สาวๆ ทุกคนล้วนต้องเคย" อยากกิน "อาหารที่ไม่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น!

แต่ความโชคร้ายคือ ดันมาเกิดอาการนี้ตอนกำลังไดเอท ลดน้ำหนักอยู่น่ะสิ -.-

พอห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ตบะแตก บึ้ม! ในทุ่งข้าวสาลี เกิดเป็นโกโก้ครั้นช์ กินรัวๆ ทั้งขนมที่อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาลและไขมัน รู้ตัวอีกทีหน้าท้องก็ยื่นขยายจนต้องร้องไห้หนักมาก


พออ้วนก็เริ่มโทษตัวเอง ทำไมต้องอยากกินของพวกนี้ด้วยนะ!?

ทุกผลลัพธ์ย่อมมีสาเหตุอยู่เบื้องหลังเสมอ!

การที่เธออยากกิน โหยหาแต่อาหารจำพวกขนมหวาน เค้ก คุกกี้ มันฝรั่งทอดกรอบ มักมีปัจจัยต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งทางกาย จิตใจ อารมณ์และสิ่งแวดล้อมรอบตัว

แต่ถ้าเธอค้นเจอว่าเป็นเพราะอะไรและแก้ไขได้ทัน ความโหยครั้งนี้จะไม่มากวนใจเธออีกต่อไป *_*

จะรอช้าอยู่ไย คำตอบของปัญหานี้อยู่ในบทความแล้วล่ะ! เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย =w

=


1. อดมื้อกินมื้อ

รูปภาพ:http://3.bp.blogspot.com/_7mgRdSFz1-c/TJq5GTGZAhI/AAAAAAAABoU/cs-TdRd3hrI/s1600/shockinganorexia38.jpg

ถ้าเธอไดเอทด้วยการไม่ยอมกินอาหารให้ครบสามมื้อ มื้อไหนอดได้ก็อด ( แล้วไปตบะแตกตอนมื้อเย็นรัวๆ ) ร่างกายของเธอจะมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้โหยหาอาหารพลังงานสูงที่จะไม่ทำให้เธออดตาย ซึ่งอย่างแรกที่สมองของเธอจะคิดถึงคือ คาร์โบไฮเดรตหรือแป้งหนักๆ อย่างพิซซ่าหรือไก่ทอดน้ำมันท่วม แม้จะกินน้อยก็จะไม่อิ่มและหิวอีกครั้งในทุกๆ ชั่วโมง

วิธีแก้ไขคือกินให้ครบสามมื้อเหมือนเดิม แต่เน้นอาหารประเภทโปรตีน ธัญพืชเต็มเมล็ด ( โฮลเกรน ) คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง และไขมันชนิดดี เช่น ถั่วและอโวคาโด ถ้าในมื้อหลักไม่อิ่ม สามารถกินของว่างได้ เลือกแบบที่อิ่มท้องและไม่อ้วนเกินไป เช่น ผลไม้รสไม่หวาน หรือถั่วอัลมอนด์ประมาณ 10 เมล็ดก็ใช้ได้ค่ะ

ถ้าเธอกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ร่างกายจะย่อยนานกว่าปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ ไม่หิวง่าย ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น


2. รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา

รูปภาพ:http://s5.favim.com/orig/53/girl-tired-vintage-Favim.com-498951.jpg

อาการ " เหนื่อย " ก็ทำให้เกิดความหิวแบบไม่จำกัดได้เช่นกัน! ซึ่งสาเหตุอาจจะเกิดมาจากการนอนไม่พอ นอนไม่หลับ ทำให้รู้สึกเพลียและเมื่อยล้า หมดไฟ ไม่มีแรงจะทำงานตั้งแต่เช้า ลุกขึ้นมาตาโหลแบบซอมบี้ ( แต่พร้อมที่จะลุยกินบุฟเฟ่ต์ให้กลิ้งออกจากร้าน )

ถ้าเธอพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะมีแนวโน้มที่ " อยากกิน " อาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือที่เรียกว่าอาหารขยะนั่นเอง! พยายามหากิจกรรมที่กระตุ้นให้ตัวเองสดใสร่าเริงอยู่เสมอ เช่น ออกไปเดินเล่นในวันฟ้าใส แสงแดดจางๆ ฟังเพลงคลอไปด้วย จะได้ไม่หมกมุ่นอยู่กับการกินเพียงอย่างเดียว แต่ถ้ามีเวลามากพอ ก็กลับไปงีบหลับให้พอดีกว่านะ


3. ระบายความเครียดด้วยการ " กิน "

รูปภาพ:http://www.mychicagotherapist.com/wp-content/uploads/2014/10/emotional_eating.jpg

ความเครียดเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของความอ้วนเลยล่ะค่ะ! ถ้าในชีวิตประจำวันของเธอถูกกดดันด้วยเดทไลน์อย่างกำหนดส่งโปรเจ็ค กำหนดส่งค่าเช่าบ้าน และอีกต่างๆ นานาที่ทำให้เธอเครียด สมองของเธอจะเริ่มคิดหาทางออก ซึ่งแน่นอนว่าไม่พ้นการรับพลังงานเข้าเส้นเลือด หรือการกินนั่นเอง

แทนที่จะปล่อยให้อารมณ์เครียดเข้าครอบงำจิตใจ ทำให้การไดเอทล้มเหลว ลองบริหารจัดการกับ " อารมณ์เครียด " ของตัวเองดีกว่า เช่น หายใจเข้าออกลึกๆ หรือฟังเพลงที่มีทำนองเอื่อยๆ เบาๆ เพื่อให้ใจเย็นและสงบลง หรืออีกวิธีคือเขียนรายการว่าสิ่งไหนที่ทำให้เธอกังวล และหาวิธีแก้ไขจนครบทุกข้อค่ะ

หลักสำคัญคือต้่อง " ระงับจิตใจให้ได้ " ถ้าไม่หยิบขนมในถุงเข้าปากซะอย่าง เธอก็ไม่มีวันอ้วนขึ้นหรอก จริงไหมล่ะ


4. อารมณ์แปรปรวน / ผิดหวัง / สิ้นหวัง / โกรธ

รูปภาพ:http://www.mhhub.com/wp-content/uploads/2012/02/girl.jpg

ปัจจัยที่สี่ คล้ายกับข้อข้างต้นคือความเครียด แต่อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ " ด้านลบ " แบบไหนก็ทำให้เธออยากกินอาหารไม่มีประโยชน์แทบทั้งสิ้น! ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวัง สิ้นหวัง เศร้า เสียใจ หม่นหมอง โกรธแค้น โกรธทีไรต้องหาช็อกโกแลตหวานๆ มาเคี้ยวให้ฟิน แล้วจะ ( รู้สึกไปเองว่า ) มีความสุขมากขึ้น ทั้งที่จริงทำให้อ้วนขึ้นรัวๆ ต่างหากล่ะ

วิธีแก้ไขก็ไม่ยาก คิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมแย่ๆ และอบรมตัวเองด้วยการ " ให้เวลาคิดทบทวน พิจารณาตัวเอง " ถ้าเธอรู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ และเตรียมไปเปิดตู้เย็นหาขนมเข้าปาก จงหยุดเท้าที่จะก้าวเดินนั้นไว้ก่อน แล้วคิดว่าเธอหิวจริงๆ หรือเปล่า บางทีอาการอยากนั้นอาจจะหายไปเองก็ได้ หรือจะทำอย่างอื่นเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้ เช่น มาส์กหน้า เล่นเกม อ่านหนังสือ วาดรูป เป็นต้น


5. ห้ามใจไม่ให้ซื้อ " อาหารขยะ " ไม่ได้

รูปภาพ:http://www.chicagotribune.com/media/photo/2012-01/249077500-25151224.jpg

ปัจจัยที่ห้ามาจากความอยากล้วนๆ นั่นคือ " ห้ามใจตัวเองไม่ไหว " ไปซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านทีไรต้องขอเฉียดแผนกขนมถุง อาหารสำเร็จรูป เห็นขนมยี่ห้อนี้ออกรสใหม่ แพกเกจจิ้งใหม่ก็อยากได้ โกยและหอบจนเต็มรถเข็น รู้ตัวอีกทีก็มีขนมเต็มบ้าน จะไม่กินก็เสียดายของซะงั้น = = พอกินหมดก็ตั้งใจว่าจะไม่ซื้ออีก แต่เห็นซองขนมเชิญชวนให้ซื้อขนาดนั้นก็เอาซะหน่อย วนลูปเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเริ่มนึกสมเพชตัวเองขึ้นมาตงิดๆ -.-

แม้จะเป็นเรื่องยาก ( บางคนอาจบ่นว่า เลิกกินขนมยากกว่าเลิกบุหรี่อีก! ) เธอต้องหักห้ามใจตัวเองให้ได้ค่ะ ถ้าเห็นขนมแล้วอดใจไม่ได้ก็เลี่ยงซะ เช่น ไม่ไปซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเบเกอรี่ และร้านขายขนมเมื่อเธอรู้ตัวว่ากำลังจะ " ตบะแตก "

ถ้าเธอต้องเจอสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ที่บ้านซื้อโดนัทมาวางทิ้งไว้ ต้องไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนๆ ที่มีแต่ขนมเรียงราย อย่าเอาแต่บอกตัวเองว่าห้ามกิน เพราะสมองจะดื้อและกินเยอะกว่าที่คิดไว้เสียอีก กินแค่ชิ้นเดียวพอรู้รสชาติแล้วพอ จะดีต่อสุขภาพกายและจิตของเธอมากกว่าค่ะ

==========================

จบลงไปแล้วกับ 5 สาเหตุที่ทำให้เธอมีพฤติกรรมการกินแบบผิดปกติ นั่นคือโหยหาแต่อาหารจั๊งค์ฟู้ดหรืออาหารขยะนั่นเอง -.- ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าปัจจัยต่างๆ เกิดจากการที่เธอไม่ดูแลตัวเองแทบทั้งสิ้น เช่น กินอาหารไม่ครบสามมื้อ นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้เหนื่อยง่าย ปล่อยให้ตัวเองเครียดโดยไม่หาทางออก และข้อสุดท้ายคือห้ามใจตัวเองไม่อยู่!

ถ้าเธอรู้วิธีจัดการกับอารมณ์และสุขภาพกายของตัวเอง ระบบในร่างกายจะคงที่ ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีและน้ำหนักที่เหมาะสมในระยะยาวค่ะ ^______^

==========================


บทความที่เกี่ยวข้อง