เคยรู้สึกเบื่อกันบ้างไหมคะกับการเดินเล่นในห้าง วันหยุดไม่รู้จะไปไหนก็เดินห้าง วันนี้เรามีตัวเลือกใหม่ๆ ในกรุงเทพฯ ให้คุณค่ะ ที่นอกจากได้ออกไปเปิดหูเปิดตาแล้ว ยังเป็นการเที่ยวแบบได้ความรู้อีกด้วย จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ
1. ท้องฟ้าจำลอง
ท้องฟ้าจำลอง หรือ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา
สถานที่ที่
ให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์
ได้แก่
อาคารท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ
เปลี่ยนหัวข้อการแสดงทุกๆ 2 เดือน ภายนอกอาคารแสดงนิทรรศการเรื่อง ดวงดาวกับชีวิต
อาคารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แสดงเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
อาคารโลกใต้น้ำ
แสดงนิทรรศการ มหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ
อาคารธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แสดงนิทรรศการสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา
และ
อาคารวิทยาศาสตร์สุขภาพ
บริการสถานที่ออกกำลังกาย อาทิเช่น สระว่ายน้ำ สนามฟุตซอล
เวลาทำการ
: วันอังคาร – อาทิตย์ เวลา : 08.30-16.30 น.
ติดต่อ
: 0-023921773,0-29310544, 0-29320508
การเดินทาง
: ลง BTS สถานีเอกมัย ใช้ทางออก 2 ไปทางสถานีขนส่งเอกมัย
2. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหาคร
ตั้งอยู่ในเขตปทุมวัน ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัยรุ่น เนื่องจากต้องการให้เป็นทางเลือกเพื่อยกระดับจิตใจ และความเจริญก้าวหน้า รณรงค์ให้คนรุ่นใหม่ได้เปิดโลกทัศน์ และเป็นสถานที่ที่ให้รวมตัวกันเพื่อกิจกรรมด้านศิลปะในทุกๆแขนง ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กวี ละคร ภาพยนตร์ เสวนา และ วรรณกรรม แต่กว่าจะได้เป็นหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หอศิลปะเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ก็ต่อสู้กันมาอย่างยากลำบาก ถึงขนาดมีโครงการรณรงค์ จัดกิจกรรมวาดภาพเขียนยาวกว่า 4 กิโลเมตรในหัวข้อ
"ฉันเรียกร้องหอศิลป์ ไม่เอาศูนย์การค้า"
ภายในอาคารแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆดังนี้ส่วนนิทรรศการย่อยกิจกรรมศิลปะ ร้านค้า และห้องสมุด ได้แก่ชั้น 5 - ห้องออดิทอเรียม ห้องประชุม และเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น 4 – ห้องสตูดิโอ ห้องประชุม และร้านค้าชั้น 3 – ร้านค้า และทางออกไปยัง Skywalk สู่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติชั้น 2 – People’s gallery ร้านค้า และองค์กรศิลปวัฒนธรรมชั้น 1 – โถง และห้องอเนกประสงค์ชั้น L – ห้องสมุดศิลปะ และโถงด้านหน้าส่วนนิทรรศการหลักชั้น 7, 8, 9 ใช้จัดแสดงงานนิทรรศการขนาดใหญ่เวลาทำการวันอังคาร-อาทิตย์ 10.00-21.00น.ติดต่อ02 214 6630 - 8การเดินทางBTS ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.bacc.or.th/
3. Bangkok SeaShell Museum
พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย
ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนซอย 23 เป็นสถานที่จัดแสดงเปลือกหอยจากทั่วโลก 600 ชนิด กว่า 10000 ตัว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เกิดจากการศึกษาผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่นของคุณจอม สมหวัง ปัทมคันธิน ผู้เชี่ยวชาญด้านเปลือกหอยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และ แฟนพันธุ์แท้เปลือกหอย 2 สมัย ร่วมกับ คุณอรพิน ศิริรัตน์ นักธุรกิจด้านอัญมณี ที่หลงใหลความสวยงามของเปลือกหอยเป็นทุนเดิม ภายในจัดแสดงเปลือกหอยที่มีความสำคัญไว้มากมาย อาทิเช่น
เปลือกหอยมือเสือยักษ์ จากประเทศอินโดนีเซีย มีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม
ฟอสซิลแอมโมไนต์ อายุมากกว่า 100 ปี ขุดพบจากประเทศเยอรมัน
เปลือกหอยทากมรกต จากเกาะปาปัว สูญพันธุ์ไปแล้วในปัจจุบัน
ภายในอาคารแบ่งเป็น 3 ชั้น
ชั้นที่ 1 เปลือกหอย ฝาเดี่ยว สองฝา และเม่นทะเล
หอยมือเสือยักษ์หอยสองฝาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ,หอยสังข์ทะนานมงกุฏจากออสเตรเลียหอยเท้าช้างชนิดต่างๆ , ส่วนเม่นแสดงเพื่อให้ทราบถึง วงจรการล่าเหยื่อ
ชั้นที่ 2 จัดแสดงเปลือกหอยฝาเดี่ยว หอยสองฝา และหมึกเน้นเปลือกหอยสองฝาที่มีสีสันสวยงาม เช่นหอยเชลล์จักรพรรดิ หอยเชลล์โซมาเลีย หอยแครงหัวใจ
หอยฝาเดี่ยวกลุ่มหอยแต่งตัวมีลักษณะการสร้างและตกแต่งเปลือกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกลุ่มหมึกจัดแสดงฟอสซิลแอมโมไนต์ อายุ 160 ล้านปี และหมึกที่เป็นที่รู้จักกันในนามหอยงวงช้าง ด้วยโครงสร้างของเปลือกที่ซับซ้อนจึงเป็นต้นกำเนิดของเรือดำน้ำในปัจจุบันชั้นที่ 3 จัดแสดงเปลือกหอยทะเลน้ำลึก เปลือกหอยหายาก กลุ่มหอยนักล่าทั้งมีพิษและไม่มีพิษ เปลือกหอยน้ำจืด และเปลือกหอยทากบก ทากต้นไม้ ไปจนถึง หอยทาก
หอยนมสาวน้ำลึกหรือหอยนมสาวปากร่อง และหอยเต้าปูนซึ่งเรารู้จักกันในนามของหอยมรณะ ไม่เพียงแค่มีอันตรายต่อหอย หรือปลา แต่ยังสามารถฆ่าชีวิตมนุษย์ได้ภายในเวลา 1 ม้วนบุหรี่เท่านั้น
หอยน้ำจืดเช่นหอยกาบแม่น้ำน้อยคนนักจะรู้ว่าภายในเปลือกดำๆ ภายในจะอุดมไปด้วยสารเคลือบมุก มีผิวมุกที่สวยงามไม่แพ้มุกจากทะเลหอยทากประหลาดใจกับสีสัน และลวดลายที่น่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งการแพร่ขยายพันธุ์ของหอยทากนี้สามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าป่านั้นยังสมบูรณ์อยู่หรือไม่
การจัดกลุ่มเพื่อจัดแสดง
เวลาทำการ
วันจันทร์ - อาทิตย์ 10.00 น. - 18.30 น.
ติดต่อ
02-2340291,081-7321822
การเดินทาง
BTS ลงสถานีสุรศักดิ์ หรือสถานีสะพานตากสิน หรือนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาขึ้นที่ท่าสะพานตากสิน แล้วเดินมายังซอยสีลม 23
4. พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง
บ้านคำเที่ยง หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง
บ้านคำเที่ยง หรือ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเยือน ซึ่งตั้งอยู่ในสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเรือนคำเที่ยงนี้ เป็นเรือนเครื่องสับแบบล้านนาไทยดั้งเดิม หรือ
" เรือนกาแล "
เป็นเรือนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี สร้างขึ้นครั้งแรกริมฝั่งน้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ จน พ.ศ.2506 นางกิมฮ้อ นิมมานเห- มินทร์ เจ้าของเรือนได้มอบเรือนเก่าแก่ของตระกูลให้แก่สยามสมาคม เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา และรักษาศิลปะล้าาไทย
เวลาทำการ
วันอังคาร-วันเสาร์ ( ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ) 09.00-17.00 น.
ติดต่อ
0 2661 6470–7
การเดินทาง
ลงสถานีอโศก E4 ( สายสุขุมวิท ) แล้วใช้ทางออกที่ 3 เลี้ยวซ้ายสี่แยกอโศก
5. นาฏยศาลาหุ่นละครโจหลุยส์
โจหลุยส์ หรือ นาฏยศาลาหุ่นละครเล็กคณะการแสดงละครเล็ก หรือหุ่นกระบอก ของอาจารย์สาคร ยังเขียวสด หรือ " โจหลุยส์ " และครอบครัว ได้จัดให้มีการแสดงต่อสาธารณะ ครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2528 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงและการทำหุ่นของไทย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระราชทานชื่อโรงละครโจหลุยส์ว่า “ นาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก ” และได้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ " มูลนิธินาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก"โรงละครโจหลุยส์ ที่สวนลุมไนท์บาร์ซ่า ได้ปิดตัวไปในปี พ.ศ. 2553 และต่อมาได้เปิดขึ้นใหม่ที่ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์เวลาทำการ11.00-23.00 น.โชว์สำหรับลูกค้าร้านอาหาร ทุกวันอังคาร-อาทิตย์เวลา 19.00 น.ติดต่อ021084488,021084000,0838261125การเดินทางBTS สะพานตากสิน ต่อเรือข้ามไปยังเอเชียทีค
เลือกกันได้หรือยังคะ ว่าวันหยุดนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเที่ยวไหนกันดี นอกจากจะไม่ซ้ำ และจำเจแล้ว เรายังได้ความรู้ แต่ทำให้มีใจหวงแหนศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติอันสวยงามของบ้านเราอีกด้วยนะคะ
ขนาดต่างชาติเขายังรักเมืองไทย
เราเ
ป็นคนไทยแท้ๆจะไม่รักในบ้านเกิดของตัวเองได้ยังไงเนอะ
เที่ยวเสร็จอย่าลืมแชร์รูปสวยๆมาฝากกันบ้างนะคะ
>///<
บทความที่เกี่ยวข้อง
5ร้านเด็ดในดวงใจย่านปากเกร็ด
https://sistacafe.com/summaries/18687
3ธีมคาเฟ่สุดเจ๋งในเมืองไทยที่คุณต้องไปลอง
https://sistacafe.com/summaries/18860
รวม6สถานที่ท่องเที่ยวชิลๆใกล้กรุงไปกลับได้ภายใน1วัน
https://sistacafe.com/summaries/14535