เป็นเรื่องธรรมดาที่คนมีแฟนจะต้องมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง ก็เป็นมนุษย์ปกติ มีรัก โลภ โกรธ หลงเหมือนกันนี่นา! แค่เรื่องเล็กน้อยอย่างลืมโทรหา, ลืมทักทรงผมใหม่ที่เขาเพิ่งตัดมาเมื่อวาน, เผลอออกความเห็นในเรื่องที่เขาค้านหัวชนฝา เท่านั้นแหละ ระเบิดลง! ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย และจบลงด้วยการเดินหนีไปอย่างเย็นชา ถึงป่านนี้ก็ยังเข้าหน้ากันไม่ติดเลยแค่เรื่องหยุมหยิมแท้ๆ ไม่อยากให้ถึงขั้นแตกหักเลยจะทำยังไงดีเนี่ย o(T△T)o

การที่คนสองคนมารักกันต้องมีการปรับความเข้าใจ รสนิยมและความชอบเพื่อหาจุดกึ่งกลางให้ได้บางครั้งอาจเกิดอุปสรรคที่ไม่ลงล็อค ก็อาจทำให้ปึงปังใส่กันได้บ้าง แต่อย่าปล่อยให้เรื่องใหญ่โต!ด้วยบทความง้อแฟน 6 วิธีแบบน่ารักกุ๊กกิ๊กนี้ รับรองว่าอารมณ์บูดๆ ของแฟนจะหายไปแทบปลิดทิ้งเลยล่ะง่าย รวดเร็ว ได้ผลจริงไว้ใจซิสต้า! ไปดูกันเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง


1. แค่เอ่ยปากกับเขาไปตรงๆ ว่า " ฉันขอโทษนะ "


รูปภาพ:http://pop.pimg.us/upload/newscontent/1443771797n7x1mn.jpg

อันที่จริงแล้ว

เหตุการณ์ทะเลาะจนบ้านแตกนั้น มักมีสาเหตุมาจากน้ำผึ้งหยดเดียว

เช่น คำพูดร้ายๆ จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่น " เธอนี่มันงี่เง่าจริงๆ ", " ถ้าไม่เป็นแฟนกับเธอ ฉันคงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ", " โชคร้ายจริงๆ ที่มาตกลงคบกับเธอ " ทั้งที่สาเหตุอาจจะแค่ทำกาแฟหก ใส่รองเท้าสลับด้าน หรือลืมปิดไฟในห้องน้ำเท่านั้นเอง! เมื่อเริ่มจากความเกรี้ยวกราด ทุกอย่างก็ยิ่งแย่ลง คำพูดเริ่มทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ จากความโกรธเป็นความเกลียด ตะคอก ขึ้นเสียงใส่กัน ในที่สุดอาจจบด้วยคำว่า " เราเลิกกันเถอะ " เฮ้ย! มันรุนแรงไปได้่ถึงขนาดนี้เลยเหรอ 0_0

ในเมื่อเรื่องเกิดที่คำพูด ก็ต้องจบด้วยคำพูดค่ะ!

ถ้าเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มควบคุมไม่อยู่ เลือดขึ้นหน้ากันทั้งคู่ ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงชั่วคราว ยอมหยุดนิ่งไปสักพักแล้วบอกว่า " พอเถอะ ฉันผิดเอง ฉันขอโทษ " ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครเถียงต่อแน่นอน! ( น้ำเสียงก็ต้องจริงใจด้วยนะ )

ครั้งหน้าถ้าเกิดเรื่องที่เสี่ยงจะทะเลาะกันอีก ก็ระวังคำพูด อย่าให้เกิดชนวนขึ้นมาอีกล่ะ!


2. เริ่มเปิดด้วยคำถาม " วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า "


รูปภาพ:http://pop.pimg.us/upload/newscontent/1443771919xbdbtk.jpg

อาจจะดูตลก

แต่การ " กิน " นี่แหละเป็นวิธีดับอารมณ์โกรธของมนุษย์ได้ชะงัดนัก

เมื่ออิ่มท้อง สมองก็จะหลั่งสารมีความสุข ทำให้คุยง่ายขึ้น! ยิ่งถ้าเธอเป็นแม่ครัวหัวป่าก์ ทำอาหารอร่อยอยู่แล้วยิ่งเข้าทาง หากโกรธกันอยู่ อยากคืนดีแต่ไม่รู้จะเข้าหาทางไหนดี ใ

ช้กับข้าวและข้าวร้อนๆ นี่แหละเป็นใบเบิกทาง!

ยิ่งถ้าเป็น

เมนูจานโปรด

ของแฟน ร้อยทั้งร้อยก็ต้องยอมเปิดปากพูดกับเธอแน่นอน

ทำอาหารที่เขาชอบใส่กล่องน่ารักๆ ห่อด้วยผ้าลายสวยแล้วแอบเอาไปให้เขาที่ห้องเรียน / โต๊ะทำงาน หรือถ้าไม่ได้เรียน / ทำงานด้วยกันก็หาทางดักเจอ หรือส่งข้อความไปว่า " ทำอาหารมาให้ ออกมาเจอหน่อย ", " เย็นนี้อยากกินอะไร เดี๋ยวเราทำให้กิน ", " วันนี้เราทำแกงส้มของโปรดเธอนะ จะไม่มากินจริงๆ เหรอ " จะโกรธขนาดไหนก็ต้องมีใจอ่อนกันบ้างแหละ เชื่อเรา!


3. พูดคำหวานๆ อย่างจริงใจว่า " ฉันรักเธอ "


รูปภาพ:http://pop.pimg.us/upload/newscontent/1443771851p4qai7.jpg

ถ้าเธอถือศักดิ์ศรี ปากหนักไม่ยอมพูดคำว่า " ขอโทษ " ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายผิด

นอกจากไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้เธอสูญเสียคนรักดีๆ ไปหนึ่งคน

( และอาจตามมาอีกหลายๆ คน ) อีกด้วย! แต่เอาเถอะ ถ้ายังไม่กล้าพูดคำนั้นจริงๆ เราแนะนำให้เธอพูดสามคำสั้นๆ แต่มีอิทธิพลมหาศาลกับความรู้สึก นั่นคือ " ฉันรักเธอ " ไงล่ะ

คำว่า " รัก " เหมือนวัคซีน ช่วยเยียวยาความเย็นชาได้

มีอานุภาพหลอมหัวใจที่แข็งกร้าวด้วยความโกรธ ให้กลับมาอ่อนไหวและพร้อมจะฟังคำจากคนข้างตัวอีกครั้ง จงอย่าอายที่จะบอกรักแฟนอย่างหนักแน่นและจริงใจ ถ้าใช้วิธีนี้แล้วแฟนยังไม่สนใจ ก็สมควรบอกลาอย่างจริงจังแล้วล่ะค่ะ =_=


4. กุมมือของอีกฝ่ายไว้ให้แน่น

รูปภาพ:http://images.kdramastars.com/data/images/full/175045/producer.jpg

พลังของการ " สัมผัส " มีอานุภาพมากมายนัก สามารถทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ

ส่งต่อความห่วงใย ความอ่อนโยน และแม้แต่ความรักได้!

เธออาจเคยเห็นข่าวที่ผู้ชายเฝ้าปรนนิบัติ ดูแลแฟนสาวที่ประสบอุบัติเหตุ เป็นเจ้าหญิงนิทรา เขาไม่เคยละเลยในการจับมือเธอแน่นๆ เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟัง วันหนึ่งก็เกิดปาฏิหาริย์ หญิงสาวคนนั้นฟื้นขึ้นจากการหลับใหล และกลับมาครองคู่กันอีกครั้ง!

ถ้าเธอโกรธกับแฟนในเรื่องจิ๊บจ๊อย ( แต่ตอนนี้เป็นเรื่องใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว ) อยากสงบศึกแต่ไม่รู้จะง้อแบบกุ๊กกิ๊กๆ ยังไงดี ใช้การสัมผัสง่ายๆ อย่างการ " กุมมือ " นี่แหละค่ะ! ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใด แค่เขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายที่กำลังกรุ่นๆ แล้วเอื้อมมือไปแตะมืออีกฝ่ายเบาๆ ถ่ายทอดความรู้สึกสำนึกผิดลงไปให้เต็มเปี่ยม ครั้งแรกเขาอาจงงและพยายามปัดมือเธอออก แต่ถ้าเธอไม่ยอมแพ้ สัมผัสด้วยแววตาที่จริงใจ

ไม่ช้าไม่นานเขาต้องใจอ่อนแน่นอน เผลอๆ จะเอ่ยปากขอโทษเธอก่อนด้วยซ้ำไป!


5. ฉวยโอกาสจุ๊บแก้มเขาซะเลย!

รูปภาพ:http://www.howtokissproperly.com/wp-content/uploads/2013/12/The-cheek-kiss.jpg

ข้อนี้สำหรับหนุ่มๆ ที่ชอบความเซอร์ไพรส์! การจุ๊บแก้มเบาๆ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ว่าฝ่ายหญิงหรือชายก็สามารถทำได้ เธอไม่จำเป็นต้องเป็นพวก " จับเนื้อต้องตัวผู้ชายบ่อยๆ จนชิน " หรือคุ้นเคยกับการกอดหรือจุ๊บมาก่อน แค่เธอแสดงความกล้าที่จะทำ แฟนก็ตกใจ ( แน่นอนว่าต้องชอบ ) จนลืมความโกรธไปอย่างน้อยก็ชั่วขณะแน่นอน!

กำลังมึนตึงกันอยู่

เห็นเขาเดินผ่านมา รีบฉวยโอกาสจังหวะเหมาะ

เดินเข้าไปใกล้ๆ คว้าแขน ดึงหน้าเข้ามาจุ๊บเร็วๆ เบาๆ สักทีหนึ่ง

แล้วรอดูปฏิกิริยาของเขาสิ!

ถ้ายังไม่คืนดีกัน ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วล่ะ


6. หลังจากคืนดีกันแล้ว ฟื้นฟูความรักใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม

รูปภาพ:http://pop.pimg.us/upload/newscontent/1443771823vuz53d.png

ช่วงเวลาที่ทะเลาะและโกรธกันของบางคู่ อาจกินเวลานานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนๆ

จนทำให้ช่วงเวลาหวานๆ แอบเหือดหายไปบ้าง

หรือสายสัมพันธ์เริ่มเหินห่างกันแล้วนั่นเอง! เธอจงอย่าปล่อยให้ความเหินห่างชั่วครู่ชั่วยาม ทำให้เธอและเขากลายเป็น

" คนแปลกหน้า "

รีบคืนดีซะ!

เมื่อง้อจนสำเร็จแล้ว

พยายามฟื้นฟู " ความรักมุ้งมิ้ง " ให้เกิดขึ้นมาใหม่

กอดกันให้บ่อยกว่าเดิม จูงมือให้แน่นกว่าเดิม มีโมเมนต์หวานๆ พาไปเที่ยวกันให้เยอะๆ ทดแทนวันเวลาที่เสียไปกับคราบน้ำตาและความมึนตึงในอดีต ลุกขึ้นสู้ใหม่และสร้างความทรงจำดีๆ ขึ้นอีกครั้ง เพราะเราต้องก้าวเดินต่อไปด้วยกันค่ะ ^^


======================================

เหตุการณ์ทะเลาะของคนเป็นแฟนกัน เป็นเรื่องธรรมดามากๆ! ( คนอยู่ด้วยกันก็ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง ใครไม่เคยโกรธกับแฟนเลยนี่สิแปลก ) อย่าปล่อยให้เกิด " สงครามเย็น " ระหว่างเธอทั้งคู่จนกลายเป็นความเหินห่าง ในที่สุดก็กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันทั้งที่ยังไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำอำลา เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย TT

ทางที่ดี เมื่อใช้วิธีเข้าหาจนเขายอมพูดด้วยแล้ว นอกจาก " ขอโทษ " ก็ควรเปิดอกคุยกันให้เข้าใจว่าสาเหตุที่แท้จริงของการทะเลาะคืออะไร เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ผิดพลาดซ้ำสองอีกค่ะ ขอให้สาวซิสต้าสุขสมหวังกับรัก และก้าวผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้นะคะ ^_________________^

======================================

บทความที่เกี่ยวข้อง