สาวซิสต้าบางคนก็มี “คนคุย” หรือหนุ่มที่เข้ามาสานสัมพันธ์อยู่เงียบๆ กันหลายคน เธอชอบเขา เขาก็ ( อาจจะ ) ชอบเธอ แต่เมื่อไหร่จะขอคบเป็นแฟนจริงจังสักทีล่ะเฮ้ย!สถานะแค่รู้สึกดีด้วย บางทีมันก็เจ็บปวดนะ จะแสดงอาการหึงเวลาเขาคุยกับสาวเซ็กซี่ ( กว่าเธอสิบเท่า ) ก็ไม่ได้จะชวนไปทำอะไรที่ “คู่รัก” ทำกัน ก็ชวนได้ไม่สนิทใจ
ที่จริงมีวิธีหลายอย่างที่กดดันให้เขา “ ขอคบ ” ได้แบบเนียนๆ แต่ไม่ได้จะไปกระชากคอเสื้อ หรือทำตุ๊กตาเสน่ห์ยาแฝดใส่นะ แต่เป็นวิธีที่ว่า “ ไม่ได้เล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยเวทมนตร์ก็ต้องได้ด้วยคาถา ”เรียกว่าทำ " อุบาย " ทุกทางที่จะทำไม่ให้เขาจับได้เลยทีเดียว
ทำให้เขารู้ว่าเธอ “ สนใจ ” เขา แต่ไม่ได้ “ ขาดใจถ้าไม่มีเขา ” อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะรุกอย่างจริงจังนั่นล่ะ!ถ้าเธอเผยไต๋ง่ายไป เขาก็อาจจะขอคบแค่ระยะสั้นๆ แล้วก็ทิ้งไปง่ายๆ เหมือนกัน ดังนั้นต้องมีชั้นเชิงนะจ๊ะ!อ่านบทความนี้กันเถอะ เผยความเจ้าเล่ห์ในตัวเธอออกมา หึๆๆๆ
1.เตี๊ยมกับเพื่อนให้แกล้งล้อเธอกับเขาว่าเป็น “คู่รัก” กัน
ถ้าเธอรู้จักกับหนุ่มคนนี้พอสมควร คุยกันได้โดยไม่เคอะเขิน เรามีวิธีให้เขาขอเป็นแฟนแบบเนียนๆ!เมื่อเธอกำลังคุยกับเขาอย่างสนุกสนาน แอบกระซิบเพื่อนสาวคนสนิทให้มาร่วมวงสนทนาด้วยยิ่งคุยกันในที่สาธารณะ มีเพื่อนทั้งห้องเห็นได้ยิ่งดี!เตี๊ยมให้เพื่อน ( ที่ไว้ใจได้ ) พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า“ สองคนนี้คุยกันน่ารักจุ๋งจิ๋งจังน้า~ ถ้าเป็นแฟนกันต้องเป็นคู่ที่มุ้งมิ้งแน่ๆ เลย ”
อาจมีสถานการณ์เงิบ นกกาบินว่อน ทุกคนเงียบเหมือนป่าช้าไปสักพัก ถ้าไม่มีใครพูด เธอก็ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นซะเองเลย!ทำเป็นตลกกลบเกลื่อนไปซะ แล้วคอยสังเกตพฤติกรรมเขาต่อไปล้อครั้งเดียวแต่เขาต้องเก็บเอาไปคิดบ้างแหละ เชื่อเรา!
2. ให้เพื่อนแกล้งแยบๆ ว่า “เมื่อไหร่จะคบกันสักทีล่ะ”
บางทีการรุกด้วยตัวเองหนักมากเกินไปผู้ชายก็หนีได้นะจ๊ะ! ใช้วิธีแบบใสๆ แบ๊วๆ บ้างก็ได้ต่อไปถ้าเธอคุยกับเขา แอบเตี๊ยมกับเพื่อนให้กระซิบบอกหนุ่มว่า“ ฉันเห็นนะ นายชอบเพื่อนฉันแน่ๆ เมื่อไหร่จะคบกันสักทีล่ะ ”แต่พูดแบบทีเล่นทีจริง ขำๆ กันไป อย่าใช้น้ำเสียงจริงจังเหมือนตั้งโต๊ะสัมภาษณ์ดาราล่ะ เจอคำตอบอีกแบบเดี๋ยวจะอึ้งแรง!
ถามตรงๆ ง่ายๆ และเนียน เพราะเธอไม่ได้เอ่ยปากชวนเขาเองสักหน่อยถ้าเขาใจตรงกับเธอ เขาจะใช้โอกาสนี้ขอเธอคบเองนั่นแหละ
3. ชวนเขามาร่วมกิจกรรมที่เธอชอบทำ และพยายามทำให้เขาชวนเธอด้วย
ถ้าเธอวางแผนจะไปเที่ยวกับเพื่อนในสุดสัปดาห์นี้ ลองชวนเขาออกมาเที่ยวด้วยกันสิพูดแนวๆ ว่า“ ถ้าได้มาเที่ยวด้วยกัน นายต้องสนุกแน่ๆ ”หรือ“ มาเปิดหูเปิดตากับพวกเราบ้างสิ ”นี่ไม่ใช่การเดท แต่ก็เกือบใช่ ที่สำคัญคือไปกับกลุ่ม ยังไงก็ดูไม่น่าเกลียด ไม่ได้ไปสองต่อสองนี่นา
แผนอีกอย่างคือ ถามว่าเขาชอบทำอะไรในวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อเขาตอบก็ทำท่าดีใจ ( แบบไม่ต้องเวอร์ ) แล้วบอกว่าเธอก็ชอบงานอดิเรกแบบนั้นเหมือนกัน!หรือถ้าไม่เคยก็บอกว่า “อยากลองทำมาตลอดเลยแหละ ไม่มีโอกาสสักที นายสอนฉันหน่อยสิ”แต่ขอเตือนว่า เธอกับเขาต้องมีความสนใจคล้ายๆ กันเท่านั้นนะ! ถ้าเธอไม่ชอบแล้วทำอะไรที่ไม่ชอบมากไป จะกลายเป็นความอึดอัดซะเปล่าๆ
ถ้าเขามีใจให้เธอ เขาจะชวนเธอไป“ร่วมก๊วน”ด้วยแน่นอน คู่รักใหม่จะกำเนิดขึ้นก็คราวนี้แหละ!
4. ทำให้เขารู้ตารางชีวิตประจำวันของเธอให้ได้
การแอบบอก“ ตารางชีวิตประจำวัน ”ของเธออย่างเนียนๆ ช่วยทำให้เธอกับเขามีโอกาสเจอกันมากขึ้นเมื่อใช้เวลาด้วยกันบ่อยๆ โอกาสเป็นแฟนก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวหากได้คุยกันก็แยบไปว่า เธอชอบทำอะไรทุกวันหลังเลิกเรียน ยิ่งถ้าเธอมีสถานที่ไปประจำที่พบกันได้แบบไม่น่าเกลียดอย่างร้านกาแฟ หรือฟิตเนสก็ยิ่งเข้าทาง!
ถ้าบ้านเขาอยู่ใกล้บ้านของเธอ นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะมาหาตามคำชวนโดยไม่คิดอะไร และนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ได้แค่เธอ “ ทอดสะพาน ” นิดหน่อยเท่านั้นเอ๊งงงง
5. ขอให้เขาพาไปส่งบ้าน
ถ้าเธอมีงานด่วนที่ต้องไปธุระ หรือแม้แต่การกลับบ้านหลังเลิกเรียน/ทำงาน ใช้เสน่ห์ในตัวที่มีขอให้เขาพาไปส่งบ้านสิ
เมื่อถึงปลายทางแล้วก็เสนอเลี้ยงกาแฟ หรือน้ำอัดลมเขาสักแก้ว หาเรื่องชวนคุยไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็เหมือนกับการ “ เดท ” แล้ว
ใช้โอกาสนี้ให้ดี ดึงข้อดีของตัวเองออกมาให้มากที่สุด ทำให้เขาอยาก“ เดท ”กับเธอในครั้งต่อไปนะคะ
6. ขอความช่วยเหลือจากเขาแบบเนียนๆ
การขอความช่วยเหลือมักได้ผลเสมอ เพราะทำให้ผู้ชายดู “ แมน ” ขึ้นผู้ชายมักใจอ่อนเสมอเมื่อมีสาวๆ อ้อนเสียงหวานให้ทำนู่น ซ่อมนี่ให้หน่อยจะเป็นน็อตประตูหลุด ก๊อกเสีย กระเป๋าหนัก อะไรก็ได้ทั้งนั้น ถ้าเขาชอบเธอ เขาจะยอมทำให้เพื่อได้คุยกับเธอในช่วงเวลานั้น
เมื่อเขาช่วยเสร็จแล้ว อย่าลืมขอบคุณเขาและตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆ และเลี้ยงกาแฟหรืออาหารเขาสักมื้อก็ดีนะไม่ต้องหรูมาก แค่แซนด์วิชสักชิ้นก็โอเคแล้วล่ะ
7. แกล้งป่วยและทำท่าเซ็กซี่โปรยเสน่ห์ อ้างว่าเป็นพิษไข้
เรามักเห็นฉากในภาพยนตร์ที่นางเอกเป็นไข้ เพ้อหาคนอื่นแต่กอดแขนพระเอก เมื่อหายไข้ก็อ้างว่าไม่รู้เรื่อง โธ่เอ๋ย ข้ออ้างทั้งนั้น ที่จริงเธอก็มีใจให้พระเอกนั่นแหละ!เราอาจจะหมั่นไส้นางเอก แต่เราสามารถใช้วิธีของเธอมาประยุกต์ใช้ได้ ( แหน่ะ! )เริ่มจากชวนเขาออกไปเที่ยว แล้ว “แกล้ง” ทำเป็นว่าเธอปวดหัว ปวดท้อง เป็นตะคริว ปวดประจำเดือนอะไรก็ว่าไป เอาให้หนักๆ แบบลุกไม่ไหวกันเลยทีเดียว ( รางวัลออสการ์ยังต้องยอม )
ตามสเต็ป เขาจะอาสาพาเธอไปส่งบ้าน เธออย่าเล่นตัวนะ ตอบรับไปเลย!เมื่อถึงบ้านก็เชิญเขาเข้าไปและทำเป็นโซซัดโซเซเข้าไปอาบน้ำ อ้างว่าจะรีบเข้านอน แต่กลับออกมาอีกทีด้วยชุดน่ารักปนเซ็กซี่เหมือนเด็กสาวขี้อายเช่นเสื้อลูกไม้กับกางเกงขาสั้นปัดบลัชให้หน้าแดงๆ ทำเหมือนตัวเองเมาพิษไข้ ไม่ต้องใส่ซีทรูนะ นั่นก็โป๊เกินวัยไป ( จริงๆ คือเขาจะจับได้น่ะ )
เมื่อเขาคิดว่าเธอไม่น่าจะไหว เขาจะอยู่ดูแลเธอสักพัก ช่วงนี้ก็แอบหาโอกาสคุย ล้วงความลับ ( เช่น โสดจริงไหม หรือเป็นชายแท้รึเปล่า ) ได้ตามอัธยาศัย!
8. บอกให้รู้ว่าเธอยังว่าง
วิธีนี้แหละ ง่าย ตรง แมนๆ คุยกันที่สุดแล้ว!บอกไปเลยว่า“ มาถึงขนาดนี้แล้ว ขอฉันเป็นแฟนสักทีสิ ”แต่กว่าจะพูดแบบนี้ได้ เธอต้องมีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันมาเยอะพอสมควรแล้วนะ ไม่ใช่ไปบอกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้า!ถ้าเขาใจตรงกันและอยากเดินเคียงไปกับเธอ เขาจะรวบรวมความกล้าชวนเธอออกเดทเองแหละจ้า
เราอยากกระซิบว่า มีหลายกรณี หลายคู่เลยนะที่ผู้ชายชอบฝ่ายหญิงแต่ไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่านอกจากจะไม่ได้แฟนแล้ว อาจจะต้องเสียเพื่อนไปอีก!ถ้าเธอทำให้เขารู้ว่าเธอว่างและพร้อมรับคำขอของคนตรงหน้า เขาต้องกล้าเดินหน้าแน่นอน
====================================
อันที่จริง เคล็ดลับที่ทำให้สาวๆ เปลี่ยนสถานะจาก “ คนคุย ” เป็น “ คนรัก ” มีแค่สองอย่างเท่านั้นข้อแรกคือ “ หว่านเสน่ห์ให้ถูกจุด ” และข้อสองคือ “ ทำให้เขารู้สึกต้องการเธอ ”คำว่าหว่านเสน่ห์ไม่ใช่การ “ อ่อย ” แต่หมายถึงการให้โอกาสเขาเข้ามาสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันต่างหากเมื่อสนิทกันมากขึ้น ก็นำไปสู่การเดทและการคบกันจริงจังได้แน่นอน
หลายคู่ที่ยังอึกอัก ไม่กล้าเปลี่ยนสถานะเพราะฝ่ายชายกลัวเธอไม่เล่นด้วยไงล่ะ ถ้ารุกแล้วเสียเพื่อนก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าแต่ถ้าเธอใจตรงกัน ก็จัดไปยาวๆ เลยจ้า
แล้วบทความชิ้นนี้ก็จบลงด้วยดี เจอกันบทความหน้านะจ๊ะヽ( ´∇`)ﾉ
====================================
