สวัสดีค่ะ สาวๆ ชาวSistaCafeเห็นชื่อบทความแบบนี้ เพราะทุกวันนี้บีเห็นว่ามีหลายๆ แบรนด์ในเน็ตที่น่าสนใจ ( แต่ก็ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับพวกเคาท์เตอร์แบรนด์ แต่ยังไงก็ไม่ควรเทียบเนอะ ) ทั้งแพ็กเกจจิ้ง การทำโฆษณา การสร้างแบรนด์อิมเมจ คุณภาพผลิตภัณฑ์ ฯลฯ เอาซะมาเกตติ้งแบบเราอดชื่นชมไม่ได้เลย

ก่อนหน้านี้ มีเพื่อนบีคนนึงที่หน้าเป๊ะมากทั้งวัน เป๊ะชนิดกริบ เนียนกริบมาก! บีเลยถามว่า ใช้แป้งอะไร ใช้รองพื้นอะไร เพื่อนก็เลยแนะนำแป้งพัฟมา แล้วบอกว่าพี่ที่เป็นพริตตี้แนะนำมา เพราะคุมมันได้ดี กันน้ำได้ด้วยและซื้อมาจากในเน็ตด้วย

พอฟังแล้วก็โหหหหห เริ่ดดด พริตตี้แนะนำมามันต้องเวิร์ค เพราะพริตตี้เค้าแต่งหน้ากันเป๊ะมากเค้าต้องมีแป้งดีๆ อยู่แล้ว แต่อดแปลกใจที่ว่าแบรนด์ในเน็ตมันจะดีงามขนาดนี้เลยหรอ

จากนั้นบีก็เลยไปถอยมาลอง มันคือเจ้าแป้งพานิซ่านั่นเองค่ะ  ก็ลองเอามาใช้ เห้ยยย! มันดีอะ เพิ่งรู้ว่าแป้งที่ขายในเน็ต มันยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวแบบนี้!!!

แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสเอามารีวิวสักที และล่าสุดนี้ก็ดันไปเจออีกตัวในเน็ต ที่มันดีงามมมมมมากเหมือนกัน มันคือแป้งบาบาร่าค่ะ ที่เนียนกริบมากกก มากก ไม่แพ้กันเลย เลยคิดว่า ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่จะเอาของในเน็ต 2 ตัว มารีวิวแบบจริงๆ จังๆ แต่จริงๆ แล้วทั้ง 2 แบรนด์ ก็มีขายแบบหน้าร้านบ้าง เพียงแต่บีรู้สึกว่า ทั้ง 2 ตัวนี้ เค้าเริ่มต้นเปิดตลาดในเน็ตนั่นเอง ซึ่งถือว่าน่าสนใจดี ที่สามารถทำผลิตภัณฑ์ดีๆ แบบนี้ออกมา แล้วทำให้เป็นที่นิยมมากๆ จนไปสู่การขายแบบออฟไลน์ได้

รูปภาพ:

วันนี้บีเลยเอาสองตัวนี้มารีวิวให้ดูกันเลยค่ะ

ตลับมีความคล้ายคลึง เรียบๆ ดูดี สีดำ แต่ตลับเจ้าพานิซ่าจะมีความด้านกว่าเจ้าบาบาร่า

พัฟก็เป็นประเภทเดียวกัน พัฟแบบนี้จะใช้ชุบน้ำ แล้วซับหน้าได้ดีมากค่ะ จะทำให้แป้งเนียนติดกับผิวเราดีค่ะ

รูปภาพ:

เนื้อแป้งของทั้ง 2 ตัวค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:

ทั้งสองตัว เนื้อมีความเป็นฝุ่นหน่อยๆ ค่ะ แต่หากกดด้วยพัฟ ก็เนียนสูสีกัน บีทาตัวนี้ โดยใช้รองพื้นของ Dior Skin ลงบางๆ ก่อนนะคะ

รูปภาพ:

ปกติรองพื้นตัวนี้จะไม่ได้ปกปิด หรือคุมมันอะไรได้ดีมาก แต่จะเน้นปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากกว่า

ให้ดูสักหน่อย เนื่องจากได้แผลเป็น เป็นของฝากจากการไปเที่ยวบาหลี ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

รูปภาพ:

จะเห็นว่ารองพื้นไม่ได้ปกปิด ( แม้บีจะโปะหนา ) แต่ช่วยปรับสีผิวขึ้นค่ะ

รูปภาพ:

บีไม่ได้ลงคอนซิลเลอร์เลยนะคะ อ้ออ ลืมบอกว่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ที่ไปบาหลี และแพ้ครีมกันแดด ( ทาตัว เอามาทาหน้า เพราะมันฉุกเฉินมากก ฮือออ รูขุมขนอุดตันยาวๆ เลย ) ดังนั้นปัญหาผิวช่วงที่ทดสอบ คือ รูขุมขนอุดตัน สิวอักเสบ และรอยสิวเดิมค่ะ

มาดูผลลัพธ์ของทั้ง 2 ข้างกันค่ะ

รูปภาพ:รูปภาพ:

ฝั่งบาบาร่า

รูปภาพ:รูปภาพ:

ฝั่งพานิซ่า

รูปภาพ:รูปภาพ:

ในด้านปกปิดมีความใกล้เคียงกัน ต่างกันที่เจ้าพานิซ่าจะเนียนกริบกว่าหน่อย พวกรอยสิวตรงคาง พานิซ่าดูจางกว่าฝั่งของบาบาร่า ส่วนใต้ตา บีว่าสูสีกันค่ะ เท็กเจอร์เหมือนกันมากค่ะ ทาแล้วให้ความรู้สึกเดียวกันเลย คือกริบคุมมันไปกับผิวได้ดีมาก

ในการคุมมันฝั่งพานิซ่า คุมมันได้ดีกว่า ฝั่งบาบาร่า แต่บาบาร่าก็ติดทน เหมือนกันแต่พานิซ่าดูสว่างกว่า

ในเรื่องความชุ่มชื้นบีรู้สึกได้ว่า ทั้ง 2 ตัว ให้ความชุ่มชื้นพอกัน

ในเรื่องความกันน้ำ

ก็เริ่ด จะบอกว่าตอนไปบาหลีที่ผ่านมา บีใช้เจ้า 2 ตัวนี้แหละ

และตอนไปดำน้ำ ก็ไม่ได้ทาครีมกันแดดที่หน้า เลยใช้ตัวพานิซ่าชุบน้ำ แล้วโปะๆ เอา โดยไม่ได้ทารองพื้น หรืออะไรเลย ก็ไม่เป็นคาบ ( แต่วันที่ใช้รองพื้นด้วย มีเป็นคราบนิดนึงนะคะ ) และผิวไม่ได้หมองหรือคล้ำขึ้นเลย จัดว่าโอเคมากๆ อ่อ SPF ขอแป้งพานิซ่าเค้านี่ 25PA++++ เลยค่ะ ส่วนบาบาร่า 20PA+++

รูปภาพ:

โดยรวม ทั้ง 2 ตัว เป็นอะไรที่บีประทับใจมากกกก เพราะคุณภาพดีงาม ( ชนะเคาท์เตอร์แบรนด์หลายๆ ตัวแบบกินขาดดดดดดดด ) ส่วนราคา อย่างบาบาร่า อาจจะรู้สึกว่าสูงสักหน่อย แต่ถ้าหาร้านดีๆ และช่วงโปรโมชั่น ก็ถือว่ายังคุ้มค่าอยู่ ส่วนพานิซ่า อันนี้ราคาจับต้องได้ แบบไม่ต้องรอช่วงโปร ก็แนะนำควรสอยมาติดกระเป๋า

เอาจริง แอบตกใจในคุณภาพไม่หาย คือมันดีงามจริงๆ แบบไม่ได้พูดให้เวอร์วังงงง แต่คือมันดีงามอ่ะและปังมาก

ถือเป็นแป้งในเน็ต ที่บีคิดว่า เห้ยยย มันดีมากกก ดีแบบเทียบเคาท์เตอร์แบรนด์ได้จริงๆ ที่ใช้แล้วสัมผัสได้เลย ว่ามันดีจริงๆ