ค้นหาแคลอรี่จาก 'ผลไม้ตามรถเข็น' เลือกกินทั้งทีต้องมีประโยชน์ และไม่อ้วน!
ขึ้นชื่อว่าของอร่อย ย่อมมาพร้อมความอ้วน แม้แต่ผลไม้ก็เถอะ เลือกให้ดี แล้วหุ่นเฟิร์มกระชับจะกลับมา!
เผยแพร่: 27 เม.ย. 2561 16:47 น.
Views: 43,137
รหัสบทความ: 45408
ตอนที่เราเป็นเด็ก ผู้ใหญ่มักจะพร่ำบอกให้เรา
" กินผักและผลไม้เยอะ ๆ "
กันใช่มั้ยคะ? เพราะว่ามันดีต่อสุขภาพร่างกาย และดีกว่าขนมที่เราชอบกิน ( ซึ่งอร่อยแต่ดันกินแล้วอ้วน ) พอโตเป็นสาว...แน่นอนว่าหลายคนเริ่มอยากจะดูแลรูปร่างกันมากขึ้น
สำหรับคนที่ไม่ชอบกินผัก ผลไม้จึงกลายเป็นหนึ่งทางเลือกในการไดเอท แต่...ก็ไม่ใช่ว่าผลไม้ทุกชนิดจะกินแล้วผอมนะ
( ไม่ใช่ยาลดความอ้วนสักหน่อย = =" ) เพราะผลไม้บางอย่างก็มีน้ำตาลอยู่ด้วย
แต่ถ้าวันนี้จะมาพูดเรื่องผลไม้แทบทุกชนิด เห็นทีจะยืดยาวจนเกินไป วันนี้มิ้วเลยขอมาเสนอเรื่องของ
" ผลไม้ที่ขายตามรถเข็น "
มาดูกันว่า
แต่ละอย่างนั้น ในปริมาณ 100 กรัม เขามีกี่แคลอรี่กัน?
ใครพร้อมจะไปพิสูจน์พร้อม ๆ กันแล้ว ตามมาดูกันโดยด่วน
1. มะละกอ
เริ่มกันที่ผลไม้สีส้มทั้งเปลือกและเนื้อ มีรสหวาน มีสรรพคุณที่ช่วยเป็นยาระบาย ทำให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น ช่วยย่อยอาหาร บำรุงประสาทและสมอง ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดหรือเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันการเกิดโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และสามารถรักษาผดผื่นคันตามตัวได้
ในมะลอกอ 100 กรัม มีแค่ 43 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถือว่าน้อยมาก สามารถทานเล่นได้แบบหายห่วง :)
2. ฝรั่ง
จัดเป็นผลไม้ยอดฮิตสำหรับการไดเอท เนื่องจากฝรั่งนั้นอุดมไปด้วยกากใยอาหาร ช่วยทำให้อิ่มท้องได้เป็นเวลานาน พร้อมช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือกให้คงที่ และยังช่วยในการล้างสารพิษในร่างกายได้ อีกทั้งฝรั่งยังจัดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินสูงที่สุดอีกด้วย ซึ่ง
ฝรั่ง 100 กรัมนั้น จะให้พลังงานอยู่ที่ 68 กิโลแคลอรี่
ซึ่งถือว่าไม่มากเกินไปนัก แถมกินแล้วไม่อ้วนด้วย
3. ชมพู่
เป็นผลไม้ที่หลายคนติดใจ เพราะมีน้ำเยอะ ช่วยให้รู้สึกชุ่มคอ แถมยังมีรวหวาน ๆ นิด ๆ กินแล้วสดชื่น แต่ชมพู่ไม่ได้มีดีแค่นั้นค่ะ เพราะจริง ๆ ผลไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดี เนื่องจากมีพลังงานต่ำและทำให้อิ่มง่าย อีกทั้งยังมีวิตามินซีซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และสามารถลดความเสี่ยงไขมันอุดตันในเส้นเลือดและโรคหัวใจได้
ในชมพู่ 100 กรัม จะให้พลังงานทั้งหมด 28 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถือว่าน้อยมาก แบบนี้กินได้สบายหายห่วงแน่นอน
( แต่ต้องระวังนิดนึงนะคะว่าเขาเอาไปแช่กับน้ำตาลด้วยรึเปล่า เพราะมันจะหวานมาก แล้วน้ำในชมพู่มันจะออกมาเป็นสีแดงชัดมาก ส่วนตัวมิ้วเคยเจอค่ะ )
4. แตงโม
ผลไม้รสหวานที่ได้กินทีไรก็รู้สึกสดชื่น แถมยังมีคนชอบเอาไปปั่นเป็นเครื่องดื่มอีกด้วย เนื้อของแตงโมมีสารสีแดงที่เรียกว่า
" ไลโคปีน "
( ซึ่งพบในมะเขือเทศด้วย ) มีคุณสมบัติในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
พร้อมกันนั้นยังมีสาร
" เบต้าแคโรทีน "
ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการติดเชื้อและอักเสบในระบบทางเดินอาหาร และในน้ำฉ่ำ ๆ ที่อยู่ในเนื้อของแตงโม ยังช่วยขับปัสสาวะ บำรุงผิวพรรณและเส้นผสมให้แข็งแรงเงางามไปในตัว ( มิน่าล่ะตอนเด็ก ๆ แม่ถึงไม่ให้กินแตงโมเยอะตอนก่อนนอน 5555 )
ในแตงโม 100 กรัม จะมีพลังงาน 30 กิโลแคลอรี่
ค่ะ จัดว่าน้อยอีกแล้ว แต่ก็ต้องระวังนะคะ กินเยอะจะปวดปัสสาวะเอาได้ ^^
5. มะม่วง
จัดเป็นผลไม้ที่ฮอตฮิตมากในช่วงหน้าร้อน มีหลายสายพันธุ์ และสามารถนำมาแปรรูป และประกอบอาหารได้หลากหลายอย่าง ใช่แล้วค่ะ เรากำลังกล่าวถึง
" มะม่วง "
นั่นเอง แม้จะเป็นผลไม้ที่หลายคนบอกว่ากินแล้วอ้วน แป้งเยอะ แต่จริง ๆ แล้วในมะม่วงก็มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายอยู่เหมือนเหมือน เพราะภายในมะม่วงนั้นอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี ฯลฯ ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ริ้วรอยก่อนวัย และโรคมะเร็ง
มะม่วงในปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานอยู่ที่ 76 กิโลแคลอรี่
จัดว่าสูงกว่าผลไม้ทุกชนิดที่ขายตามรถเข็น เอาเป็นว่า กินให้พอดี ๆ อย่ามากเกินไปก็เพียงพอแล้วค่ะ
6. สับปะรด
มาถึงสิ่งที่มิ้วโปรดปรานมาก ( แม้ว่าจะมีหลายคนไม่ชอบเพราะบอกว่าแล้วแสบลิ้นก็ตาม ) ผลไม้สีเหลืองมีรสเปรี้ยวอมหวาน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายทั้งอาหารคาวและของหวาน และยังเป็นที่นิยมในการนำมากินหลังจากกินข้าวเสร็จ เพราะมีสรรพคุณที่ช่วยย่อย ทำให้รู้สึกสบายท้อง
ภายใน
" สับปะรด "
มีสารอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีความแข็งแรง ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง ทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี ฯลฯ พร้อมกันนั้นยังช่วยรักษาโรคบิด โรคนิ่ว บรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ช่วยขับประจำเดือน และขับปัสสาวะได้ ซึ่ง
ในสัปปะรด 100 กรัม ให้พลังงานอยู่ที่ 50 กิโลแคลอรี่เท่านั้น จัดว่าไม่น้อยและไม่มากเกินไป
ค่ะ
7. แคนตาลูป
มาถึงผลไม้ตระกูลแตงกันบ้าง
" แคนตาลูป "
เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนเพราะมีรสชาติหอมหวานชื่นใจ กินแล้วสดชื่น ซึ่งภายในแคนตาลูปนั้นก็มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายค่ะ ทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง รักษาระดับน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการไขข้ออักเสบ สร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวและสายตาให้มีสุขภาพดี ที่สำคัญยังช่วยบรรเทาความเครียดได้อีกด้วย
ใน
แคนตาลูป 100 กรัมมีพลังงาน 33 กิโลแคลอรี่
ซึ่งจัดว่าน้อยเลยทีเดียว
8. มันแกว
เป็นสิ่งที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะมีอยู่ตามรถเข็นขายผลไม้โดยทั่วไป
" มันแกว "
เป็นพืชตระกูลถั่ว เนื้อภายในมีสีขาว รสชาติคล้ายแป้ง แต่มีความฉ่ำ กรอบ กินแล้วได้ความสดชื่น มีสรรพคุณมากมายทั้งช่วยลดความอ้วน บำรุงเลือด ป้องกันท้องผูก แก้ไข้ และใช้เป็นยารักษาพิษสุราเรื้อรังได้ ( น่าจะเหมาะมากกับคนที่เป็น alcoholic นะคะ อิอิ )
ใน
มันแกว 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 38 กิโลแคลอรี่
เท่านั้นค่ะ
10. พริกเกลือ
และเวลาที่ซื้อผลไม้เหล่านี้ สิ่งที่จะต้องมีติดมาด้วยในถุงก็คือเครื่องจิ้มอย่าง " พริกเกลือ " ค่ะ ซึ่งในพริกเกลือปริมาณ 20 กรัม จะมีพลังงานถึง 80 กิโลแคลอรี่เลยเชียวนะ!!! จัดว่าสูงทีเดียว จิ้มกินเพลิน ๆ ไม่รู้ว่ากินไปเท่าไหร่แล้ว ใครที่ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องการควบคุมน้ำหนักมาก ก็กินให้พอดี ๆ นะคะ แต่ถ้าใครที่ต้องการไดเอทจริง ๆ ไม่จิ้มเลยจะดีที่สุด
**************************************
รู้ข้อมูล คุณประโยชน์ จำนวนพลังงานของผลไม้แต่ละชนิดที่ขายตามรถเข็นกันแล้ว ทีนี้ก็น่าจะช่วยให้สาว ๆ เลือกทานได้ง่ายขึ้นนะคะ ที่สำคัญคือถึงแม้จะเป็นของโปรด ก็ต้องทานในปริมาณที่พอดี อย่าให้มากจนเกินไป สุดท้ายก็หวังว่าสิ่งที่มิ้วนำมาฝากกันนี้จะถูกใจกันนะคะ แล้วพบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่ะ