ฮาโหลสาวๆ
เราทุกคนคงมีช่วงเวลาที่น่าอึดอัดใจ บางครั้ง
เราต้องจำยอมที่จะ " ตอบตกลง " เพียงเพราะความเกรงใจใช่ไหม
คะ ซึ่งพอถึงเวลาจริงๆ เราก็ทำได้แค่ยอมรับชะตากรรม ทำตามที่รับปากไว้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เต็มใจ เฮ้อ ใครที่เป็นแบบนี้เราบอกเลยว่าไม่ดีแน่ เพราะนอกจากมันจะทำให้เธอไม่มีความสุขแล้ว มันยังทำให้งานออกมาไม่ดีด้วย
ดังนั้น
วันนี้เรามาหัดปฏิเสธกันหน่อยดีกว่าค่ะ เป็นเทคนิคง่ายๆ
ที่ถ้าเธอทำตามชีวิตของเธอจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ที่สำคัญเธอจะมีความสุขขึ้นแน่นอน อะไรจะขนาดนั้น เอาล่ะ ดังนั้นอย่ามัวเสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
#1 ทำความเข้าใจว่า " การปฎิเสธ " ไม่ใช่ความผิดความผิด
การที่หลายคนเลือกที่จะไม่ปฏิเสธ และยอมจำนนต่อคำขอร้องต่างๆ ก็เป็นเพราะคิดว่าการปฏิเสธคือความผิดและทำให้เธอดูไม่มีน้ำใจ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้น
การปฏิเสธในกรณีที่เธอไม่สะดวกใจ หรือไม่มีเวลาทำให้นั้นไม่ใช่ความผิด
อย่าลืมว่าทุกคนมีหน้าที่ที่ไม่เหมือนกัน เธอเองก็มีสิ่งที่จะต้องทำเช่นเดียวกับเขา
ซึ่งบางครั้งเหตุผลของเธอก็อาจจะ " จำเป็น " หรือ " เร่งด่วน " กว่า ดังนั้นไม่จำเป็นต้องคิดว่ามันคือความผิดนะคะ
แต่ในทางกลับกันหากเธอสามารถช่วยเหลือเขาได้ นั้นคือ "น้ำใจ" ที่เธอมีต่อเพื่อน
การช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่เพื่อนควรทำ แต่ก็อย่าแบกรับทุกๆ อย่างไว้ที่ตัวเอง
อย่าลืมว่าชีวิตเป็นของเธอ อย่าให้ความเกรงใจ หรือปัญหาของคนอื่นมาเบียดเบียนชีวิตเรานะคะ ดังนั้นล้างสมองตัวเอง และเปลี่ยนความคิดนั้นซะ
แล้วถ้าเพื่อนเกิดไม่พอใจ หรือโกรธล่ะก็ เลิกคบเขาไปเถอะค่ะ
เพราะเพื่อนที่แท้จริงจะไม่วันโกรธด้วยเรื่องไร้สาระพวกนี้
#2 อย่ากลัวที่จะดูถูกนินทา
เป็นความจริงที่ว่า
เราไม่สามารถทำให้ทุกคนรักเราได้
อีกทั้งยังไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้
ดังนั้นเลิกคาดหวังว่าทุกคนจะรักและเข้าใจเรานะคะ เพราะมันจะทำให้เราเหนื่อยที่ต้องคอยเอาใจและทำให้คนอื่นรู้สึกดีตลอดเวลา
เรื่องของการนินทานั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนต้องโดน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะรู้ตัวไหมก็เท่านั้นเอง จำไว้ว่าการที่เขาพูดถึงเรา " เป็นเรื่องของเขา " เราไม่ได้เดือนร้อน หรือแย่อย่างที่เขาพูด ดังนั้นถ้าการปฏิเสธอย่างจริงใจนี้ทำให้เพื่อนหรือใครก็ตามไม่พอใจก็เลิกคบเขาไปได้เลยค่ะ เพราะคนแบบนี้ก็ไม่มีค่าให้เราสนใจเช่นเดียวกัน
#3 บอกเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา
สิ่งต่อมาที่เราแนะนำให้ทุกคนทำก็คือการบอกเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา ถ้าเราไม่สะดวก หรือไม่สามารถทำได้ให้พูดอย่างตรงไปตรงมา
ทั้งนี้เธออาจจะบอกเหตุผลที่จำเป็นต้องไปทำด้วยเพื่อทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้ละเลยหรือไม่ช่วยเหลือเขา
นะคะ อีกทั้งน้ำเสียงที่พูดก็ต้องอ่อนน้อมนุ่มนวล โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า แต่ทั้งนี้
เหตุผลที่ใช้ต้องสั้นกระชับชัดเจน เพื่อให้ไม่ดูเป็นข้ออ้าง
นะคะ ไม่ใช่ตอบแค่ " ขี้เกียจ " หรือ " ไม่ว่าง " มันเป็นเหตุที่ไร้สาระที่ทำให้คนฟังเข้าใจผิด และคิดลบได้
#4 วิธีลดความคาดหวังของอีกฝ่าย
มันจะมีคนบางประเภทที่ยิ่งเราทำให้ก็ยิ่งได้ใจ
คิดว่าเราจะทำให้ทุกอย่าง เห็นเราใจดี ยอมช่วยใช้ให้ทำอะไรก็รับปากไปหมด ก็เอาใหญ่
ดังนั้นเธอต้องพูดปฏิเสธออกไปอย่างจริงจังบ้าง
อาจจะเริ่มจากการลดความช่วยเหลือเขาลงทีละน้อย โดยให้เหตุผมที่หนักแน่นพอ อย่าตอบสนองทุกอย่างที่เค้าเรียกร้อง
บางครั้งอาจจะพูดเป็นนัยๆ ให้เขารู้สึกว่าเธอได้ช่วยเขาไปเยอะแล้ว
เป็นการปฏิเสธแบบแยบยล ซึ่งเมื่อเขามีฉนักติดหลัง เขาก็จะยอมอ่อนข้อ และล่าถอยไปเอง
#5 อยู่กับคนที่รัก และจัดสมดุลให้ดี
เมื่อเธอรู้จักปฏิเสธเธอก็จะมีเวลาส่วนตัวให้กับคนที่รัก ครอบครัว แฟน หรือแม้แต่ตัวเองมากขึ้น ซึ่งมันจะทำให้เธอมีความสุขขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้ง
การซื่อสัตย์กับตัวเอง พูดในสิ่งที่ใจคิด และอยากทำจะทำให้เธอเคารพตัวเองมากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้เธอเข้มแข็งและกล้าแสดงออกมากขึ้น
นี่แหละค่ะที่บอกว่ามันจะทำให้เธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเทคนิคดีๆ ที่
เรานำมาฝากกันวันนี้ หวังว่าสาวๆ คงจะชอบกันนะคะ ใครกำลังตกที่นั่งลำบาก ปฏิเสธไม่เป็นก็ลองเอาไปทำตามกันนะคะ เอาล่ะ...ครั้งหน้าก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ ส่วนวันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ บาย
Cr.LEARN HOW TO SAY NO, WITHOUT FEELING GUILTY
https://putthekettleon.ca/2018/04/02/learn-how-to-say-no-without-feeling-guilty/