ในชีวิตจริงของเรา
สิ่งที่หวัง เป้าหมายที่ฝันไว้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ยังไม่รวมควา
มพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก
ต่างๆ นานา ที่ล้วนแต่
ทำให้ปวดหัวและเครียด
นอกจากจะ
ไม่มีแรงใจทำตามความฝันแล้ว
ก็ยังหนักถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ
รู้ทั้งรู้ว่า
นั่งเครียดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
แทนที่จะปล่อยตัวเองให้จมกับความคิดเครียดๆ
มาผ่อนคลายตัวเองให้รู้สึกดีขึ้น ด้วย 7 วิธีนี้
กันดีกว่านะคะ
1 # เปลี่ยนวิธีหายใจ จุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
เมื่อเราเกิดภาวะเครียด
ร่างกายเราจะหายใจถี่และสั้นโดยอัตโนมัติ
ยิ่งเราปล่อยตัวเองให้หายใจแบบนั้น
ก็จะยิ่งทวีความรู้สึกตอกย้ำตัวเอง
ที่ว่า
เรากำลังเครียดนะ นี่ชั้นเครียดจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
พอตระหนักถึงภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่
ก็ทำให้รู้สึกเครียดหนักกว่าเดิม
อย่ากระนั้นเลย ตั้งสติ
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ซัก 3 ครั้งติดกัน
ด้วยสเต็ปง่ายๆ นี้ ก็เป็นกา
รลวงร่างกายเราให้รู้สึกสงบขึ้น
ได้แบบไม่น่าเชื่อ
เมื่อการหายใจเป็นปกติแล้ว การคิด การตัดสินใจของเราก็จะดีขึ้น
โดยอัตโนมัติด้วย
2 # ยืดเส้นยืดสาย กระตุ้นตัวเองให้ตื่นตัว
ในขณะที่เราเครียด
เราจะรู้สึกว่าท่าทางที่เหมาะสมของเรา คือ
ท่านั่งมุดๆ หลบมุม เพื่อคิดอะไรตามลำพัง
การกระทำเช่นนั้น
เป็นการเอื้อให้ร่างกายเราเครียดได้เต็มที่
ไม่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไร ขอแค่นั่งคิดให้แย่ลงไปก็แค่นั้น
ผิ้ดดดด!!
เบรกแบบยาวๆ ถ้าเราปล่อยตัวเองให้จมดิ่ง ก็จะยิ่งยากต่อการกู้กลับมา
เมื่อเกิดภาวะอยากนิ่งปุ๊บ ให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายซะ
อย่าไปตามใจมัน
หายใจเข้า
แล้วยืดมือขึ้นด้านบนจนสุดแขน เอียงซ้ายเอียงขวา บิดลำตัวเล็กน้อย ให้ร่างกายได้ขยับ
เมื่อหายใจออก ก็กลับสู่ท่าปกติ
ทำเสร็จแล้ว
เราจะสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายทั้งทางใจและกาย
ได้ทันที
3 # คุยกับใครสักคน
สิ่งที่เราไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเกิดอาการวิตกกังวลก็คือ
การปล่อยตัวเองให้อยู่คนเดียว
คิดอะไรเองเออเอง ตัดสินใจแบบไร้สติไปคนเดียว ฉะนั้น อย่ามัวแต่คิดให้ปวดหัว
โทรหรือแชทหาคนสนิท
จะเป็นแฟน เป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง หรือพ่อแม่ก็ได้
การได้คุยกับคนนอก จะทำให้เราเห็นมุมมอง และวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลายขึ้น
บางทีสิ่งที่เรากังวล อาจจะไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดไปเองคนเดียวก็ได้นะ
4 # ออกไปเดินเล่นข้างนอก
ความเครียด จะสัมพันธ์กับอาการเบื่อ
ฉะนั้น ถ้าเราไม่อยากนั่งวิตกไปคนเดียว วิธีง่ายๆ ก็คือ
ย้ายตัวเองออกมาข้างนอกซะ
มาสูดอากาศบริสุทธิ์ เจอคนมากหน้าหลายตา ดูรถวิ่งไปมา จะเป็นการรีเซ็ตความคิด
ทำให้เราหลุดออกจากวังวนความคิดลบๆ ในสมอง
แล้วหันมาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานมาก ถ้าไม่มีเวลา
เพียงสละซัก 15 นาที ก็ได้ผลแล้วค่ะ
5 # งีบซักนิด จะติดใจ
เคยสังเกตมั้ย บางที
งานบางอย่างที่เราไม่สามารถทำให้เสร็จได้
แต่พอนอนไปเท่านั้นแหละ
ตื่นมาทำได้ฉลุยซะเฉย
ซึ่งสถานการณ์นี้ก็เหมือนกัน การนั่งคิด นอนคิด ไม่ทำให้แก้ปัญหาได้ทันที
แต่การนอนนี่แหละจะช่วยเราได้
เมื่อเกิดความเครียด
ตัดสินใจไม่ถูก มีหลายอย่างที่แก้ไข
ร่างกายเราจะรู้สึกหมดพลัง
ให้เราทำการ
ชาร์จแบตให้ตัวเอง ด้วยการงีบแบบไร้สิ่งรบกวน
ปิดเน็ต ปิดเสียงแชททั้งหมด เข้าสู่โหมดการงีบแบบจริงจัง
อย่างน้อย 20 นาที
ตื่นมาจะสดใสจนลืมไปเลยว่าเคยเครียด
6 # เขียนออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง
อะไรที่เป็นนามธรรม
จับต้องไม่ได้
มักจะทำให้เราต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ
ฉะนั้น แทนที่จะคิดไปคิดมาจนยุ่งเหยิงในหัว
ให้เราลงมือเขียนมันออกมาบนกระดาษซะดีกว่า
หยุดการวาดผังในสมอง แล้วหยิบปากกาออกมาเขียนซะ เรื่องอะไรที่เรากำลังกังวลอยู่บ้าง
ลิสต์ออกมาซัก 3 ข้อ ที่รบกวนจิตใจเราที่สุด
พร้อมกับตั้งชื่อให้มันด้วย
จะทำให้เรารู้สึกกับมันในแบบที่แตกต่างออกไปมากขึ้น อะไรที่เราตั้งชื่อเอง
มักจะดูเหมือนอยู่ภายใต้อำนาจเราเสมอ
ถึงจะปัญหาใหญ่แค่ไหน
ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหนือการควบคุมอีกต่อไป
7 # ดนตรี ยังไงก็เป็นมิตรกับเรา
ใน
Youtube
จะมีอยู่บางแชนแนล ที่จะอัปโหลดแต่
เพลงเพื่อการผ่อนคลาย
ซึ่งมียอดรับชมสูงซะด้วยนะ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า
ดนตรีจะช่วยปรับคลื่นในสมองของเราให้รู้สึกผ่อนคลายได้
ฉะนั้น
ถ้ารู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับ
กินไม่ลงเมื่อไหร่
เปิดเพลงฟังทันที
ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงเพื่อการผ่อนคลาย แต่เป็นเพลงอะไรก็ได้ที่เราชอบ
จังหวะและเสียงดนตรีจะทำให้ใจเรากระชุ่มกระชวย
ไหลไปกับเสียงเพลงจนลืมเรื่องที่เครียดๆ อยู่ไปเลย
จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
ถ้าหากเราเครียด เราก็จะไม่สามารถบังคับร่างกายให้ไปทำอะไรได้เลย
ไม่อยากเสียจังหวะชีวิต ก็อย่ามัวแต่จมอยู่กับความเครียดนะคะ
มีหลายทางที่ช่วยแก้ได้
ถ้าใจเรามีแรงพอ
จะปัญหาอะไร ก็ไม่ยากสำหรับเราแล้วล่ะค่ะ
Cr : How to relax unwind when you're stressed out
https://www.yourtango.com/experts/cynthiaackrillmd/how-to-relax-unwind-when-youre-stressed-out