4 วิธี Friendzone หนุ่มๆ แบบไม่ต้องเสียเพื่อน !!

" ฉันชอบใครเขาก็ไม่ชอบฉัน

พอเขามาชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน....

" ～♪

หลายคนคงคุ้นชินกับเพลงท่อนนี้ จาก "

ให้ตายสิพับผ่า

" ของพี่

แสตมป์

กันมาแล้วแน่ๆ แหละ และมันก็แปลกจริงๆ นะ เนื้อเพลงท่อนนี้มันช่างตรงกับความรักของคนส่วนใหญ่ในโลกนี้เลย

พอเราไปชอบใคร เขาก็ไม่ชอบเรากลับมาหรอก แต่พอมีคนมาชอบเราก็ดั๊นเป็นคนที่เราไม่ชอบ

ทั้งมาคอยเทคแคร์ เอาใจ ปรนนิบัติสารพัดทุกสิ่งทั้งที่เราไม่ได้ร้องขอ แถมบางคนก็เทคแคร์ถูกใจเรา ในแบบที่ว่า ถ้าเป็นหนุ่มที่เราแอบชอบมาเทคแคร์แบบนี้บ้าง คงจะฟินน่าดู และก็ต้องได้เป็นแฟนกันแล้วแน่ๆ !!

แต่ว่า กับ

คนที่ไม่ใช่

ล่ะ !

เขามาทำดีกับเราขนาดนี้

แถมเราก็รู้ตัวว่าเขาคาดหวังอะไร และเราก็ไม่ได้คิดตรงกันกับเขาซะด้วย ครั้นจะปฏิเสธตรงๆ ก็คงต้องเป็นเรื่องผิดใจกัน ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนต้องเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงแน่ๆ

เราจะต้องทำยังไงดี เพื่อให้เขารู้ตัว ว่าเป็นได้แค่เพื่อน โดยที่เขาไม่ต้องเจ็บ และไม่ต้องรู้สึกเสียหน้าด้วย !?

4 วิธี สร้าง " Friendzone " กับหนุ่มๆ แบบ " ไม่เสียน้ำใจ "

1. แอบแสดงออกแบบอ้อมๆ ว่าไม่ได้ชอบ

ที่บอกว่าให้แสดงออกนี่คือการให้

แสดงท่าทีที่จะทำให้เขารู้ได้ด้วยตัวเองว่า เราไม่ได้คิดอะไรเกินเพื่อน หรือพี่น้องกับเขา โดยไม่จำเป็นต้องพูดออกไปตรงๆ

ว่า เออ คุยกับเธอเหมือนคุยกับพี่ชายเลย หรือ ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับเขา เรื่องหนุ่มที่คุณแอบปิ๊งหรืออะไรแบบนั้นหรอก เพราะแบบนั้นก็ทำให้เขาเจ็บเหมือนกัน แต่ว่า.

.คุณสามารถแสดงให้เขารู้เป็นนัยๆ ได้ว่า คุณไม่ได้สนใจเขาในแบบหนุ่มสาวเลย

อย่างเช่นตอนที่เขาชมคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม อย่าง " น่ารักจัง ผมทรงนี้สวยจัง " อะไรทำนองนี้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปแสดงท่าทีว่าอึดอัด หรือแสดงรีแอคอะไรประหลาดๆ ต่อหน้าเขาเพื่อให้เขารู้ตัวหรอก และก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจตัวเองไปชมกลับด้วย

หากเขาชมคุณมา คุณก็แค่ ขอบคุณเขาไปสั้นๆ ก็ได้ เป็นการรักษามารยาท แล้วเขาก็จะได้ไม่คิดลึกด้วย

แต่ถ้าเวลาที่อยู่ด้วยกันกับเขา แล้วเขายังชอบมีท่าทีพยายามจีบอยู่ล่ะก็

ให้ลองชวนคุยเพื่อเบี่ยงประเด็นไป

ถึงแม้มันจะดูแปลกๆ นิดหน่อยก็เหอะ แต่ว่าก็พอจะช่วยให้เขารู้ได้นะ ว่าเราไม่สนใจอ่ะ

ปล. ถ้าทำแบบนี้แล้วเขายังไม่เลิกตื๊อ ยังไม่รู้ตัวจนเราอึดอัดล่ะก็ พยายามตีตัวออกห่าง หรือไม่ก็บอกตรงๆ ไปโลด

2. ชวนไปเที่ยวเป็นกลุ่มเสมอ

ถ้าคุณแค่ชอบที่จะได้ไปเที่ยว หรือคุยเล่นกับเขาคนนั้นในฐานะเพื่อนพี่น้อง แต่ไม่อยากให้คิดเกินเลยเนี่ย

เวลาไปเที่ยวกัน ก็พยายามไปเที่ยวหลายๆ คนกับเพื่อนคนอื่นด้วย

ถึงแม้เพื่อนกันจะไปเที่ยวกันสองต่อสองได้ แต่ในกรณีนี้ห้ามเด็ดขาดเลย ฉะนั้นเวลาที่เขาชวนเราไปเที่ยว คุณก็ลองถามเพื่อนคนอื่นๆ ดูว่าไปเป็นเพือนกันได้รึเปล่า

วิธีนี้นอกจากจะเป็นการปิดโอกาสไม่ให้เขาได้อยู่สองต่อสองกับเราแล้ว ยังเป็นการแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนไปเลยว่า เราคิดกับเขาเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ

ซึ่งอาจทำให้เขารู้ตัวได้เร็วอีกต่างหากนะ

3. ไม่ต้องทำเมินเย็นชาใส่เขา แต่ก็อย่าไปให้ความหวัง

ถ้าเกิดเขาคนนั้นชอบแชทมาหาคุณบ่อยๆ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบเขา แต่ก็อย่าไปแสดงท่าทีหยิ่งเย็นชา ทำเบลอใส่ข้อความที่เขาอุตส่าห์เขียนมาหา

เพราะคุณเองก็คงก็อาจจะเคยเจอใช่มั้ยล่ะว่า เวลาที่เราเขียนทักใครไป แล้วเขาทำเป็นไม่อ่าน หรือไม่ให้ความสนใจต่อข้อความของเราเอาซะเลยเนี่ย มันรู้สึกแย่แค่ไหน แต่เมื่อรู้สึกแย่แล้ว ก็ใช่ว่าเราจะสามารถไปลงกับคนอื่นที่เราไม่สนใจได้

เพราะเมื่อเราเองก็รู้ดีว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหนเวลาที่โดนเมินเนี่ย เราก็ควรจะพยายามหลีกเลี่ยง เพราะมันไม่ได้ให้ผลที่ดีขึ้น

การที่เราทำเมินใส่ข้อความเขา ถึงแม้จะเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเราไม่สนใจก็จริง แต่มันไม่ได้ให้ผลดีเลย แถมยังสร้างความรู้สึกแย่ต่อกันอีกต่างหาก

ถ้าเกิดว่าเขาพยายามจะจีบคุณผ่านข้อความ คุณไม่จำเป็นต้องถึงขั้นทิ้งโทรศัพท์แล้วไปนอน หรือบล็อคหรือทำอะไรขนาดนั้น

เพียงแค่คุณแกล้งเปลี่ยนเรื่อง อย่างเช่นถามคำถามอะไรก็ได้ไป เขาก็อาจจะล้มเลิกความพยายามในการแชทจีบ

วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้งที่เขาเริ่มเขียนอะไรแปลกๆ ก็ได้ อาจจะใช้ตอนที่ข้อความเริ่มรุกจีบมากเกินไป คุณก็ค่อยแกล้งถามคำถามเพื่อเปลี่ยนไปเรื่องอื่นๆ

แล้วเขาก็จะรู้ได้เองว่าคุณไม่ชอบให้ทำแบบนี้

และถ้าหากวิธีทั้งหลายที่บอกมายังไม่ได้ผลเนี่ย ก็คงต้องถึงเวลาใช้วิธีสุดท้าย ในข้อต่อไปแล้วล่ะจ้ะ

4. พูดไปตามตรง

ถ้าหากว่าวิธีอ้อมๆ ที่กล่าวมาข้างบนทั้งหมดนี่ยังใช้ไม่ได้ผลล่ะก็ แสดงว่านี่อาจจะไม่ใช่เวลาที่มาเล่นเกมบอกใบ้อะไรกันแล้ว

หนทางที่ดีที่สุดก็คือ บอกออกไปตรงๆ ให้เขาเข้าใจ

หาโอกาสดีๆ เหมาะๆ คุยกับเขาตรงๆ และคุยแบบดีๆ ด้วย อย่าไปตัดน้ำใจโดยการต่อว่าหรืออะไร

ให้ชวนเขาคุยตอนอารมณ์เย็นๆ แล้วอธิบายให้เขาฟังว่าคุณรู้สึกกับเขาเป็นแค่เพื่อนที่ดี หรือพี่น้องกันเท่านั้น

ก็ว่ากันไปตามตรง วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ยากที่สุดก็จริง แต่ถ้าหากวิธีอื่นไม่ได้ผลแล้ว วิธีนี้ก็คือสิ่งที่เราควรทำ และมันก็ไม่ได้เสียมารยาทอะไรมากด้วย

บอกกับเขาไปในทำนองว่า เรารู้ว่าเขารู้สึกดีกับเรายังไง แล้วคุณก็รู้สึกประทับใจ และขอบคุณมาก แต่ว่าไม่สามารถตอบแทนความรู้สึกได้จริงๆ

หากว่าคุณพยายามอธิบายเป็นเชิงว่า

ไม่อยากให้เขาต้องเจ็บ

แสดงถึงความหวังดีของคุณ

การปฏิเสธความรู้สึกครั้งนี้อาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่เขาอาจจะพอรับได้ก็ได้นะ

แน่แหละว่า

ในสถานการณ์แบบนี้ ยังไงคนที่โดนปฏิเสธก็ต้องเจ็บแน่นอน

แต่ว่ายังไงมันก็คงต้องบอกความจริงอยู่ดี เพราะไม่มีใครสามารถทนอยู่ท่ามกลางความน่าอึดอัดใจ หรือให้ความหวังลมแล้งๆ ไปก็จะเป็นผลเสียซะมากกว่า และถ้าหากว่าเรามีวิธีที่ดีในสถาการณ์ที่น่าลำบากใจแบบนี้

ก็สามารถทำให้คนที่จะต้องเจ็บ เจ็บน้อยที่สุดได้ ก็คงเป็นทางออกที่อาจจะเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายนะจ๊ะ