สวัสดีค่ะ ช่วงนี้มีหลายคนที่สนใจเรื่องการบำรุงผิวของจอสและก็มีรีเควสกันเข้ามาทางแฟนเพจ วันนี้จอสก็เลยจะมารีวิวสกินแคร์ต่างๆ ที่ใช้อยู่ซึ่งจริงๆ แล้วจอสได้ลองใช้มาหลายตัวมาก แต่จะหยิบมารีวิวเฉพาะตัวที่ชอบใช้แล้วดี และใช้เป็นประจำเท่านั้นนะคะโดยปกติแล้วจอสเป็นคนผิวผสม มันช่วงทีโซน ผิวค่อนข้างขาวและมีกระนิดหน่อยมีสิวบ้างบางครั้งนานๆ มาที 1-2 เม็ด เอาเป็นว่าโดยรวมคือผิวกลางๆ ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327467.jpg

สกินแคร์ที่จอสเลือกใช้ จะเน้นไปที่การบำรุงเพื่อเติมความชุ่มชื้นเพราะจอสเชื่อว่าพื้นฐานผิวที่ดีคือผิวที่ชุ่มชื้นและแข็งแรง ไม่ใช่ผิวขาวเมื่อใดก็ตามที่ผิวของเราได้รับการบำรุงที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการของผิวผิวเราก็จะเผยความสดใส เปล่งปลั่ง และดูสุขภาพดีออกมาจากภายในค่ะสำหรับสกินแคร์ที่จอสหยิบมารีวิวในวันนี้ก็จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ตัวเป็นสกินแคร์พื้นฐานที่จอสใช้เป็นประจำทุกวันในช่วงนี้ค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327224.jpg

ทีนี้เรามาเริ่มกันทีละตัวกันเลยค่ะ

ตัวแรกจอสภูมิใจนำเสนอมาก เพราะตัวนี้เป็นสกินแคร์ตัวใหม่จากเกาหลีจอสได้มาลองใช้ประมาณสองอาทิตย์แล้ว ตอนนี้ติดใจมาก ใช้ทุกวันเลยSena Marine Plankton Water Serum Concentrate

150 มล.เป็นเซรั่มเนื้อน้ำที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งส่วนผสมสำคัญของเค้าก็คือ Marine Plankton Stemcell Complexหรือที่เรียกว่าสารสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล 8% เป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากทะเลที่มาจากทั้งแพลงก์ตอนพืชอย่างสาหร่ายทะเลสีแดงและสีน้ำตาล และสารสกัดจากแพลงก์ตอนสัตว์

หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆใต้ท้องทะเลลึก เช่น Jelly fish, Crustacean, Arrow Warmsนอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำแร่บริสุทธ์บนเกาะเชจูและสมุนไพรเกาหลีอีกกว่า 20 ชนิด

โดยผลของการใช้ Water Serum ตัวนี้ก็จะช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ผิว

กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ และทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น

และด้วยส่วนผสมของ Marine Plankton Stemcell Complex

จะทำหน้าที่ในการขุดอุโมงค์หลายชั้นในเซลล์ผิว ทำให้ดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและสร้างสมดุลผิว

จึงเห็นผลในเรื่องของความกระจ่างใส ชุ่มชื้น และยืดหยุ่นยกกระชับค่ะ

และตัวนี้เป็นขั้นตอนแรกของการเตรียมผิวก่อนที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ

จึงช่วยให้เซรั่มและครีมซึมซาบเข้าผิวของเราได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้นด้วย

ผลิตภัณฑ์ Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate วิจัยและผลิตที่ประเทศเกาหลีจะเริ่มวางขายในเดือนกันยายนนี้ ขอบอกว่าเตรียมตัวกันให้พร้อมเลยเพราะมันเด็ดมาก

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327254.jpg

เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำเหลวมีลักษณะใสๆ ค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆวิธีใช้สามารถหยด 3-5 หยดลงบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วใบหน้าได้เลยหรือจะใช้กับสำลีก็ได้เช่นกัน ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงตัวนี้เนื้อจะบางเบาและซึมเร็วมากๆ พอทาลงไปแล้วจะซึมเข้าผิวของเราไปหมดเลยโดยที่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว ทำให้สบายผิว เหมาะกับอากาศบ้านเราซึ่งบางครั้งที่อากาศร้อนมากๆ จอสจะใช้เดี่ยวๆได้เลย โดยที่ไม่รู้สึกว่าผิวแห้งค่ะหลังจากที่ใช้มาสองสัปดาห์ได้แล้ว สิ่งที่เห็นชัดสุดคือผิวดูแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นเวลาลูบไปบนผิวแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าผิวเรียบเนียนมากขึ้น ที่สำคัญคือใช้แล้วไม่แพ้ค่ะและด้วยความที่เนื้อเซรั่มซึมได้ดี ทำให้การลงสกินแคร์ในขั้นต่อไปง่ายขึ้นเพราะมันทำให้เซรั่มและครีมซึมเข้าผิวได้ดีไปด้วยค่ะ ชอบมาก

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327269.jpg

ตัวต่อไปเป็นเซรั่มของเกาหลีเช่นเดียวกันค่ะ ช่วงนี้สกินแคร์เกาหลีมาแรงSkindom Luxury Cell Collagen Peptide Ampoule30 มล.ตัวนี้เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่คลินิคผิวหนังในเกาหลีนิยมใช้กันมาในรูปแบบ Ampoule ( แอมเพิล ) หรือ superserum ที่มีเนื้อบางเบาแต่มีส่วนผสมที่สำคัญและเข้มข้นมากๆ สามารถซึมเข้าผิวของเราได้ดีค่ะตัวเซรั่มมีส่วนผสมของ Collagen Peptide ที่เข้มข้น และสารสกัดจากพืชค่ะ

ทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ว่า เซรั่มขวดนี้สามารถให้ผลลัพธ์ถึง 7 ประการ

ได้แก่ ลดเลือนริ้วรอย, เพิ่มความยืดหยุ่น, ผิวเงาเป็นประกาย, กระชับรูขุมขน,

ผิวดูอ่อนกว่าวัย, ควบคุมความมัน, และเติมความชุ่มชื้นค่ะ

ผลิตภัณฑ์ของ Skindom มีวางจำหน่ายที่ร้าน Watson และ EveandBoy

เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถลองไปหามาใช้ดูได้ เห็นว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่นอยู่ด้วยนะคะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327285.jpg

เนื้อเซรั่มจะเป็นสีใสๆ แต่จะเข้มข้นและยืดหยุ่นกว่าตัวแรก กลิ่นหอมอ่อนๆจอสใช้เป็นขั้นตอนที่สองของการบำรุงผิวค่ะถ้าเป็นช่วงกลางวันจะใช้แค่สองตัวนี้ จากนั้นก็ลงกันแดดและแต่งหน้าได้เลยใช้ประมาณ 2-3 หยด ลงบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วใบหน้าได้เลยจากนั้นก็นวดๆ ให้เซรั่มซึมเข้าผิว พอทาตัวนี้แล้วจะรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นมากขึ้นเนื้อเซรั่มจะซึมเข้าผิวไปเลย แต่จะดูฉ่ำๆ วาวๆ โดยที่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวขวดนี้จอสใช้มาจนเกือบจะหมดแล้วค่ะ คิดว่าต้องหามาใช้ต่อแน่นอนที่ชอบเพราะว่าหลังทาไปแล้วผิวมันดูดีมากๆ คือมันดูฉ่ำๆ เหมือนผิวสาวเกาหลีระหว่างวันจะไม่ทำให้ผิวมัน แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากส่วนผสมค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้ใดๆเป็นเซรั่มที่ใช้แล้วถูกกับผิวจอสมาก คิดว่าขวดนี้ควรมีติดบ้านไว้ค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327297.jpg

ตัวต่อไปเป็นครีมบำรุงผิวจากฝั่งอเมริกากันบ้างOrigins Make A Difference Night Overnight Hydrating Repair Cream50 มล.ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าจอสได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ของ Origins มาหลายตัวแล้วเหมือนกันแต่ตัวนี้เป็นกระปุกที่ใช้แล้วชอบที่สุดตั้งแต่เคยใช้ของแบรนด์นี้มาส่วนประกอบหลักของตัวนี้ก็คือ Rose of Jericho หรือที่เรียกว่ากุหลาบทะเลทรายซึ่งกุหลาบทะเลทรายนี้มีความสามารถพิเศษคืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้อย่างยาวนานและสามารถกลับมาฟื้นฟูมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง เพียงได้รับน้ำแค่เล็กน้อยจึงเป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยให้ผิวขาดน้ำกลับมาชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งได้อย่างรวดเร็วนอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของลิ้นจี่และแตงโม ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นไปอีกขั้น

ซึ่งผลิตภัณฑ์ Make A Difference ของ Origins ตัวนี้

สามารถเข้าฟื้นบำรุงถึงต้นเหตุของผิวที่ขาดน้ำได้อย่างรวดเร็ว

และช่วยเสริมระดับน้ำในผิวและความชุ่มชื้นได้เพียงข้ามคืน

ตัวนี้จอสจะใช้ในตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ

เพื่อนๆ สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Origins ได้ตามเค้าเตอร์ในห้างสรรพสินค้าค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327312.jpg

เนื้อครีมจะเป็นสีขาวเข้มข้น แต่มีความยืดหยุ่นและทาง่ายค่ะกลิ่นของเค้าจะหอมแบบ Essential Oil กลิ่นแรงระดับกลางค่ะคือผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ๋ของ Origins เค้าจะผสม Essential Oil แทนน้ำหอมเพื่อลดโอกาสของการแพ้หรือระคายเคือง ซึ่งตัวนี้จอสว่ากลิ่นหอมที่สุดใช้แล้วไม่แพ้ไม่มีสิวอุดตันด้วยค่ะ เพราะปกติผิวของจอสจะไม่ค่อยเหมาะกับน้ำมันซึ่งผลิตภัณฑ์บางตัวของเค้าที่จอสเคยใช้มาก็มีแพ้น้ำมันจาก Essential Oil เหมือนกันค่ะคือจะมีสิวอุดตันขึ้นมาบางจุด แต่ตัวนี้ผ่านฉลุยค่ะ ใช้มาครึ่งกระปุกแล้ว ไม่มีอาการแพ้ใดๆผลหลังการใช้คือมันเป็นครีมบำรุงที่เข้มข้นก็จริง แต่มันซึมเข้าผิวได้ค่อนข้างดีที่จอสรู้สึกได้คือ สารบำรุงในเนื้อครีมได้ซึมเข้าไปบำรุงในชั้นผิวของเราได้อย่างล้ำลึกซึ่งเทียบกับสองตัวข้างบนแล้วตัวนี้จะทิ้งความมันวาวไว้เยอะกว่า เพราะเป็นเนื้อครีมแต่ถ้าเทียบกับครีมบำรุงผิวตัวอื่นๆ ที่มีลักษณะเข้มข้นแบบนี้แล้ว ตัวนี้ถือว่าซึมได้ดีที่สุดและที่สำคัญคือเนื้อครีมเกลี่ยง่าย ลื่นไปกับผิวและไม่รู้สึกว่าหนืดด้วยค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327334.jpg

ตัวสุดท้ายเป็นเจลแต้มสิวค่ะอย่างที่บอกว่าปกติจอสไม่ค่อยมีปัญหาสิวสักเท่าไหร่แต่ก็จะมีบ้างบางครั้ง ซึ่งถ้าอยากให้เชื้อสิวหายก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์แต้มสิวหรือถ้ามีเวลาเข้าคลีนิคความงามก็อาจจะไปให้คุณหมอฉีดให้ค่ะตัวเจลแต้มสิวที่จอสใช้อยู่ตอนนี้เป็นของCOS Coseutics Anti-Acne Gelขนาด 5 มล.

COS เป็นสกินแคร์เวชสำอาง โดยผลิตภัณฑ์ของเค้าก็จะผ่านการทดสอบการแพ้

จากแพทย์ผู้เชียวชาญทางด้านผิวหนังมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะระคายเคือง

ลักษณะจะเป็นหลอดเล็กๆ นะคะ ซึ่งเจลแต้มสิวตัวนี้จะช่วยลดการเกิดสิวในทุกขั้นตอน

ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือแม้แต่รอยด่างดำจากสิวก็ใช้ได้เช่นกัน

สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327347.jpg

เนื้อของผลิตภัณจะเป็นสีใสๆ เหลวๆ แต่จะหยุ่นๆ นิดนึง และไม่มีกลิ่นค่ะเวลาใช้ก็สามารถแต้มลงไปบริเวณที่เป็นสิวได้เลย สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นแต่อย่างที่รู้กันค่ะว่าเจลแต้มสิวส่วนใหญ่จะทำให้ผิวแห้งหลังใช้ส่วนใหญ่ผิวจอสจะเป็นขุยๆ เวลาตื่นเช้ามาจะเห็นได้เลยแต่ด้วยความที่ปกติเป็นคนบำรุงผิวดีอยู่แล้ว พอล้างหน้าทาครีมมันก็จะหายไปเองค่ะแต่สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ผิวแห้งอยู่แล้ว จอสแนะนำให้ใช้แต่น้อยพอและถ้าสิวหายแล้วก็หยุดใช้ไปเลย จะได้ไม่มีอาการผิวแห้งเป็นขุยนะคะเห็นหลอดเล็กๆ แบบนี้ ส่วนตัวจอสใช้ได้นานหลายเดือนเลยทีเดียวเพราะใช้แต่น้อย แต้มเฉพาะจุด และช่วงนี้ไม่ค่อยเป็นสิวอยู่แล้วด้วยค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327367.jpg

ต่อไปเรามาดูสภาพผิวในแต่ละขั้นตอนที่ลงสกินแคร์กันค่ะ

1. เป็นผิวหลังล้างหน้า ยังไม่ได้ทาครีมใดๆ2. ลง Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate จะดูฉ่ำขึ้นมานิดนึงแต่โดยรวมแล้วผิวจะไม่มีความมันวาว เพราะเนื้อเซรั่มได้ซึมเข้าผิวหมดแล้ว3. ลง Skindom Luxury Cell Collagen Peptide Ampouleสังเกตุว่าผิวจะดูฉ่ำวาวขึ้นมาอีกนิดนึง แต่เนื้อเซรั่มก็ซึมเข้าผิวไปเหมือนกัน4. ลง Origins Make A Difference Night Overnight Hydrating Repair Creamพอลงตัวนี้ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าผิวฉ่ำวาวสุดๆ คือมันทั้งซึมเข้าบำรุงและเคลือบชั้นผิวด้วยค่ะแต่โดยรวมพอลงทั้งสามตัวนี้ก่อนนอนแล้ว ตื่นมาผิวก็จะดูฉ่ำๆ เหมือนเดิมคือไม่ได้ทำให้ผิวมันเยิ้ม หรือเหนอะหนะจนรู้สึกไม่สบายผิวแต่จอสรู้สึกว่าผิวได้รับการบำรุงและซ่อมแซมเซลล์ผิวในขณะที่เราหลับทำให้ตื่นมาแล้วได้ผิวที่ชุ่มชื้น และสดใสเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดีค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327386.jpg

Tips.สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากบำรุงผิวเป็นพิเศษ หรืออยากเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวจอสแนะนำให้ใช้ Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate มาส์กหน้าค่ะโดยใช้กับเม็ดมาส์ก ตัวนี้เป็นของ Kose ที่จอสจะมีติดบ้านไว้ตลอดเพียงหยดเซรั่มลงไปบนเม็ดมาส์ก รอสักพักให้เนื้อเซรั่มซึมให้ทั่ว แล้วเอามามาส์กหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นพอลอกแผ่นมาส์กออก ให้นวดจนเนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวแล้วตามด้วยขั้นตอนสกินแคร์ตัวอื่นๆ ได้เลยค่ะ รับรองว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นหลายเท่าเลยค่ะสามารถทำได้ทั้งช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า ในวันที่ผิวแห้ง ลอก เป็นขุยก็จะทำให้เมคอัพเนียนขึ้น และแต่งหน้าติดทนนานขึ้นหรือวันไหนที่ไปออกแดดมาเยอะๆ ต้องการการบำรุงและปลอบประโลมผิวเป็นพิเศษก็สามารถทำได้ก่อนนอนเช่นกันค่ะ

รูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327439.jpgรูปภาพ:http://www.bloggang.com/data/j/jossy-berry/picture/1440327454.jpg

สุดท้ายนี้อยากให้เพื่อนๆ จำไว้เสมอว่าการมีผิวที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งจะแต่งหน้ายังไงก็ออกมาสวย แต่งน้อยๆ โชว์ผิวก็ได้ยิ่งช่วงนี้งานผิวที่บางเบาดูเป็นธรรมชาติกำลังมาเพราะฉะนั้นอย่าลืมบำรุงผิวให้ดี เพื่อเป็นพื้นฐานของการแต่งหน้าที่สวยเนียนเป๊ะนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง