาใส่แฮนด์ครีม และบอดี้ครีมมาให้แบบฟูลออฟชั่นมากๆ

บางชิ้นจะได้ไซส์จริงกันไปด้วยน้า ใจป้ำนะจ๊ะ ไม่ได้ให้แค่ขวดทดลอง
เชื่อเลยว่าสาวๆ หลายคนที่อ่านบทความนี้จบ คงอยากจะวาร์ปไปที่ญี่ปุ่นทันที แต่ช้าก่อนต้องรอช่วงประมาณช่วงปลายๆ ปีจนถึงต้นเดือนมกราคมนะจ๊ะสาวๆ ปีนี้ก็เก็บเงินค่าตั๋วกันไปก่อนที่สำคัญต้องมีเงินสำหรับ Lucky bag ด้วย
และอีกสิ่งสำคัญที่อยากจะแนะนำต้องเตรียมพลังกายไปสู้กับสาวๆ ญี่ปุ่นเพื่อให้ถุง Lucky bag มาเป็นของเรา เชื่อมั้ยว่าถ้าเป็นแบรนด์ดังๆ ต้องไปต่อคิวกันตั้งแต่ตีห้าท่ามกลางอากาศหนาวๆ ถ้าไปช้าเราก็จะอดได้นั่นเอง แต่ถ้าใครไปที่ญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ก็ไม่อยากจะให้สาวๆพลาดกิจกรรมดีๆ แบบนี้กัน ถ้าสาวๆ คนไหนได้ไปขอให้ โชคดี และ สตรอง ค่ะ
สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะคะ บ๊ายบาย
Comments