สาวๆอย่างเราเวลาจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า เราจำเป็นต้องรู้จักสภาพผิวหน้าของเราก่อนใช่ไหมคะ? แต่เชื่อเลยว่ายังมีสาวๆอีกหลายคน ยังงงๆ ว่าตัวเองมีสภาพผิวหน้าจัดอยู่ในประเภทใด ถ้าอย่างนั้นลองมาสังเกตผิวหน้าตัวเองกันดูดีกว่าค่ะ
1.ผิวแห้ง (Dry Skin)
ผิวแห้งคือสภาพผิวที่มีการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาน้อย ผิวแห้งจะให้ความรู้สึกตึง มีอาการคันบ่อย หยาบกร้านและดูหมองคล้ำ ผิวแห้งจะรู้สึกระคายเคืองมากกว่าผิวประเภทอื่นและผิวจะยิ่งแห้งมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว นำมาซึ่งริ้วรอยบนใบหน้า แต่สาวๆอย่าเพิ่งน้อยใจนะคะเพราะผิวแห้งมีข้อดีคือ รูขุมขนบนใบหน้าไม่กว้างและผิวดูละเอียดกว่าสาวๆที่มีผิวมัน ใครที่มีผิวแห้งควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าค่ะ
2.ผิวธรรมดา (Normal Skin)
สาวๆคนไหนที่มีผิวธรรมดา ถือว่าโชคดีมากเลยค่ะ เพราะเป็นผิวที่มีความสมดุล ไม่มันหรือแห้งจนเกินไป ผิวนุ่มและเรียบเนียน สีอมชมพู ไม่หมองคล้ำ และใบหน้าก็ไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับ สิว ฝ้า หรือกระ ถือได้ว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ แหม อิจฉาสาวๆที่มีผิวเพอร์เฟคแบบนี้ จริงๆเลย
3.ผิวผสม (Combination Skin)
ผิวผสมคือผิวที่ประกอบด้วยประเภทของผิวมากกว่าหนึ่งประเภทอยู่ด้วยกัน สภาพผิวจะมีความแตกต่างกันคือจะมีความมันที่บริเวณ ที-โซน (T-zone = หน้าผาก คาง จมูก) ส่วนบริเวณแก้มจะแห้ง จริงๆแล้วผิวประเภทนี้เป็นผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะมักมีปัญหาทั้งเรื่องสิว สิวเสี้ยน ที่เกิดจากความมันของผิวบริเวณที-โซน และก็ยังมีโอกาสผิวแห้งลอกเป็นขุยตรงบริเวณแก้ม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทโลชั่นหรือเจลที่ไม่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในตอนกลางวัน และตอนกลางคืนควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอย่างเต็มที่
4.ผิวมัน (Oily Skin)
และสุดท้ายผิวมัน เป็นผิวที่มีปัญหามากที่สุด ลักษณะผิวตรงข้ามกับผิวแห้งเลยค่ะ เพราะต่อมไขมันบริเวณใบหน้าผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำ สภาพผิวจะมีลักษณะ เงา มัน และมองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน ผิวดูหนา มักมีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนและเป็นสิวได้ง่าย แต่ข้อดีคือไม่ค่อยเกิดริ้วรอยและไม่ค่อยแพ้หรือระคายเคืองเหมือนสาวๆผิวแห้งค่ะ คนที่มีผิวมันควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์มากนัก เพราะจะทำให้หน้าดูมันวาวกว่าเดิมได้ค่ะ
สาวๆ ก็ได้รู้จักประเภทของสภาพผิวหน้ากันหมดแล้วทั้ง 4 ประเภท ลองสังเกตสภาพผิวหน้าของตัวเองว่าจัดอยู่ในประเภทไหน จะได้ไม่เป็นภาระเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางกันนะคะ
