คุณรู้มั้ยว่า

ศีรษะของคุณนั้น

มีน้ำหนักอยู่ราวๆ

4.5 - 5.4 กิโลกรัม

เลยนะ! ถ้าจะเทียบให้เห็นภาพก็คงจะ

ประมาณถุงแป้งอเนกประสงค์ประมาณ 3 - 4 ถุง

เลยทีเดียว ซึ่งน้ำหนักทั้งหมดนั้น กำลังทรงตัวอยู่ได้ด้วย

กระดูกและเนื้อเยื่อบนคอของคุณเอง

ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า

าการปวดคอและหลังนั่นมันมาจากไหน


นอกจากนี้ก็ยังมีข้อควรรู้ที่เราไม่เคยรู้กันมาก่อนอีก

ว่าด้วยเรื่องการเอียงคอ

หมุนคอ

ก้มคอ ประมาณ 15 องศา

ซึ่งเป็น

ระยะเท่ากับที่เราก้มหน้าดูจอโทรศัพท์

และก้มหน้ามองคีย์บอร์ดที่กำลังพิมพ์แชทกับเพื่อนนั่นเอง โดยระดับการก้มหน้า 15 องศานี้

จะเพิ่มความตึงเครียดให้กับกล้ามเนื้อคอของเราอย่างมากในแบบที่เราคาดไม่ถึง

ถ้าไม่เชื่อก็ลองให้เพื่อนถ่ายรูปคุณตอนกำลังก้มหน้าเล่นมือถือให้ดูสิ

แล้วคุณจะเห็นภาพคนที่กำลังแบกถุงแป้ง 5 ถุงอยู่บนคอ

นั่

งงอๆ

พร้อมกับกระดูกที่โปนอยู่ด้านหลัง อาห์...

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/5c/c3/84/5cc38409e9039231cfa9f47c76626c64.jpg

ซึ่งท่าทางที่มันควรจะเป็นนั้น

ไม่ใช่ว่าเราจะต้องนั่งให้ตรง

แต่เราต้องรู้วิธีว่านั่งยังไงให้มั่นคงและแข็งแรงต่างหาก

ถ้าหากว่ากล้ามเนื้อของเราอ่อนแอ

เส้นเอ็นของเราก็จะต้องกดดันจนเกิดอาการรั้งตึง

และนั้นก็ทำให้ข้อต่อของคุณเสี่ยงกับปัญหาได้

ซึ่งกล้ามเนื้อนั้นก็จะเข้ามารับหน้าที่แบ่งเบา

ภาระนั้นแทน

และทำให้เราเกิดอาการเจ็บขึ้นมาได้

ซึ่งถ้าเราปล่อยไว้นานวันเข้า มันก็จะยิ่งแย่ขึ้นอย่างแน่นอน


ร่างกายของคนเราทุกคนนั้น

ถูกดีไซน์มาเพื่อการเคลื่อนไหว

ไม่ได้ให้นั่งนานๆ หน้าโต๊ะทำงานตลอดทั้งวัน แ

ล้วถ้าหากว่าเราต้องทำงานออฟฟิศ

หรือต้องนั่งทำงานนิ่งๆ ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้

เราจะทำยังไงเพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ

ซึ่งอาจจะลามไป

จนทำให้เกิดอาการปวดหัว

นั้นได้บ้างล่ะ ?

รูปภาพ:http://www.integratedhealthofsi.com/wp-content/uploads/2016/11/45264e_27d88ac5ca954545a9c0004355cc00ea-mv2_d_2529_3161_s_4_2.jpg

และนี่ก็คือ

3 กระบวนท่าขจัดความเจ็บปวดรวดร้าวตรงกล้ามเนื้อคอและหลังของเรา

ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง

ง่ายที่สุด และเร็วที่สุดด้วย!


ท่าที่ 1 # Simple Neck Stretch

รูปภาพ:https://assets.booksforbetterliving.com/wp-content/uploads/2018/03/Simple-Neck-Stretch-2.jpg

1.นั่งตัวตรงบนเก้าอี้ ขาวางตรงไม่ไขว้กัน โดยให้เข่าทั้งสองข้างห่างกันเท่ากับระดับสะโพก เท้าราบกับพื้น

2.ผ่อนคลายหัวไหล่ วางมือพักบนหน้าตักทั้งสองข้าง

3.ตามองตรงไปข้างหน้า ศีรษะด้านหลังต้องเป็นเส้นตรงกับแนวหลัง

4.พยายามรักษาระดับสายตาและระดับอกให้ตรงไปข้างหน้า จากนั้นหมุนศีรษะไปทางขวา จนกระทั่งรู้สึกรั้งบริเวณคอในทิศตรงข้าม ผ่อนคลายหัวไหล่ตลอดการทำ

5.ค่อยๆ หายใจเข้า-ออก นับ 1 - 5

6.หมุนศีรษะกลับมาที่เดิม หยุดแล้วเช็คลักษณะการนั่งให้เหมือนตอนเริ่มต้น แล้วทำใหม่ แต่ทีนี้ให้เปลี่ยนเป็นข้างซ้ายแทน ทำครบ 2 ข้างนับเป็น 1 ครั้ง

7.ทำทั้งหมด 3 ครั้ง


ท่าที่ 2 # Extended Neck Stretch

รูปภาพ:https://assets.booksforbetterliving.com/wp-content/uploads/2018/03/Extended-Neck-Stretch.jpgรูปภาพ:https://assets.booksforbetterliving.com/wp-content/uploads/2018/03/Extended-Neck-Stretch.jpg

1.ทำท่าเหมือนในท่าที่ 1 เด๊ะเลย แต่ในขั้นตอนที่หมุนคอกลับมาตรงกลาง ให้เราเปลี่ยนเป็นหมุนศีรษะเป็นวงกลม จนหันไปอีกข้างหนึ่งตามภาพ

2.หายใจช้าๆ เมื่อบรรจบตรงที่เดิม ให้นับ 1 - 5

3.หมุนศีรษะกลับมาตรงกลาง แล้วทำซ้ำแต่เปลี่ยนทิศที่หมุน ทำครบ 2 ข้างนับเป็น 1 ครั้ง ให้ทำท่านี้จนครบ 3 ครั้ง


ท่าที่ 3 # Chin Tuck

รูปภาพ:https://assets.booksforbetterliving.com/wp-content/uploads/2018/03/Chin-Tuck.jpg

1.นั่งบนเก้าอี้ ตัวตรง เข่าห่างกันเท่ากับความกว้างสะโพก เท้าราบกับพื้น

2.ผ่อนคลายหัวไหล่ วางมือบนหน้าตักทั้งสองข้าง

3.ตามองตรงไปข้างหน้า เก็บคางให้ศีรษะด้านหลัง ตรงเป็นแนวเดียวกับหลัง

4.ดึงคางไปด้านหลัง โดยให้ระดับสายตาอยู่ที่เดิม เหมือนกับว่าคุณกำลังพยายามกดศีรษะด้านหลังไปกับกำแพง

5.ค้างท่านี้ไว้ นับ 1 - 5

6.ผ่อนคลาย แล้วทำซ้ำ 5 ครั้ง

7.คุณสามารถเพิ่มความรั้งให้มากขึ้น ด้วยการก้มมองด้านล่าง ราวกับว่าจะทำให้คางติดกับกระดูกไหปลาร้า


เพียงแค่คุณ

ทำ 3 ท่านี้ เมื่อมีเวลาว่างในทุกๆ วัน

ก็จะไม่ต้องพบกับปัญหาอาการปวดคอ ปวดหลังด้านบนกันอีกเลย แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้

ก็อย่าลืมหาเวลาว่างไปออกกำลังกายด้วยนะคะ

ร่างกายส่วนอื่นๆ จะได้บริหารด้วย ^^