สวัสดีค่ะสาวๆ ทุกคน ก็อย่างที่รู้ๆ กันเนอะว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน จะฤดูไหนก็ร้อนตับแตก เจ๊เลยอยากถามสาวๆ ว่า แต่ละคนเปลี่ยนชุดนอนกันบ่อยแค่ไหนเอ่ย?
คุณREBECCA ENDICOTTนักเขียนสาวจากเว็บLittle Thingsบอกว่ามีหลายๆ คนที่ไม่เปลี่ยนชุดนอนใหม่ในทุกๆ วัน อย่างตัวเจ๊เองก็ยอมรับอ่ะนะว่าเจ๊เปลี่ยนชุดนอนทุกๆ สองวัน แหะๆก็แค่ใส่นอนเองนี่นาไม่ได้เปื้อนอะไรสักหน่อยใช่ม้า แต่เจ๊ได้ยินมาว่า การใส่ชุดนอนตัวเดิมซ้ำมันส่งผลเสียด้วยนะ เพราะงั้นเรามาดูกันเถอะว่ามันไม่ดียังไงบ้าง
1. เกิดการเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่มีรูปร่างเหมือนพวงองุ่น (Staphylococcus)
ข้อมูลจากMedline Plusบอกว่า ในผิวหนังของมนุษย์เรามีแบคทีเรียอาศัยอยู่เล็กน้อย ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่พบได้ทั่วไปในผิว จมูก และลิ้น ในภาวะปกติจึงไม่ส่งผลอะไรต่อร่างกาย
แต่ว่าถ้าใส่ชุดนอนตัวเดิมซ้ำๆ หลายครั้ง ก็จะเริ่มกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่มีรูปร่างเหมือนพวงองุ่นและมันก็จะขยายจำนวนมากขึ้นอีกด้วยและในท้ายที่สุด เชื้อโรคพวกนี้ก็จะเข้าสู่ข้างในผิวหนังจากปากแผล และอาจก่อให้เกิดโรคติดต่อขึ้นได้ เพราะงั้นเราเปลี่ยนชุดนอนบ่อยๆ กันดีกว่าเนอะ
2. กลายเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
ถ้าไม่เปลี่ยนชุดนอน พวกแบคทีเรียทุกชนิด น้ำมันในผิวหนัง เซลล์ผิวที่ตายแล้ว ก็จะเริ่มสะสมอยู่ในเสื้อผ้า และก็จะพยายามเข้าไปในรูขุมขนของสาวๆ ตลอดทั้งคืนเลยล่ะ
ข้อมูลจากHealth lineบอกว่าถ้ารูขุมขนถูกสะสมไปด้วยเชื้อโรคพวกนั้นแล้วก็จะกลายเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและอาจเกี่ยวโยงถึงการติดเชื้อของก้อนเนื้อที่ผิวหนังเช่น สิว ฝี อีกด้วย นอกจากนี้ พวกแบคทีเรียและไวรัสที่มีโอกาสจะอยู่ในผิวหนังก็อาจจะเข้าสู่ร่างกายผ่านสิวหรือฝีพวกนั้นอีกด้วย
3. กลายเป็นที่อยู่ของเห็บ
เพราะว่าเห็บอาศัยอยู่ในทุกๆ บ้านเพราะงั้นจึงไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ แต่ถ้าเป็นการลดจำนวนพวกมันในห้องนอนหรือที่นอนล่ะก็ ทำได้นะจ๊ะ ข้อมูลจากMedicine Net.comบอกว่าเห็บชอบที่จะกินผิวหนังที่หลุดร่วงออกมาแล้ว เพราะงั้นมันเลยชอบเตียงนอนหรือชุดนอนของเราๆ นั่นเองนอกจากนี้ ชุดนอนที่สกปรกก็ยังมีฝุ่นสะสมอยู่เยอะ ซึ่งจะส่งผลต่อการหายใจในเวลานอนอีกด้วย
4. ทำให้ร่างกายเกิดกลิ่นเหม็น
ถ้าอาบน้ำและรักษาร่างกายให้สะอาดสะอ้านแล้ว แน่นอนว่ามันคงไม่ส่งกลิ่นเหม็นหรอกใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นการที่ชุดนอนสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ข้อมูลจากMedical News Todayบอกว่าชุดนอนที่สกปรกจะดูดซึมเหงื่อเข้าไประหว่างที่เรานอน ส่วนที่อับชื้นก็จะทำให้แบคทีเรียเพิ่มจำนวนมากขึ้น และก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นถึงแม้จะอาบน้ำแต่ถ้าใส่เสื้อผ้าสกปรกๆ ก็ไม่มีความหมายอะไรนะจ๊ะ แถมยังจะเป็นการเชื้อเชิญแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นตัวเหม็นๆ อีกต่างหาก
5. ทำให้รู้สึกไม่ดีตั้งแต่เช้า
คนที่อาบน้ำตอนกลางคืนก่อนนอน ก็อาจมีความรู้สึกว่าร่างกายสกปรกตอนตื่นเช้ามา เป็นความรู้สึกไม่ดีประมาณว่าพอตื่นเช้ามาแล้วถอดชุดนอนและเปลี่ยนชุดแล้ว มันทำให้ห้องที่สะอาดๆ เป็นคราบสกปรกอะไรแบบนั้น
ข้อมูลจากGood Housekeepingบอกว่าชุดนอนจะดูดซึมพวกเชื้อโรคต่างๆ ที่ติดแน่นอยู่บนผิวหนังของเราระหว่างนอน เพราะงั้นถ้าชุดนอนสกปรก ก็จะทำให้รู้สึกว่าร่างกายเราสกปรกด้วย
6. เป็นสาเหตุของการนอนหลับยาก
การใส่ชุดนอนสะอาดๆ นอนจะทำให้นอนหลับสบาย ในทางกลับกัน ถ้าสกปรกล่ะก็ จะรู้สึกคันหรือเหนอะหนะตัว ทำให้รู้สึกไม่ดี จึงนอนไม่ค่อยหลับ
ข้อมูลจากBUSTLEบอกว่าถ้าตอนนั้นพวกเห็บหมัดเข้ามารบกวนก็จะส่งผลต่อการหายใจและยังเกี่ยวข้องกับการกรนอีกด้วย
7. ระวังเรื่องฝุ่นในบ้านให้ดี
ถ้าใส่ชุดนอนตัวเดิมซ้ำๆ จะทำให้มีโอกาสสูงที่จะเป็นภูมิแพ้ ถ้าใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ฝุ่นแล้วล่ะก็ อย่างน้อยก็ควรเปลี่ยนชุดนอนวันเว้นวัน
คนที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่น หอบหืดหรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ก็มีแนวโน้มที่โรคจะแย่ลงในตอนกลางคืนแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม ข้อมูลจากAsthma and Allergy Foundation of Americaบอกว่าถ้าเห็บหมัดหรือผิวหนังที่หลุดลอกติดอยู่ตามเสื้อผ้าจะยิ่งทำให้อาการของโรคแย่ลง และยังกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้โรคหอบหืดกำเริบและเกิดการกำเริบของภูมิแพ้อีกด้วย
8. ภูมิคุ้มกันโรคลดต่ำลง
ข้อมูลจากMedical Dailyบอกว่าการใส่ชุดนอนที่สกปรกจะทำให้ถูกโจมตีจากแบคทีเรีย เชื้อโรค ทำให้เกิดโรคติดต่อของระบบทางเดินหายใจและเป็นสาเหตุของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการคันซึ่งพวกเชื้อโรคเหล่านี้จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราต่ำลง สรุปก็คือทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยง่ายขึ้นนั่นเอง และอาการปวดท้องหรือการเป็นไข้หวัดก็อาจเกิดจากความไม่สะอาดของชุดนอนอีกด้วย
เอาล่ะสาวๆ ทุกคน ใครที่ชอบใส่ชุดนอนซ้ำๆ เพราะคิดว่าแค่นอนมันไม่เปื้อนไม่สกปรกอะไรแบบเจ๊ ก็เปลี่ยนความคิดใหม่กันซะนะ เพราะก็เห็นกันแล้วเนอะว่ามันส่งผลเสียในหลายๆ เรื่องอย่าให้ความขี้เกียจหรือขี้เหนียวชุดของพวกเรา เป็นเหตุให้ต้องป่วยจะดีกว่าเนอะ
