7 วิธีผิดๆ ในการดื่ม 'สมูทตี้' ที่ทำให้อ้วนขึ้น | บทความของ Mollacake

สาวๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก และต้องการหาเครื่องดื่มที่ทำให้อิ่มท้อง, อร่อย และแคลอรี่ต่ำ คงหนีไม่พ้นเมนูที่ชื่อว่า" สมูทตี้ "

เพราะมีรสชาติที่หลากหลาย จากส่วนผสมหลากหลายชนิด ทั้งผัก ผลไม้ต่างๆ เติมความหวานด้วยน้ำผึ้ง โยเกิร์ตหรือน้ำเชื่อมก็ได้

ทั้งหวานทั้งเย็น ดื่มเพลินจนรู้ตัวอีกที อ้าว!! น้ำหนักไม่ลดลงเลยนี่หว่า เผลอๆ พุ่งทะยานขึ้นอีกด้วย -

ไม่ต้องตกใจไป!สมูทตี้ไม่ใช่เครื่องดื่มที่มีพิษภัย เพียงแต่เธอดื่มผิดวิธีเท่านั้นจึงทำให้อ้วนขึ้น -..

ถ้าอยากรู้ต้นตอของสาเหตุก็อ่านบทความนี้กันได้เลย *____*b

1. มีส่วนประกอบที่เป็น " ไฟเบอร์ " ไม่เพียงพอ

" ไฟเบอร์ "เป็นส่วนประกอบที่เหมือนยาวิเศษในการทำให้น้ำหนักลดลงได้ เพราะทำให้เธอไม่หิวง่าย อิ่มท้องนานขึ้น และกินน้อยลงในมื้อถัดไปค่ะ

ผลไม้ก็มีไฟเบอร์เช่นกัน แต่ต้องเลือกให้ถูกชนิด!

แม้กล้วยจะเป็นผลไม้หลักๆ ในการทำสมูทตี้ เพราะหาซื้อง่าย และรสชาติหวานอร่อย แต่กล้วยครึ่งผลให้ไฟเบอร์แค่ 1.4 กรัมเท่านั้นเอง

ถ้าอยากดื่มสมูทตี้อย่างมี" คุณภาพ "จงหาส่วนผสมที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์อย่างน้อย 10 กรัม

เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, ผักคะน้า ( มีไฟเบอร์มากกว่าผักโขมถึงสองเท่า ), อโวคาโด, กีวี่, ลูกแพร์, ถั่วต่างๆ, เมล็ดเชีย ( Chia Seeds ) และผงโปรตีนที่มีส่วนประกอบจากพืชค่ะ

2. ไม่มีส่วนประกอบที่เป็น " โปรตีน "

สาวๆ หลายคนใช้สูตรไดเอทโดยดื่มแต่" สมูทตี้ผัก "เพียงอย่างเดียว

นำผักชนิดต่างๆ มาปั่นรวมกันแล้วดื่มโดยลืมไปว่า ร่างกายยังต้องการสารอาหารอยู่!

แม้ผักจะมีไฟเบอร์ทำให้อิ่มท้อง แต่ก็ไม่เท่าสารอาหารประเภทโปรตีน เพราะโปรตีนช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ไม่หิวบ่อยจนต้องกินขนมจุกจิก

อยากดื่มสมูทตี้อย่างมีคุณภาพ ต้องใส่โปรตีนลงไปผสมอย่างน้อย 10 กรัม

ส่วนผสมที่แนะนำคือ นมสด นมถั่วเหลือง ( นมอัลมอนด์ 1 ถ้วย ให้โปรตีนแค่กรัมเดียว เป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า ), กรีกโยเกิร์ต, คอตเตจชีส, ผงโปรตีน, เต้าหู้ญี่ปุ่นชนิดนิ่ม, ถั่วเมล็ดเขียว และถั่วสีน้ำตาล หรือจะเป็นเนยถั่วก็ได้ค่ะ

*ที่สำคัญ อย่าลืมกะปริมาณให้พอดี อย่าเทพรวดลงไปเยอะๆ ล่ะ*

3. ใส่ส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ " มากเกินไป "

สาวๆ จะรู้ไหมว่า สมูทตี้หวานๆ เย็นๆ เนื้อเนียนเป็นครีมหนาเพราะใส่ทั้งผลไม้ ครีม ถั่วปั่นรวมกันนั้น อาจมีพลังงานมากกว่าโดนัทหนึ่งชิ้นเสียอีก!

แม้ผลไม้จะมีสารอาหาร และไฟเบอร์ต่างๆ แต่ก็ยังมีแคลอรี่อยู่

ถ้าปั่นสมูทตี้ด้วยผลไม้ห้าชนิดรวมกัน อาจมีพลังงานรวมมากกว่า 500 แคลอรี่ หรือข้าวขาหมูหนึ่งจานเลยเชียวนะ

ผลไม้มีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำตาลธรรมชาติ ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลนี้อย่างรวดเร็วก่อนจะดิ่งลง ทำให้เธอกลับมาหิวจนแสบไส้อีกครั้งในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง -.-เลี่ยงปัญหานี้ด้วยการจับคู่ส่วนประกอบเป็นผลไม้ x อาหารจำพวกโปรตีน

เช่น นมสด นมถั่วเหลือง โยเกิร์ต ผงโปรตีน ( Protein Powder ) เต้าหู้ชนิดนิ่ม ถั่ว และเนยถั่วค่ะ

4. ใส่ " น้ำตาล " มากเกินความจำเป็น

จะดื่มสมูทตี้เพื่อสุขภาพ ต้องควบคุมความหวานกันหน่อย!

น้ำผึ้ง หรือเมเปิ้ลไซรัป 1 ช้อนโต๊ะ เพิ่มพลังงานโดยรวมได้ถึง 60 แคลอรี่ ซึงจะกลายเป็น

" ส่วนเกิน "

ทันที ถ้าเธอใส่ผลไม้ที่มีความหวานโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หรือสาวๆ บางคนอาจใส่โยเกิร์ตรสต่างๆ น้ำผลไม้ นมรสหวาน หรือผลไม้เชื่อมแทน ยิ่งทำให้น้ำหนักขึ้นรัวๆ จนตาชั่งต้องร้องขอชีวิต -.-

เลือกเติมส่วนประกอบที่มี" รสหวาน "อย่างมีสติ แล้วใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติ, นมถั่วเหลืองไม่เติมน้ำตาล หรือนมอัลมอนด์แทน

สาวที่ติดรสหวาน อาจไม่ชอบรสจืดในครั้งแรก แต่เมื่อดื่มไปนานๆ เธอจะเริ่มชินกับรสหวานอ่อนๆ แล้วล่ะค่ะ ทำเถอะเพื่อสุขภาพที่ดี *_*

5. ใส่ส่วนผสมที่แคลอรี่ " เยอะ " เกินความจำเป็น

ก็รู้อยู่หรอกว่า สมูทตี้ต้องมีประโยชน์กับสุขภาพ แต่ต้องใส่ใจส่วนผสมให้เยอะๆ เพราะสิ่งที่มีประโยชน์ไม่ได้หมายความว่า แคลอรี่จะน้อยตามไปด้วย!

ส่วนผสมอย่างอโวคาโด อินทผลัม ถั่ว เนยถั่ว โยเกิร์ตไขมันปกติ นมรสหวาน น้ำผลไม้สด ข้าวโอ๊ต หรือผลไม้จำพวกแอปเปิล ลูกแพร์ มะม่วง เชอร์รี่ และกล้วย

อาจเพิ่มจำนวนได้มากกว่า 100 แคลอรี่

สาวๆ อาจคิดว่า พูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นไม่ใส่เลยก็แล้วกัน!

ไม่ต้องหักดิบขนาดนั้นค่ะ ใส่ได้แต่ยั้งมือใส่น้อยๆ หน่อยก็พอแล้ว =w=

6. เครื่องปั่นขนาดใหญ่ ทำให้ดื่มเยอะตามไปด้วย

สาวๆ หลายคนถือคติว่า " ปั่นมาเท่าไหร่ก็ต้องดื่มให้หมด เดี๋ยวของจะเสีย!" ( แช่ตู้เย็นเก็บไว้กินวันหลังก็ได้นะ -.- )

ที่บ้านก็มีแต่เครื่องปั่นไซส์ใหญ่เบิ้ม ขนาดดื่มสองคนยังไม่หมด เลยต้องเตรียมส่วนผสมเยอะตามไปด้วย หลังจากประโคมส่วนผสมทุกอย่างลงไปปั่น กว่าจะรู้ตัวเธอก็ได้สมูทตี้พลังงานสูงเต็มกระติกแล้ว = =

วิธีแก้ไขปัญหาก็ง่ายๆ แค่ชั่ง ตวง วัดส่วนผสมให้เป๊ะแทนการกะด้วยสายตา( เพราะเรามักมองอาหารจานเล็กกว่าความเป็นจริงเสมอ )

ถ้าเป็นไปได้พยายามควบคุมจำนวนพลังงานไม่ให้เกิน 300 แคลอรี่ หากต้องดื่มคู่กับขนมปังปิ้งสักแผ่นสองแผ่นค่ะ

7. กิน " ขนมจุกจิก " คู่กับสมูทตี้

สาวๆ หลายคนเป็นสายเข้าฟิตเนส ออกกำลังกายให้หุ่นเซี้ยะ เธอจึงมโนไปเองว่าการกินขนมมื้อว่าง ( Snack ) ควบคู่กับสมูทตี้ช่วยเพิ่มพลังงาน เพิ่มกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายแข็งแรง

ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ ขนมก็คือ ขนม ไม่ใช่อาหาร!

สมูทตี้สูตรปกติจะมีพลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ขึ้นไป ขนมกินเล่นที่ขายในร้านค้าทั่วไปก็มักเริ่มต้นที่ 150 แคลอรี่

ถ้ากินขนมเพลินก็อาจทำให้อ้วนรัวๆ ได้

ดังนั้น หากอยากผอม ไม่มีแคลอรี่ส่วนเกินก็กินของว่างพลังงานต่ำแค่ 1 กำมือ หรือจำกัดแคลอรี่ของสมูทตี้ให้เหลือแค่ครึ่งเดียวค่ะ

============================

จบไปแล้วกับ 7 เหตุผลที่การดื่มสมูทตี้แบบผิดวิธี ทำให้เธออ้วนขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ TT^TT สาเหตุหลักๆ อยู่ที่การไม่ศึกษาชนิด และข้อมูลทางโภชนาการของส่วนผสมต่างๆ มากพอ ผลไม้ หรือถั่วบางชนิดมีแคลอรี่สูง เมือใส่เยอะก็ทำให้สมูทตี้แก้วนั้นพลังงานสูงปรื๊ด ( แทบจะกินแทนข้าวมื้อหลักได้ ) ยิ่งดื่มคู่กับของว่างอย่างโปรตีนบาร์ ถั่ว ก็ยิ่งทำให้อ้วนสุดๆ

บทความนี้ไม่ได้บอกว่าให้เธอเลิกกินสมูทตี้หรอกนะ! แค่เลือกสิ่งที่สารอาหารครบแต่แคลอรี่ต่ำ ดื่มในเวลาที่ต้องการพลังงานในการออกกำลังกาย และเลือกของกินเล่นที่พลังงานไม่สูงเกินไป เท่านี้เธอก็จะดื่มสมูทตี้อย่างมี " คุณภาพ " และผอมได้อย่างแน่นอน

เป็นกำลังใจให้สาวซิสต้าทุกคนผอมสวยสุขภาพดีค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ ^____^

============================