1. SistaCafe
  2. 2 วิธีง่ายๆ สำหรับทำ "คาราเมล" ทำยังไงก็อร่อยแน่นอน!

วันนี้

LittleFilmz

มีวิธีทำ

" ( Caramel ) คาราเมล "

มาฝากแบบ Step by Step กันถึง 2 วิธีเลยละค่ะ หลายคนเคยเคยเจอปัญหาในการทำคาราเมล และคิดว่ามันมีวีธีที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ไหม้ก็ง่าย บลา บลา บลา ซึ่งในวันนี้ฟิล์มจะพามาดูเคล็ดลับการทำคาราเมลให้สำเร็จได้อย่างง่ายดายมาฝากกันค่ะ



แถมตบท้ายด้วยสูตร" คาราเมลซอส "ที่ไว้ทานคู่กับของหวานได้อย่างสุดฟินอีกด้วยค่ะ



พร้อมแล้วมาดูวิธีการทำคาราเมลทั้ง 2 วิธีกันเลยยย




วิธีที่ 1 | วิธีแบบเปียก (The wet Method)

ส่วนผสมสำหรับวิธีที่ 1

* น้ำตาลทราย     200  กรัม* น้ำเปล่า              60  กรัมวิธีที่ 1 นี้เป็นการทำคาราเมลที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล + น้ำตั้งไฟจนมีสีน้ำตาลเข้ม มีรสหวานค่อนไปทางขมๆ วิธีนี้จะง่ายกว่าแบบที่ 2 เพราะมีน้ำมาเป็นส่วนประกอบทำให้ไหม้ได้ยากกว่า"วิธีนี้ฟิล์มแนะนำสำหรับสำหรับมือใหม่นะคะ "


- เริ่มจากการผสมน้ำตาล กับ น้ำ ลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟกลาง

- รอจนกระทั่งน้ำตาลละลาย ในขั้นตอนนี้


" หลีกเลี่ยงการคนนะคะ "

ให้ใช้การเขย่ากระทะเป็นวงกลม หรือเลื่อนกระทะไปข้างหน้า ข้างหลังแทน ( พอนึกภาพออกกันไหมคะ -*- ) เพราะว่าการคนจะทำให้น้ำตาลจับตัวกันเป็นผลึก

- ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำการคนน้ำตาล ในระหว่างนี้ก็จะมีผลึกน้ำตาลเกาะตัวกันอยู่ตามขอบของหม้อ ให้เราใช้แปรงจุ่มน้ำ ค่อยๆ กวาดมันลงไปเลยค่ะ เพื่อละลายตัวผลึกน้ำตาล

- หลังจากนี้ก็เป็นขั้นตอนของการเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อแล้วค่ะ รอจนน้ำตาลค่อยๆ เปลี่ยนสี จากใส เริ่มเหลือง เริ่มน้ำตาลอ่อน และน้ำตาลเข้มในที่สุด ในระหว่างที่รอเนี้ย เราก็ควรวนกระทะเป็นระยะๆ นะคะ เพื่อให้น้ำตาลละลายอย่างทั่วถึง


แต่ย้ำว่าห้ามคนนะคะ

- ในขั้นตอนของการทำคาราเมลนั้น มันสามารถไหม้ได้ง่ายมากๆ เลยละค่ะ ดังนั้น!


ควรจับตาดูมันให้ดีนะคะหลังจากที่คาราเมลของเราเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ที่แล้ว ให้ยกลงจากเตาทันทีเลยนะคะ ก่อนที่มันจะกลายเป็นน้ำตาลไหม้ๆ


วิธีที่ 2 | วิธีแบบแห้ง (The Dry Method)

ส่วนผสมสำหรับวิธีที่ 2* น้ำตาล   200  กรัมวิธีนี้จะแตกต่างจากวิธีแรกคือ เราจะใช้แค่น้ำตาลอย่างเดียวเป็นวิธีที่เปลี่ยนเป็นคาราเมลในระยะเวลาสั้นกว่า แต่ก็ไหม้ได้ง่ายกว่าวิธีแรก เช่นกันค่ะ

- เริ่มจากการเทน้ำตาลลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง

- ทั้งหมดทั้งมวลคือ แค่รอเวลาให้น้ำตาลละลาย และ กลายเป็นคาราเมล มันจะเริ่มๆ ละลายจากขอบๆ ก่อนนะคะ และจะค่อยๆ ละลายเข้ามาเรื่อยๆ

ฮั่นแน่!!!

มันน่าคนมากๆ เลยใช่ไหมคะ แต่ว่าเหมือนเดิมนะคะ

ห้ามคนเด็ดขาด


ทำได้คือ เขย่า หรือ วนกระทะไปรอบๆ เพื่อกระจายน้ำตาลให้ละลายได้ง่ายขึ้นค่ะ

- หลังจากที่น้ำตาลของเราเปลี่ยนเป็นคาราเมลเรียบร้อย รีบยกลงจากเตาเหมือนเดิมค่ะ


หลังจากนี้เราจะนำคาราเมลไปทำขนมอะไรก็ได้หลายหลายชนิดเลยละค่ะ แต่อย่าลืมนะคะ

คาราเมลจะเย็นและจับตัวแข็งได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้นจะทำอะไรก็รีบทำน้าาาา


ซึ่งอีกหนึ่งวิธีแปรรูปคาราเมลที่นิยมคือการทำ

" คาราเมล ซอส "

เอาไว้ทานคู่กับของหวาน ราดหน้าไอศกรีม หรืออะไรก็ตามแต่

ซึ่งวันนี้ฟิล์มก็มีสูตรทำ คาราเมลซอส แถมมาให้ด้วยล่ะค่ะ

มาดูกันเลยย


วิธีทำ Caramel Sauce | คาราเมลซอส

ส่วนผสม

*คาราเมล*วิปปิ้งครีมสด    3/4    ถ้วย*เนยจืด                2   ช้อนชา*เกลือ           1/2 - 1  ช้อนชา*กลิ่นวานิลลา       1   ช้อนชา


- หลังจากในขั้นตอนที่น้ำตาลของเราเปลี่ยนเป็นคาราเมลสีน้ำตาลเข้ม ยกลงจากเตาปุ๊บ ให้เราเติมวิปปิ้งครีมลงไปทันที ค่อยๆ คน ระหว่างนี้คาราเมลของเราจะเดือดปุๆ น่ากลัวมากๆ ระวังความร้อนของมันด้วยนะคะ


- หลังจากเทวิปปิ้งครีมลงไปแล้ว นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟกลางอีกครั้ง ค่อยๆ คนจนกระทั่งคาราเมลกับครีมเข้ากันดี คนจนเนื้อคาราเมลดูนุ่มนวลลล


- หลังจากคาราเมลซอสได้ที่ ยกลงจากเตา เติมเนย เกลือ กลิ่นวานิลลาลงไปในขึ้นตอนนี้ได้เลยค่ะ


เสร็จเรียบร้อยวิธีทำ" คาราเมล "และ" โฮมเมดคาราเมลซอส "ของเรา แค่นี้ก็มีซอสคาราเมลไว้ทานกับของหวานได้แบบฟินๆ แล้วล่ะค่ะ



ไม่ยากเลยใช่มั้ยล๊าา แต่ต้องจับตาดูมันอย่างจดจ่อเฉยๆ เองงง ถ้าเผลอหันไปตอบไลน์ โพสเฟสบุ๊ก แปปเดียวระวังไหม้ไม่รู้ด้วยน้าาาา อิอิ



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน


แล้วพบกันใหม่น้าาา สาวๆ

SistaCafe

บทความที่เกี่ยวข้อง

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้